Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ร่วมถวายพระ ๙ นิ้ว,ประดับเพชรพระประธาน วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
โมฆบุรุษ
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2004
ตอบ: 38

ตอบตอบเมื่อ: 12 ก.พ.2007, 2:57 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขออนุญาตท่านผู้ดูแลระบบ ประชาสัมพันธ์งานนี้ด้วยครับ
ขอบคุณครับ


จากคำบอกเล่าของพี่คมสันและพี่โย
ที่ได้ไปร่วมงานทอดกฐินที่วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ เมื่อปลายปีที่แล้วครับ

"หลังจากถวายกฐินกับหลวงตาชลอเสร็จ ทางหลวงน้าสุภาพก็แจ้งว่า
พระสมเด็จองค์ปฐม (๙ นิ้ว) ที่สร้างแล้วเสร็จนั้น ๒๘ องค์
มีเจ้าภาพแล้วเพียง ๖ องค์ ยังเหลืออีก ๒๒ องค์ยังไม่มีเจ้าภาพครับ
วันนั้น ทางวัดได้มีพิธีอัญเชิญสมเด็จองค์ปฐมปางจักรพรรดิ
ขึ้นประดิษฐานที่ช่องกระจก ด้านบนของโบสถ์

โดยเจ้าภาพทำบุญกองละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท
จะได้รับพระ ๒ องค์ ๑ องค์ประดิษฐานที่โบสถ์ และอีก ๑ องค์ เจ้าภาพนำกลับบ้านไปบูชา
หรือทำเป็นหมู่คณะก็ได้
ท่านใดต้องการทำบุญใหญ่ อานิสงส์มาก ในการสร้างสมเด็จองค์ปฐม
ก็ติดต่อทางวัดศาลพันท้ายนรสิงห์ด่วนครับ
โดยท่านเจ้าภาพสามารถจอง และนำเงินมาถวายได้ จนถึงวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ ครับ"

ดูรูปที่วัดบางส่วนได้ที่นี่ครับ
http://templ.es/gallery/v/Norasing/
ผมในนามของคณะอินทราพงษ์ เลยได้รับปากกับหลวงตาชลอไว้ เมื่อวันพุธที่ ๒๐
ธ.ค. ว่าจะรับเป็นเจ้าภาพ ๑ องค์ครับ
และพระ ๙ นิ้วที่จะได้รับมอบนั้น จะนำไปถวายต่อ เป็นสังฆทาน
โดยมีหลวงพ่อบุญรัตน์ กันตจาโร วัดโขงขาว เป็นองค์แทนคณะสงฆ์ครับ

หลวงตาชลอท่านจะนำเงินที่ได้รับ หลังจากหักค่าใช้จ่ายในการจัดสร้างพระ ๙
นิ้วแล้วจำนวนนี้ มาประดับเพชรที่องค์ประธานในพระอุโบสถครับ
ถ้าอยู่ในกรุงเทพ โอนเข้าบัญชีพี่นันทวดีได้ครับ
ชื่อบัญชี นันทวดี ไทยวงษ์
บัญชีออมทรัพย์
ธนาคารกรุงเทพ
สาขาอินทามระ
เลขที่ 138-4-36529-0

ถ้าอยู่เชียงใหม่ สามารถโอนเข้าบัญชีนายธีระได้ครับ
(บัญชีนี้ ผมตรวจสอบผ่านทาง Internet Banking ได้เองครับ)
ชื่อบัญชี นาย ธีระ จรัสวุฒิยากร
บัญชีออมทรัพย์
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
สาขาถนนช้างคลาน เชียงใหม่
เลขที่ 220-1-20019-4

หากอยู่นอกเขต ๒ จังหวัดนี้แล้ว
จะโอนเข้าบัญชีไหนก็ได้ครับที่สะดวก
เนื่องจากว่าเหลือเวลาอีกประมาณ ๒ สัปดาห์ แต่ยังขาดปัจจัยอีกเกือบหกหมื่นบาท
ผมเลยขอนำผ้ายันต์มหาเศรษฐี (ตามตำราหลวงปู่ปาน โสนันโท) มามอบให้เป็นที่ระลึก
สำหรับผู้ที่ร่วมทำบุญทุกๆ ๑๐๐ บาท จะได้รับผ้ายันต์มหาเศรษฐี ๑ ผืนครับ

Image

ยันต์มหาเศรษฐีนี้ ตามตำราท่านให้ติดไว้ตามที่รอด คาน ขื่อ หรือประตูบ้านครับ
ยิ่งเป็นสถานที่ที่มีคนเดินผ่าน เดินรอดบ่อยๆ ยิ่งดีครับผม

ท่านที่มีจิตศรัทธาจะร่วมทำบุญ ขอความกรุณาแจ้งที่อยู่ไว้ด้วยนะครับ

ผมขอเริ่มจัดส่งผ้ายันต์ชุดนี้ ให้หลังจากวันเสาร์ขึ้น ๕
ค่ำครั้งต่อไปนะครับ (เสาร์ที่ ๒๑ เม.ย.)
เพราะจะนำไปเข้าพิธีพุทธาภิเษกพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่วัดท่าขนุนให้อีกรอบครับ
หลวงน้าสุภาพแจ้งว่า วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์นี้

จะมีพิธีอัญเชิญพระขึ้นบนที่ประดิษฐาน และถวายผ้าป่าครับ ตั้งแต่ ๑๐.๐๐
น. เป็นต้นไป
ท่านที่สนใจ ขอเชิญร่วมพิธีได้นะครับ

เบอร์โทรศัพท์ของวัดฯ โทร. (034) 478318

ทางไปวัดศาลพันท้ายนรสิงห์ ถนนเส้นที่ตัดใหม่ เสร็จแล้ว คือ....
เมื่อท่านขับรถมาตามถนนพระราม 2 มุ่งหน้าสู่มหาชัย
เมื่อผ่านหน้าวัดพันท้ายนรสิงห์ (ไม่ใช่วัดนี้)
ให้เลี้ยวซ้าย เลียบกำแพงวัดฯ แล้วขับไปในทิศทางที่ตรงไปเรื่อยๆ
มีป้ายบอกทิศทาง จนถึงทางเลี้ยวซ้ายไปศาลท่านเจ้าพ่อพันท้ายนรสิงห์
(มีหลักประหารเดิมอยู่ที่นี่ หลวงตาท่านเล่าให้ฟังว่า "ท่านเจ้าพ่อฯ
ท่านปรารถนาพุทธภูมิ ยอมเสียหัว ไม่ยอมเสียสัจจะ)
วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ ก็อยู่ติดกับบริเวณศาลนั่นเอง
 

_________________
http://LuangPor.com/

http://Buddhi.sm/audio/

http://Templ.es/gallery/

http://Bodhisattva.name/
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
โมฆบุรุษ
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2004
ตอบ: 38

ตอบตอบเมื่อ: 12 ก.พ.2007, 2:59 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ประวัติคร่าวๆ ของหลวงตาชลอ ที่พี่มหาหินเคยเล่าไว้เมื่อ ๒ ปีก่อนนะครับ

อาชีพเดิมก่อนบวชพระ เป็นชาวประมง(ตังเก)
มีอาจารย์ที่เป็นฆราวาส ชื่อ ปู่สาย (มีรูปหล่ออยู่ที่วัดฯ)
สามารถทรงสมาบัติ
เมื่อตายไปแล้ว หลวงตาฯบอกว่า ท่านก็ไม่ยอมกลับมาเกิดอีก

ท่านเขียนไว้ที่รูปของท่านเอง ที่เป็นฆราวาส ว่า....
วันเกิด 4 มีนาคม 2496
วันมรณะ 16 มิถุนายน 2523 (คือวันที่ตายจาก ฆราวาส เป็นภิกษุ)
นับถึงปัจจุบัน ครบ 25 พรรษา พอดี

สมัยก่อนโน้น บริเวณที่เป็นวัดในปัจจุบันนี้ ไม่มีถนน
การสัญจรต้องนั่งเรือตามคลองเท่านั้น
วิหารก็ไม่มี มีเพียงเพิงพักแรม เหมาะแก่พระที่ธุดงค์ ที่ผ่านมาเป็นครั้งคราว

เมื่อบวชใหม่ๆ ก็บวชตามประเพณี ท่านบอกว่า ก็นอนฟังเพลงไปวันๆ
จนกระทั่ง วันหนึ่ง มีหลวงตารูปหนึ่งท่านผ่านมา ถือหนังสือโลกทิพย์ มาด้วย
ท่านก็เลยขอยืมอ่าน ก็พบประวัติขององค์หลวงพ่อฤๅษีฯ ในหนังสือ

ตามปกติท่านเอง ก็ครุ่นคิด คำนึง อยู่ตลอดเวลาว่า ท่านอยากจะเสาะแสวงหา
"พระอาจารย์" สายปฏิบัติสักองค์หนึ่ง
เช่น หลวงปู่แหวนฯ หลวงปู่ฝั้นฯ หลวงปู่สิมฯ เพื่อกราบฝากตัวเป็นศิษย์

เมื่ออ่านประวัติขององค์หลวงพ่อฯ จากหนังสือ ท่านก็คิดอยู่ในใจ
และบอกกับตัวเองว่า เอ หลวงพ่อองค์นี้ก็เก่ง เหมือนกันนะ


แต่ ก็ต้องลองกันก่อน (ท่านก็บอกว่า ก็ดื้อพอสมควร)
ท่านจึงไปปักธูป 16 ดอก ปักกลางแจ้ง
แล้วอธิษฐานว่า "หากหลวงพ่อฯ แน่จริง ต้องให้ผมไปกราบท่านที่วัดท่าซุง
โดยที่ท่าน(หลวงตาชลอฯ) ไม่เสียเงินเลย"

อยู่ต่อมา 2-3 วัน มีโยมมาหาที่สำนัก(สงฆ์) และถวาย ล็อตเตอรี่ ไว้ 2 ใบ
ท่านก็รับไว้ ไม่ได้คิดอะไร
จนกระทั่งอีกหลายวันต่อมา โยมคนเดิม กลับมาที่วัด
บอกว่า หลวงพี่ตรวจล็อตเตอรี่ หรือเปล่า
ปรากฏว่า ถูกรางวัลเลขท้าย
ท่านก็คิดถึงคำอธิษฐานที่เกี่ยวกับองค์หลวงพ่อฯ ขึ้นมาอีกว่า
หรือว่าจะเป็นเหตุที่ควรจะไปหาหลวงพ่อฯ ที่วัดท่าซุง

ท่านจึงตัดสินใจเดินทางไปวัดท่าซุง
ตั้งแต่เดินทางออกจากวัด นั่งเรือ นั่งรถ 4 – 5 ต่อ
ปรากฏว่า ไม่เคยเสียเงินเลย
มีโยมจ่ายเงินให้ตลอดเส้นทาง จนถึงวัดท่าซุง
(ซึ่งก็ตรงกับคำอธิษฐาน และไม่เกี่ยวข้องกับลาภจากล็อตเตอรี่เลย)


ครั้งแรกที่กราบพบองค์หลวงพ่อฯ
เมื่อถึงเวลาลงรับแขกขององค์หลวงพ่อฯ ท่านก็ไปนั่งชิดในที่อันสมควร
เพื่อรอกราบพบองค์หลวงพ่อฯ
ท่านเล่าให้ฟังว่า ทันทีที่องค์หลวงพ่อฯ นั่งประจำที่
สายตาก็กวาดจ้องมาที่ท่าน แล้วก็กล่าวลอยๆ ขึ้นมาว่า....
"ไอ้คนเรา มันก็เที่ยวตามหา ครู อาจารย์ ที่เก่ง ๆ แล้วไอ้ตัวเองนะ
มันปฏิบัติบ้างหรือเปล่า"
ท่านก็บอกว่า มัน "แปล้บ" เข้ามาในจิตทีเดียว
(เพราะว่าเรื่องตามหาครู อาจารย์ นี่ มันคิดอยู่ในใจเท่านั้น
และเรื่องการปฏิบัตินั้น ท่านก็ปฏิบัติฟังเพลงไปวันๆ)


ต่อจากนั้น ท่านก็อยู่ที่วัดท่าซุง เพื่อฝึกปฏิบัติ และช่วยงานของวัด
จนกระทั่งท่านรู้สึกว่า อยากจะจำพรรษาที่วัดท่าซุง
เพื่อที่จะได้อยู่ปฏิบัติธรรมกับองค์หลวงพ่อฯ
ก็เลยออกปากขออนุญาตจากองค์หลวงพ่อฯ
องค์หลวงพ่อฯ ก็บอกว่าท่านไม่มีสิทธิ์อนุญาต เพราะว่าขัดต่อระเบียบของวัดท่าซุง
ที่ว่า พระที่จะจำพรรษาที่วัดฯได้ ก็ต่อเมื่อ
ต้องฝึกมโนมยิทธิให้ได้เสียก่อนที่จะบวช และต้องบวชที่วัดท่าซุงด้วย
ดังนั้น องค์หลวงพ่อฯ จึงสั่งให้ประชุมสงฆ์ และถามมติของสงฆ์ว่า
เห็นควรให้ พระชลอฯ อยู่จำพรรษาที่วัดท่าซุงหรือไม่
ปรากฏว่า คณะสงฆ์ลงมติอนุญาตให้ท่านอยู่จำพรรษาที่วัดท่าซุงได้
ท่านจึงสามารถอยู่ปฏิบัติธรรมกับองค์หลวงพ่อฯ ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2526 จนถึง
ปี พ.ศ. 2532


เหตุที่ออกจากวัดท่าซุง....
1. ท่านมีความผูกพันกับท่านเจ้าพ่อพันท้ายนรสิงห์
ท่านบอกว่า ท่านมีพี่น้อง 8 คน ตายเสียเกือบหมด
จนแม่ของท่านต้องพาท่านไปถวายให้เป็นลูกของท่านเจ้าพ่อพันท้ายนรสิงห์

2. ท่านรู้สึกว่า อยากจะสร้างวัดที่บริเวณศาลฯ
และพัฒนาวัดในดินแดนบ้านเกิดให้มีความเจริญรุ่งเรือง
แต่ทว่า ก่อนจะออกจากวัดท่าซุง การที่จะเอ่ยปากขออนุญาตองค์หลวงพ่อฯ
ออกจากวัดท่าซุง
กลับเป็นเรื่องที่ยุ่งยากใจอย่างมาก
กลัวองค์หลวงพ่อฯอย่างที่สุด
และคิดว่าองค์หลวงพ่อฯจะไม่อนุญาต
เพราะเกรงไปว่า ท่านอาจจะบอกว่า เอ็งเก่งแล้วหรือ ที่จะออกไปสร้างวัดฯ


เพื่อสร้างกำลังใจของท่าน ก็พอดีในห้องของท่านมีรูปปั้นดิน หลวงปู่ปาน
ท่านจึงอาราธนานำรูปปั้นหลวงปู่ปานมาทูนที่หัว และวนที่ศีรษะ
พร้อมกับขอให้หลวงปู่ปาน ช่วยดลจิต ดลใจ ให้องค์หลวงพ่อฯอนุญาตด้วยเถิด

แล้วท่านก็เลือกเวลาที่เหมาะสม หาเวลาที่องค์หลวงพ่อฯ อารมณ์ดีๆ
(ท่านบอกว่าความจริง องค์หลวงพ่อฯ อารมณ์ดีตลอดเวลา แต่ว่าคนเรามันกลัวนี่)
กล่าวคือ ทุก 8 โมงเช้า องค์หลวงพ่อฯ ท่านจะมานั่งห้อยเท้าอ่านหนังสือพิมพ์
โดยใช้แว่นขยายกลมใหญ่ ช่วยขยายตัวหนังสือพิมพ์
ท่านก็คิดในใจว่า หากองค์หลวงพ่อฯอนุญาต
ท่านก็จะจับเท้าองค์หลวงพ่อฯ มาวางที่หัวของท่าน
เพื่อเป็นสิริมงคลของตัวเอง ก่อนที่จะออกจากวัดไป

เมื่อท่านเดินเข้าไปใกล้ๆ องค์หลวงพ่อฯ ท่านเก็บขาที่ห้อยเท้าอยู่
ขึ้นมานั่งขัดสมาธิทันที
ทำให้ท่านมีอาการใจฝ่อไปถนัดเลย เกรงไปว่าองค์หลวงพ่อฯจะไม่อนุญาต
แต่ท่านก็กราบเรียน เพื่อขออนุญาตอยู่ดี เพราะว่ามีความตั้งใจแล้ว


ปรากฏว่า ท่านคาดผิดไปถนัด
เพราะว่า องค์หลวงพ่อฯ ท่านอนุญาต
และมอบแท่งทองชนวนที่เหลือจากการหล่อสมเด็จองค์ปฐมองค์ใหญ่ของวัดท่าซุง
จำนวน 3 แท่ง
องค์หลวงพ่อฯบอกว่า "ให้เอาไปสร้างวัด"
พร้อมกับทำพิธีเศกให้อีกครั้งหนึ่ง หลวงตาชลอฯท่านบอกว่า
คิดว่า องค์หลวงพ่อฯ จะทำพิธีให้แป๊บเดียว
แต่องค์หลวงพ่อฯท่านเข้าสมาบัติลึกเลย (มีรูปถ่ายมีแสงปาฏิหาริย์)
ตอนแรกหลวงตาชลอฯนั่งกระหย่ง(นั่งบนส้นเท้า)
ตอนหลังต้องเปลี่ยนมานั่งพับเพียบ (เพราะว่าเมื่อยมาก องค์หลวงพ่อฯทำพิธีให้นานมาก)


สาเหตุ ที่องค์หลวงพ่อฯ นั่งขัดสมาธิ
จนหลวงตาชลอฯไม่สามารถเอาเท้าขององค์หลวงพ่อฯมาวางที่หัวของท่านได้
มีคำเฉลยภายหลังว่า....
ก็เพราะว่า ก่อนที่หลวงตาชลอฯ จะออกจากห้องของท่านมา
ท่านอาราธนาให้หลวงปู่ปาน ช่วยด้วยการอาราธนาให้อยู่ที่หัวของหลวงตาชลอฯ เอง
จากข้อวัตร คำอธิษฐานของศิษย์นี่ ไม่สามารถหลบหลีก "เจโตฯ"
และความรู้จริง ขององค์หลวงพ่อฯ ได้เลย
ไม่แน่ว่า ขณะนั้น หลวงปู่ปานอาจจะนั่งมาบนหัวก็ได้....
แล้วจะให้องค์หลวงพ่อฯ เอาเท้าไปวางทับหลวงปู่ปาน ได้อย่างไร ....

องค์หลวงพ่อฯ ท่านรู้จริง และละเอียดมาก ขอกราบใต้บาทเท้าขององค์หลวงพ่อฯ
ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง

กราบ....
กราบ....
กราบ


หลวงตาชลอฯ ท่านเองก็กังวลอยู่ว่า การสร้างวัดนี่ ไม่ได้ด้วยความง่ายเลย
ท่านจึงกราบเรียนถามองค์หลวงพ่อฯว่า
"ที่กระผมออกมาสร้างวัดฯ นี้ จะสำเร็จหรือไม่ครับ"

องค์หลวงพ่อฯ ก็เมตตาบอกว่า "ถ้าเอ็งทำอย่างฉลาดๆ ก็จะไม่สำเร็จ
แต่ถ้าเอ็งอย่างโง่ๆ ก็จะสำเร็จ"
หลวงตาชลอฯ ท่านก็คิดในใจว่า "เอ มันอย่างไงกัน ทำฉลาดๆ น่าจะสำเร็จ
แต่องค์หลวงพ่อฯบอกว่าไม่สำเร็จ"

ท่านก็จึงกราบเรียนถามองค์หลวงพ่อฯใหม่ว่า "ทำฉลาดๆ ทำอย่างโง่ๆ อย่างไรครับ"
องค์หลวงพ่อฯ บอกว่า "ถ้าเองทำอย่างฉลาดๆ ญาติโยมทำบุญมา
ก็แบ่งเอาไปซื้อที่ดินเป็นของตัวเอง เอาไปให้สาวๆ บ้าง เก็บเอาใช้เองบ้าง
อย่างนี้ไม่สำเร็จ"

"แต่ถ้าใครทำบุญมาเท่าไร เอ็งก็เอาไปก่อสร้างวัดทั้งหมด
ไม่ยอมเอาไปใช้ในเรื่องส่วนตัวเลย อย่างนี้จะสำเร็จ"


และ องค์หลวงพ่อฯ ก็บอกว่า "เออ เอ็งไปเนี่ย เขาเอาเอ็งแน่นะ"
หลวงตาชลอฯ ท่านก็คิดในใจว่า เอ ไม่รู้ว่า ใครจะมาเล่นงานท่านหรือเปล่า
แต่ท่านก็ไม่ได้ถามต่อ
ต่อมา จึงรู้ว่า คำว่า "เขาเอาเอ็งแน่นะ" นั้นหมายถึง
ชาวบ้านเขารวมตัวกัน ต้องการให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัด
มันมีเหตุเพราะว่า มีหลวงตาองค์หนึ่งที่อยู่ที่นั่น อายุพรรษามากกว่า
อยากจะเป็นเจ้าอาวาส ก็ไม่ยอมให้หลวงตาชลอฯเป็นเจ้าอาวาส ชาวบ้านไม่ยอม
หลวงตาท่านนั้นก็ไม่ยอม

มันก็มีเรื่องแปลกที่ว่า ตรงนั้น เป็นสำนักสงฆ์เล็ก ๆ
ปกติไม่น่าที่จะเป็นที่สนใจสำหรับกรมการศาสนา
อยู่ ๆ ก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามา กำหนดให้หลวงตาชลอฯเป็นเจ้าอาวาส
(อาจเป็นเพราะเขาจะเข้ามาพัฒนา ศาลเจ้าพ่อฯก็เป็นได้ หรือไง ไม่รู้เหมือนกันครับ)
หากหลวงตาอีกองค์หนึ่งที่ไม่ยอม
ทางกรมการศาสนาก็จะหาพระจากที่อื่นเข้ามาเป็นเจ้าอาวาสเอง
หลวงตาองค์นั้นจึงยอม ปัจจุบันหลวงตาองค์นี้ก็ไม่ได้อยู่ที่วัดศาลฯแล้ว


ต่อจากนั้นมา หลวงตาชลอฯ ท่านก็เริ่มสร้างวัด
เริ่มต้นจากการถมที่ ทีเดียว
เพราะว่า สถานที่นั้นเดิมเป็น "วังกุ้ง" (หมายถึงบ่อเลี้ยงกุ้ง)
จึงต้องถมที่กันก่อนเลย
วัสดุก่อสร้างต่าง ๆ ก็ต้องมาทางเรือเท่านั้น
สมัยนั้นจึงมีความลำบากอย่างยิ่งต่อการพัฒนาที่ดิน และการพัฒนาวัดฯ

ท่านก็มีความตั้งใจจริง และอุตสาหะ อย่างยิ่ง


ต่อมา หลวงตาชลอฯก็ได้จัดสร้างวัตถุมงคล
ซึ่งวัตถุมงคลทุกรุ่นก็จะเติมด้วยแท่งทองที่องค์หลวงพ่อฯทำพิธีให้
เพื่อหารายได้สร้างวัด
ซึ่งวัตถุมงคลในสมัยแรก ๆ ที่องค์หลวงพ่อฯยังไม่ละสังขาร
หลวงตาก็นำไปเข้าพิธีที่วัดท่าซุง ให้องค์หลวงพ่อฯทำพิธีซ้ำเข้าไปอีก
มีอยู่หลายรุ่นที่มีประสบการณ์ บรรดาลูกศิษย์ตามหากันอยู่ในขณะนี้


ยกตัวอย่างสักเรื่องหนึ่ง ครั้งแรกเลย ท่านสร้างเป็นรูปหลวงปู่ปาน
เป็นรูปหล่อลอยองค์ องค์เล็กๆ
รุ่นนี้สร้างเพียง 5,000 องค์ ท่านบอกว่า กลัวว่าจะไม่ดัง กลัวไม่มีใครเอา
ท่านสร้างโดยผสมทองชนวนที่องค์หลวงพ่อฯมอบให้มา
แล้วยังนำไปให้องค์หลวงพ่อฯทำพิธีที่วัดท่าซุงอีกด้วย
ท่านก็เอามาแจกในงานกฐินของวัดศาลฯ ใครทำบุญ 100 บาท ท่านก็ให้หลวงปู่ไป 1 องค์

ปรากฏว่า มีประสบการณ์ กล่าวคือ มีคนที่รับหลวงปู่ปานไป ไม่ได้พกพระองค์อื่นเลย
ขับรถแล้วประสบอุบัติเหตุ รถเละเทะ
ใครที่เห็นรถก็ต้องรู้ว่า คนที่ขับมาต้องตายแน่ ๆ
แต่คนๆนั้นไม่มีอันตรายใดๆ เลย จึงกลับมาตามหาบูชากันอีก
(ก็เล่าสู่กันฟังครับ ผมเองก็มาไม่ทันในตอนนั้น ยังไม่รู้จักหลวงตาชลอฯ เลยครับ)


มีเกร็ดความรู้ เรื่องความรู้จริงขององค์หลวงพ่อฯ
หลวงตาชลอฯ เล่าให้ฟังว่า เมื่อเริ่มสร้างวัด
บริเวณนั้นเป็นน้ำเค็ม น้ำจืดไม่มีใช้ หาได้ยาก
จึงคิดที่จะเจาะน้ำบาดาล ก็จ้างช่างที่ชำนาญงานมารับจ้างเจาะ

ช่างที่มาสำรวจแล้วก็ลงมือเจาะทันที
เพราะว่าบริเวณนั้น เป็นชายเลน ชายทะเล
เจาะตรงไหน ก็ต้องมีน้ำแน่ ๆ
แต่ทว่าไม่แน่เสียแล้ว เพราะเจาะอย่างไรก็ไม่พบน้ำเลย
เป็นอันว่า ช่างก็ยอมแพ้ ยอมเสียเงินทุนการดำเนินงานหลายกะตังค์อยู่


หลวงตาชลอฯ เห็นว่า ไม่ได้น้ำแน่แล้ว จึงไปกราบเรียนองค์หลวงพ่อฯที่วัดท่าซุง
องค์หลวงพ่อฯก็บอกว่า "ให้ดูต้นไม้ ตรงไหนมีต้นไม้ ตรงนั้นมันจะมีน้ำ"
หลวงตาชลอฯ ก็ไปจ้างช่างคณะใหม่มาอีก แต่คณะนี้ดีที่ว่า
มาถามพระก่อนว่าควรจะเจาะตรงไหนดี
หลวงตาชลอฯ จึงแนะนำตามคำบอกขององค์หลวงพ่อฯ
ที่ให้ไปเจาะบริเวณใกล้ต้นไม้ ก็ประสบผลสำเร็จ
ปัจจุบันนี้ ก็ยกให้เป็นสาธารณะของ อบต. ไป ได้ใช้กันทั้งหมู่บ้าน


ด้วยความเป็นศิษย์ค่อนข้างจะใกล้ชิด เคยแอบแยบสอบถามท่านถึงภูมิธรรมของหลวงตาชลอฯ
แต่ท่านก็เป็นมวยวงในที่ชาญฉลาด ผมไม่เคยจับท่านได้เลยว่า ท่านอยู่ตรงไหนแล้ว
แต่ประสบการณ์ส่วนตัวเอง เคยพบในสิ่งที่ท่านรู้จิต รู้ใจ หลายวาระด้วยกัน
ทำให้แน่ใจได้ว่า หากผมเองไม่ตายเสียก่อนแก่ ก็คงอาศัยใบบุญจากท่าน
ได้แน่นอน มั่นใจมาก


ปฏิปทาส่วนตัวของท่าน จากมุมมองของผมเอง....
ท่านมีความเพียร มีความตั้งใจสูงยิ่ง
ท่านมีความกตัญญูเป็นเลิศ ระลึกถึงและตอบแทนผู้ที่มีพระคุณเสมอ
ท่านมีความเคารพต่อครูบา อาจารย์ ที่สุด ไม่ยกตนเสมอครู อาจารย์ เช่น
สร้างพระยืน 29 ศอก (วัดท่าซุง 30 ศอก)
ท่านมีความเมตตาสูง กล่าวเตือนศิษย์ และพระในปกครองด้วยธรรม
ท่านให้ความเคารพในวัดท่าซุงเป็นอันดับแรกเสมอ หากจะมีงานสำคัญที่วัดศาลฯ
จะต้องพยายามเลี่ยงไม่ให้ตรงกับงานประจำของทางวัดท่าซุง
 

_________________
http://LuangPor.com/

http://Buddhi.sm/audio/

http://Templ.es/gallery/

http://Bodhisattva.name/
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
โมฆบุรุษ
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2004
ตอบ: 38

ตอบตอบเมื่อ: 12 ก.พ.2007, 3:05 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เงินสด(ฝากพี่ปูเป้) ร่วมบุญที่บ้านอนุสาวรีย์
ท่าน Ghost ร่วมทำบุญ 300 บาท
คุณสมปอง ภิรมย์สุภาพ 200 บาท
รวม 500 บาท


เงินเข้าบัญชีกรุงเทพ
02/11 200 บาท
17/11 100 บาท คุณกวี เจริญก้าวไกล
21/11 200 บาท พี่เพ็ญนภา จันทรอำพร
24/11 250 บาท คุณหมออาทิตย์ ปุณณุปูรต
26/11 200 บาท
26/11 คุณเจษฎา กระจง 200 บาท
29/11 คุณกานต์ pong-sit 50 บาท
30/11 คุณ hexidecimal 300 บาท
04/12 พี่บุญทรง แจ่มศรี 100 บาท
12/12 พี่เหมียว สุพรรณี 700 บาท
12/12 น้องวิมล วงษ์ตา 500 บาท
17/01 ครอบครัวสมประดีกุล 444 บาท
25/01 คุณปิติพงษ์ ชายชาวโขง,คุณนิพพาน บุตรพรหม และครอบครัว 400 บาท
25/01 คุณ Newone 200 บาท
31/01 คุณณิชยา โพธิ์พิจิตร และคุณสุรชน กัณวิจิตร์ 200 บาท
31/01 คุณ barame99 200 บาท
01/02 200 บาท
02/02 คุณสมวดี นิ่งน้อยและครอบครัว 100 บาท
04/02 คุณสุขสัณห์ ทรงสวัสดิ์ 200 บาท
06/02 แม่คุณสุขสัณห์ ทรงสวัสดิ์ 200
บาท+เงินทำบุญค่าครูท่านปู่พระอินทร์ 100 บาท = 300 บาท
รวมเป็นเงิน 5,044 บาท


เงินเข้าบัญชีกรุงศรีฯ
13/12/2006 1,000.00
07/02/2007 200.00
รวม ๑,๒๐๐ บาท


เงินสด(ฝากธนัท)
คุณอาสถาพร ปรีเปรม ๑๐๐
พี่อำนาจ รัตนบัญญัติ ๕๐๐
พี่นันทวดี ไทยวงษ์ ๑๐๐
ผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม (งานธุดงค์) ๕๐๐
คุณน้าพงษ์ยุพา ณ ลำพูน ๕๐๐
คุณพวงเพ็ญ เลาหเจริญสมบัติ ๒๐๐
คุณถาวภักดิ์ ตียาภรณ์ ๑๐๐
รวม ๒,๐๐๐ บาท


รวมยอดทั้งหมดที่ได้รับในขณะนี้ ๘,๗๔๔ บาท

เงินที่เหลือจากงานสร้างผ้ายันต์เกราะเพชร ๓๓,๐๙๑ บาท

ขาดปัจจัยอีก ๕๘,๑๖๕ บาทครับ

ขอให้ได้เงินครบจำนวน ทันวันศุกร์ที่ ๒๓ ก.พ.ด้วยคร้าบบบบ
สัมปะติจฉามิ สาธุ
 

_________________
http://LuangPor.com/

http://Buddhi.sm/audio/

http://Templ.es/gallery/

http://Bodhisattva.name/
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
โมฆบุรุษ
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2004
ตอบ: 38

ตอบตอบเมื่อ: 12 ก.พ.2007, 8:51 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สำหรับพระ ๙ นิ้ว ที่เจ้าภาพจะได้รับนั้น
ผมจะนำไปถวายหลวงพ่อบุญรัตน์ เป็นสังฆทานครับ
จึงขอนำจดหมายฉบับหนึ่งของท่านมาให้อ่านกันครับ

Image

พระคุณต่อวัดโขงขาว

พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านได้เคยช่วยสร้างวัดต่างๆ มามากกว่า ๓๐ วัด ในช่วงชีวิตของท่าน ในที่นี้จะขอนำบันทึกของหลวงพี่ท่าน พระครูปิยรัตนาภรณ์ (พระบุญรัตน์ กันตจาโร) ที่ได้เล่าถึงอุปการคุณของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่มีต่อวัดโขงขาว ไว้ดังนี้

วัดโขงขาว ตำบลบ้านแหวน อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นวัดมาตั้งแต่โบราณกาล ไม่อาจนับได้ว่ากี่ปี แต่ก็มีคำเล่ากล่าวสืบๆ กันมาว่า สร้างก่อน พระนางเจ้าจามเทวี สวรรคต เพราะว่าเจ้าแม่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนามากจึงสร้างวัดไว้เป็นอนุสรณ์ ดังจะเห็นได้ว่าวัดในลำพูน-เชียงใหม่ จะมีวัดติดวัด วัดโขงขาวเป็นวัดเล็กๆ ซึ่งมีหมู่บ้านที่อุปถัมภ์ไม่กี่หลัีงคาเรือน มีทุ่งนาล้อมรอบในสมัยก่อนเป็นวัดที่ห่างไกลความเจริญ ถนนหนทางก็ไม่ดีมีแต่เส้นทางเดินเล็กๆ พอสัญจรไปมาเท่านั้น ถาวรวัตถุภายในวัดก็มีแต่พระวิหารหลังเล็กๆ เก่ามาก จำนวน ๑ หลัง ด้านหลังพระประธานจะมี "โขง" ถ้าแปลตามภาษาภาคกลางว่า "ซุ้ม" โขง หรือ ซุ้ม นี้คนโบราณคงจะเอาสีขาวมาทาก็เลยตั้งนามวัดว่า "วัดโขงขาว" ตั้งแต่บัดนั้นมาจนถึงปัจจุบัน และก็มีพระเจดีย์ติดต่อกับซุ้มออกไป นี่เป็นของโบราณมาตั้งแต่สร้างวัด และก็มีศาลารอบพระวิหารอยู่ ๒ ข้างเท่านั้น นอกจากนั้นก็มีกิฏิที่พักสงฆ์เป็นเรือนไม้จำนวน ๑ หลังเก่าแก่มาก นอกจากที่กล่าวมานี้ไม่มีอะไร เพราะชาวบ้านที่อุปถัมภ์วัดแถวนี้ยากจนหาเช้ากินค่ำไปวันๆ เท่านั้น

วัดโขงขาวนี้มีเจ้าอาวาส ปกครองมาโดยตลอดมิได้ขาด สภาพความเป็นอยู่ของวัดลำบากมาก ถาวรวัตถุก็ทรุดโทรมไปตามสภาพของกาลเวลา ผู้คนที่สัญจรไปมาผ่านวัดมักจะพูดเป็นทำนองเดียวกันว่า อีกไม่ช้าเท่าไหร่ วัดโขงขาวคงจะกลายเป็นวัดร้างไปแน่นอน คณะสงฆ์ส่วนใหญ่ และชาวบ้านถิ่นนั้นมีความวิตกกังวลในเรื่องนี้มาก เพราะหมดหนทางที่จะช่วยเหลือได้

พอดีประมาณปีพ.ศ. ๒๕๑๗ เดือนสิงหาคม ฤดูฝนกลางพรรษา ฝนตกมาก ในขณะนั้น อาตมาภาพได้รับนิมนต์ไปงานศพแห่งหนึ่งในเมืองเชียงใหม่ทั้งวัน พอเผาศพเสร็จแล้วเจ้าภาพก็นำมาส่งที่วัด พอรถเลี้ยวเข้ามาตามถนนกลางทุ่งนา ก็มีรถสวนทางมาพอดี คนในรถก็ลงมาจากรถมาถามว่า เจ้าอาวาสวัดโขงขาว อยู่ในรถใช่ไหมครับ คนขับรถก็บอกเขาไปว่าอยู่ในรถ เขาขึ้นรถแล้วกลับรถเข้ามาพร้อมกันที่วัด มาถึงวัดแล้วเขาก็กราบเรียนว่า ผมมาจากกรุงเทพฯ เป็นลูกศิษย์ของ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระมหาวีระ ถาวโร วัดท่าซุง อุทัยธานี คณะนี้มาประมาณ ๕ คน ถ้าจำไม่ผิด อาตมาก็เลยถามว่า โยมมีธุระอะไร เขาก็กราบเรียนว่า มานมัสการท่าน และมาดูวัด เขาก็เล่าต่อไปว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำบอกให้มา เพราะว่าเป็นวัดเก่าและวัดนี้มีความผูกพัน กับหลวงพ่อมาตั้งแต่สมัยก่อนโน้น อาตมาก็ลืม มิได้ถามชื่อญาติโยมคณะนั้นไว้

ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาก็มีคณะศิษยานุศิษย์ลูกหลานพระเดชพระคุณมาทำบุญเรื่อยๆ จนมาถึง พ.ศ. ๒๕๑๘ ก็มีคณะ คุณอำนาจ มณีน่วม บางรัก กรุงเทพฯ ร้านเตียง้วนเฮียง คุณแม่นิภา ผลิตผลการดี คุณสกล อาชวพร นำพาลูกหลานญาติมิตรสหาย คณะศิษย์พระเดชพระคุณท่านพ่อฯ มาวัดโขงขาวในรูปถวายสังฆทาน - ทอดผ้าป่า - ทอดกฐิน ทางวัดก็เลยรื้อกุฏิไม้หลังเก่าออกสร้างกุฏิหลังใหม่ขึ้นแทนตามคำสั่งของพระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ท่านก็ฝากเงินมาถวายทำการก่อสร้างวัดอยู่ตลอด ของใช้ภายในวัดพระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ก็ให้คณะศิษย์นำมาถวายโดยมิได้ขาด เพราะว่าที่วัดไม่มีของใช้เท่าที่ควร เมื่อสร้างกุฏิเสร็จแล้ว พระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ก็สั่งให้สร้างหอฉัน - โรงครัว เมื่อสร้างเสร็จ พ.ศ.๒๕๒๔ พระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ก็สั่งให้สร้างศาลา เสร็จแล้วก็สร้างกุฏิถวายพระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ๑ หลัง สร้างเรียบร้อยแล้ว ประมาณเดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๒๕ ก็ได้กราบอาราธนานิมนต์พระเดชพระคุณท่านพ่อฯ มาที่วัด

วันนั้นอากาศหนาวมาก ญาติโยมชาวอำเภอหางดง และอำเภอเมืองเชียงใหม่มาคอยกราบนมัสการท่านพ่อเป็นจำนวนมาก พอพระเดชพระคุณท่านพ่อฯ เดินทางมาถึง แล้วก็กราบอาราธนาขึ้นศาลา สถานที่ถวายการรับรอง เมื่อพระเดชพระคุณท่านพ่อฯ กราบพระประธานแล้ว พระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ก็เล่าว่าเมื่อกี้นี้ หลวงปู่ชุ่ม ซึ่งเป็นพี่ชายของฉันมาบอกว่า ขอให้บูรณะวิหารวัดนี้ให้เป็นพระอุโบสถด้วยนะ และช่วยสร้างวัดนี้ให้มีความเจริญรุ่งเรืองด้วยนะ และหลวงพ่อท่านก็เล่าต่อไปว่า วัดนี้เป็นวัดที่ท่านแม่เคยมาสร้างไว้มีความผูกพันกันมา วัดนี้สำคัญมาก พระเดชพระคุณท่านพ่อฯ เรียกอาตมาภาพเข้าไป ท่านบอกว่า "บุญรัตน์ ลูกเอ้ยเคยเกิดเป็นลูกพ่อมาได้หลายชาติหลายปางแล้วนะลูกนะ ขอให้ลูกช่วยเป็นกำลังของพระศาสนาด้วย อย่าได้เข้าป่าตามที่ลูกคิดไว้นะ พ่อจะเอากฐินมาทอดตั้งแต่นี้เป็นต้นไปทุกปีนะ"

ตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๕๒๕ เป็นต้นมา พระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ก็ได้นำคณะศิษย์ลูกหลานมาทอดกฐินทุกปีตามที่พระเดชพระคุณท่านปรารภไว้ ทางวัดก็ได้สร้างถาวรวัตถุตามที่ท่านพ่อได้สั่งให้ทำ เช่น กุฏิพักสงฆ์หลายหลัง - ที่พักญาติโยม - ห้องกรรมฐาน - แทงค์น้ำ ซื้อที่ดินถวายวัดให้กว้างขวางขึ้น เพราะว่าที่ดินเก่าของวัดมีไม่กี่ไร่ พอมาถึง พ.ศ.๒๕๓๒ ท่านพ่อนำคณะลูกศิษย์ลูกหลานมาทอดกฐิน พระเดชพระคุณท่านพ่อฯ สั่งว่า ให้สร้างศาลาอีก ๑ หลัง ให้กว้างหน่อยทำเป็น ๒ ชั้น บรรจุคนได้มากหน่อย อาตมาภาพก็กราบเรียนท่านว่า เกล้าฯ ไม่ทราบว่าจะหาเงินที่ไหนมาสร้างขอรับ พระเดชพระคุณท่านก็บอกว่า "ไม่เป็นไรเรื่องเงินพ่อจะหามาให้ ไม่ต้องห่วงนะ ถ้าพ่อไม่ช่วยลูกแล้วพ่อจะช่วยใคร" พระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ให้กำลังใจดีมาก หลังจากทอดกฐินแล้ว ก็เริ่มสร้างศาลาโดยใช้เวลาก่อสร้าง ๒ ปีเศษ สิ้นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างทั้งหมด ๑๕ ล้านบาทเศษ ทางวัดก็กราบเรียนถวายพระเดชพระคุณฯ ขออนุญาตตั้งนามศาลาอันเป็นมงคลว่า "ศาลาพระราชพรหมยานไพศาลภาวนานุสิฐ" เพื่อถวายเป็นอนุสรณ์แด่พระเดชพระคุณท่านฯ

ปี พ.ศ.๒๕๓๔ ท่านพ่อก็ได้นำคณะศิษย์ลูกหลานมาทอดกฐินท่านก็สั่งการว่า "บุญรัตน์ ลูกเอ้ย ปีนี้ขอให้สร้างพระพุทธรูปปางลีลา-รูปเหมือนหลวงพ่อปาน-รูปเหมือนพ่อตั้งประดิษฐานที่หน้าศาลานี้เพื่อไว้ให้ลูกหลานสักการบูชาในขณะที่พ่อไม่อยู่ และให้สร้างรูปท่านแม่จามเทวี พร้อมรูปเจ้าแม่กวนอิมไว้ เผื่อลูกหลานพ่อมาจะได้ระลึกถึง เมื่อสร้างเสร็จแล้วปีต่อไปให้สร้างศาลารอบพระอุโบสถ บูรณะพระอุโบสถให้เสร็จนะ แล้วทำการผูกพัทธสีมา เพื่อให้ถูกต้องตามพระวินัยสืบต่อไปนะลูก ส่วนกำแพงรอบวัดนั้นให้ทำหลังจากฝังลูกนิมิตแล้วนะ" ตามที่กล่าวมานี้เป็นคำสั่งของพระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ได้สั่งการเอาไว้ อาตมาภาพในฐานะที่เป็นลูก ก็ต้องเจริญรอยตามที่พระเดชพระคุณท่านฯ สั่งไว้ทุกประการ

ขอย้อนหลังไปปี พ.ศ.๒๕๓๓ พระเดชพระคุณท่านฯ มาทอดกฐินที่วัด เวลาตอนเช้าท่านพ่อได้พาลูกหลานเดินชมวัด พอมาถึงหน้าพระวิหาร ท่านพ่อได้เล่าว่า "ชาติก่อนหน้านี้เขาได้นำเอาศพพ่อมาฝังไว้ใต้พระสถูปเจดีย์แห่งนี้ พร้อมด้วยข้าวของของพระบุญรัตน์นี่แหละ เพราะเหตุนี้จึงได้นำกฐินมาทอดทุกปี วัดนี้มีความสำคัญกับหลวงพ่อมากนะ" ตามที่ได้กล่าวมานี้เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกมากมาย ไม่อาจนำมาพรรณนาเป็นภาษาอักษรได้หมดสิ้น จึงนับได้ว่าพระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ได้มีพระเมตตาอันยิ่งใหญ่ไพศาลต่อวัดโขงขาวเป็นอย่างมาก สมดังคำหลวงปู่ชุ่ม โพธิโก - หลวงปู่คำแสน คุณาลังกาโร ได้เล่าไว้ว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นพระทองแท้ มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ มีบุญบารมีอันสูงส่งหาใครเปรียบมิได้ รู้ใจคนเก่ง มีสมาธิธรรมอันสูงส่ง มีเจโตอันแจ่มใสชัดเจนมาก

เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๗ อาตมาได้ไปกราบท่านพ่อที่ซอยสายลมประมาณเดือนมกราคม พอก้มกราบเท้าท่าน ๓ ครั้ง เงยหน้าขึ้นมา พระเดชพระคุณท่านบอกว่า "บุญรัตน์ลูกเอ้ย ให้ลาพระพุทธภูมิเสียนะลูก เอานิพพานดีกว่าไม่ต้องมาเกิดอีกแล้วนะ" อาตมาจึงคิดได้ว่า พระเดชพระคุณท่านพ่อรู้ใจเราอย่างถูกต้องได้ดี ก็กราบเรียนท่านว่า "ขอรับครับผม" ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา อาตมาก็ลาพระพุทธภูมิปรารถนาเอาพระนิพพานเป็นที่สุด ต่อมาประมาณเดือนมีนาคม ๒๕๒๗ เหมือนกัน ก็ไปกราบพระเดชพระคุณท่านที่วัดท่าซุง ท่านบอก "ดีแล้วลูก เอานิพพานเป็นที่มั่นหมายไม่ต้องมาเกิดอีกแล้วนะลูก นิพพานัง ปรมังสุขังนะ" อาตมาได้ยินท่านพูดแล้วก็ดีใจ ชื่นใจมาก และก็ได้ปฏิบัติเจริญรอยตามคำสั่งของท่านพ่อทุกประการ

ในการจากไปของพระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ครั้งนี้ จากไปเพียงสรีระสังขารเท่านั้น ส่วนคุณงามความดียังอยู่ทุกประการ บุญกุศลใดที่บรรดาลูกหลานศิษยานุศิษย์ได้ทำบุญอุทิศถวายพระเดชพระคุณท่านพ่อฯ ในครั้งนี้ ขอจงโปรดรับโมทนาอันเป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่ไพศาล ขอให้ลูกหลานท่านพ่อจงได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด

(จาก หนังสือ"ประวัติหลวงพ่อพระราชพรหมยาน" หน้า ๔๕๖-๔๕๙
พิมพ์เข้าเว็บบอร์ดโดย ธนัท ทองอุทัยศรี
เพื่อบูชาคุณของพระเดชพระคุณหลวงพ่อมหาวีระ และหลวงพ่อบุญรัตน์ พระอุปัชฌาย์)[img][/img]
 

_________________
http://LuangPor.com/

http://Buddhi.sm/audio/

http://Templ.es/gallery/

http://Bodhisattva.name/
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
โมฆบุรุษ
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2004
ตอบ: 38

ตอบตอบเมื่อ: 14 ก.พ.2007, 12:20 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ kananun ได้แจ้งข่าวมาดังนี้ครับ
"ทางวัดได้จัด ทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสบทบทุนซื้อ แผ่นทองคำ และเพชร -สีทองคำ-กระจก เพื่อปิดประดับพระประธานในพระอุโบสถ ของวัดศาลพันท้ายนรสิงห์ อันนับว่าเป็นการร่วมสร้างพระประธานสมเด็จองค์ปฐมด้วยเช่นกัน"



เงินสด(ฝากพี่ปูเป้)
ท่าน Ghost ร่วมทำบุญ 300 บาท
คุณสมปอง ภิรมย์สุภาพ 200 บาท
รวม 500 บาท


เงินเข้าบัญชีกรุงเทพ
02/11 200 บาท
17/11 100 บาท คุณกวี เจริญก้าวไกล
21/11 200 บาท พี่เพ็ญนภา จันทรอำพร
24/11 250 บาท คุณหมออาทิตย์ ปุณณุปูรต
26/11 200 บาท
26/11 คุณเจษฎา กระจง 200 บาท
29/11 คุณกานต์ pong-sit 50 บาท
30/11 คุณ hexidecimal 300 บาท
04/12 พี่บุญทรง แจ่มศรี 100 บาท
12/12 พี่เหมียว สุพรรณี 700 บาท
12/12 น้องวิมล วงษ์ตา 500 บาท
17/01 ครอบครัวสมประดีกุล 444 บาท
25/01 คุณปิติพงษ์ ชายชาวโขง,คุณนิพพาน บุตรพรหม และครอบครัว 400 บาท
25/01 คุณ Newone 200 บาท
31/01 คุณณิชยา โพธิ์พิจิตร และคุณสุรชน กัณวิจิตร์ 200 บาท
31/01 คุณ barame99 200 บาท
01/02 200 บาท
02/02 คุณสมวดี นิ่งน้อยและครอบครัว 100 บาท
04/02 คุณสุขสัณห์ ทรงสวัสดิ์ 200 บาท
06/02 แม่คุณสุขสัณห์ ทรงสวัสดิ์ 200
บาท+เงินทำบุญค่าครูท่านปู่พระอินทร์ 100 บาท = 300 บาท
รวมเป็นเงิน 5,044 บาท


เงินเข้าบัญชีกรุงศรีฯ
13/12/2006 1,000.00
07/02/2007 200.00
12/02/2007 พี่ต๊ะและพี่ Walter 500.00
รวม ๑,๗๐๐ บาท


เงินสด(ฝากธนัท)
คุณอาสถาพร ปรีเปรม ๑๐๐
พี่อำนาจ รัตนบัญญัติ ๕๐๐
พี่นันทวดี ไทยวงษ์ ๑๐๐
ผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม (งานธุดงค์) ๕๐๐
คุณน้าพงษ์ยุพา ณ ลำพูน ๕๐๐
พี่พวงเพ็ญ เลาหเจริญสมบัติ ๒๐๐
พี่ถาวภักดิ์ ตียาภรณ์ ๑๐๐
รวม ๒,๐๐๐ บาท


ที่แจ้งว่าได้โอนมาแล้ว (แต่ยังไม่ได้ตรวจบัญชี)
11/02 พี่วิวรรธน์ กาญจนนันทิวัฒน์ ๑,๐๐๑
12/02 พี่เอกวัจน์ อมรวิวิฒน์ ๑,๐๐๐
12/02 คุณสายสมร สุนทรานุสร ๑,๐๐๐
12/02 คุณ hexidecimal (รอบที่ ๒) ๒๐๐
12/02 พี่หมู พรครูบา ๑,๐๐๐
13/02 พี่เอกสิน นิลกาญจน์ ๒๐๐
13/02 พี่สุเทพ พงษ์เพียรชอบ ๔๐๖
14/02 พี่"น้องสาว" ๑,๐๐๐
รวมจำนวนที่รอตรวจสมุด ๕,๘๐๗ บาท
รวมยอดทั้งหมดที่ได้รับในขณะนี้ ๙,๒๔๔ บาท
เงินที่เหลือจากงานสร้างผ้ายันต์เกราะเพชร ๓๓,๐๙๑ บาท

ขาดปัจจัยอีก ๕๑,๘๕๘ บาทครับ

ผมขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ
สัมปะติจฉามิ สาธุ
 

_________________
http://LuangPor.com/

http://Buddhi.sm/audio/

http://Templ.es/gallery/

http://Bodhisattva.name/
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
โมฆบุรุษ
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2004
ตอบ: 38

ตอบตอบเมื่อ: 19 ก.พ.2007, 7:53 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้ร่วมทำบุญด้วยกันในงานนี้ด้วยนะครับ

มีข่าวมาแจ้งให้ผู้ที่สนใจวัตถุมงคลของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำทราบนะครับ
http://212cafe.com/freewebboard/view.php?user=wpradee&id=718
อ้างอิงจาก:
ความคิดเห็นที่ : 10
คุณโมฆบุรุษครับ ช่วยแจ้งไปด้วยนะครับว่า ถ้าท่านใด คณะใดบริจาคครบ ๓๐,๐๐๐ บาทขึ้นไป
ผมจะมอบเสื้อยันต์หลวงพ่อให้ครับ ๑ ตัว (ผมมีตัวอยู่ตัวเดียวครับกับไว้ ๓๐ ปีแล้วครับ)
สำหรับบูชาสมเด็จองค์ปฐมแล้วผมยินดี แต่ถ้าท่านใดปิดยอดผมก็จะมีของให้อีกตอนนี้ยังคิดอยู่ว่าอะไรดี
โดย : 8686676 [ 2007-02-19 08:13:16 ]


ผมเองก็ไม่ได้รู้จักกับคุณอา 8686676 เป็นการส่วนตัว
ฉะนั้น ท่านใดที่สนใจ ขอให้ติดต่อกับท่านโดยตรงนะครับ
 

_________________
http://LuangPor.com/

http://Buddhi.sm/audio/

http://Templ.es/gallery/

http://Bodhisattva.name/
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
โมฆบุรุษ
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2004
ตอบ: 38

ตอบตอบเมื่อ: 21 ก.พ.2007, 8:31 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบขอบพระคุณทุกๆท่านเป็นอย่างสูง ที่ได้ช่วยๆกันทำบุญเข้ามาโดยตลอดด้วยครับ สาธุ

เงินสด(ฝากพี่ปูเป้)
02/12 คุณสุขสัณห์ ทรงสวัสดิ์ (ครั้งที่ ๑) 300 บาท
03/12 คุณสมปอง ภิรมย์สุภาพ 200 บาท
17/02 คุณเอมอร คุณสุธิดา และครอบครัวจันทร์วิเมลือง 5,000 บาท
17/02 พี่สุนทรี สุวิโรจนากร 3,900 บาท
17/02 ครอบครัวพี่สมคิด 130 บาท
รวม 9,530 บาท


เงินเข้าบัญชีกรุงเทพ
02/11 200 บาท
17/11 คุณกวี เจริญก้าวไกล 100 บาท
21/11 พี่เพ็ญนภา จันทรอำพร 200 บาท
24/11 คุณหมออาทิตย์ ปุณณุปูรต 250 บาท
26/11 200 บาท
26/11 คุณเจษฎา กระจง 200 บาท
29/11 คุณกานต์ pong-sit 50 บาท
30/11 คุณ hexidecimal (ครั้งที่ ๑) 300 บาท
04/12 พี่บุญทรง แจ่มศรี 100 บาท
12/12 พี่เหมียว สุพรรณี 700 บาท
12/12 น้องวิมล วงษ์ตา 500 บาท
17/01 ครอบครัวสมประดีกุล 444 บาท
25/01 คุณปิติพงษ์ ชายชาวโขง,คุณนิพพาน บุตรพรหม และครอบครัว 400 บาท
25/01 คุณราตรี มากมี 200 บาท
31/01 คุณณิชยา โพธิ์พิจิตร และคุณสุรชน กัณวิจิตร์ 200 บาท
31/01 คุณ barame99 (ครั้งที่ ๑) 200 บาท
01/02 200 บาท
02/02 คุณสมวดี นิ่งน้อยและครอบครัว 100 บาท
04/02 คุณสุขสัณห์ ทรงสวัสดิ์ (ครั้งที่ ๒) 200 บาท
06/02 คุณแม่คุณสุขสัณห์ ทรงสวัสดิ์ 200 บาท
+ เงินทำบุญค่าครูท่านปู่พระอินทร์ 100 บาท = 300 บาท
11/02 คุณวิวรรธน์ กาญจนนันทิวัฒน์ 1,001 บาท
12/02 คุณเอกวัจน์ อมรวิวิฒน์ 1,000 บาท
12/02 คุณสายสมร สุนทรานุสร 1,000 บาท
12/02 คุณ hexidecimal (ครั้งที่ ๒) 200 บาท
12/02 พี่หมู พรครูบา 1,000 บาท
13/02 พี่เอกสิน นิลกาญจน์ 200 บาท
14/02 พี่"น้องสาว" 1,000 บาท
14/02 พี่พรทิพย์ ศรีกริชเพชร 108 บาท
14/02 คุณวีระ อริยโชติ 200 บาท
15/02 พี่มังกร ตันเจริญ 200 บาท
16/02 พี่มะลิวัลย์ โฮชิ 200 บาท
16/02 คุณฐิติ อ่อนโพรัตน์ 200 บาท
17/02 คุณศรีรัชน์, ดช.อิศรา, ดช.จตุเทพย์ ปุณณุปูรต 750 บาท
19/02 พี่ภาณุพล ปานสายลม และครอบครัว 770 บาท
19/02 คุณแม่และพี่สาวของน้องวิมล วงษ์ตา 200 บาท
19/02 คุณวิรัตน์ อมรพิพิธกุล และคุณกุลชลี เฮงเจริญรุ่งเรือง 200 บาท
19/02 ................................100 บาท
19/02..................................100 บาท
20/02 น้องพรเพ็ญ 100 + คุณกิติยา กันทรสุรพล 500 + คุณอัญชสา ดำรงทวีศักดิ์ 200 +
พี่พรศักดิ์และคุณศุภอร ดำรงทวีศักดิ์ 4,200 บาท = 5,000 บาท
20/02 น้องจารุณี นิมมานนิตย์ (?) 1,700 บาท
20/02 พี่สุเทพ พงษ์เพียรชอบ 406 บาท
20/02 คุณย่าฉอ้อน บุนนาค, คุณยายแฉล้ม เย็นบุตร 100 บาท
20/02 พี่คนึงอร สวรรคทัต และเพื่อนๆ 900 บาท
20/02 คุณ barame99 (ครั้งที่ ๒) 200 บาท
21/02 พี่บุญ, คุณแม่ และเพื่อน 2,000 บาท
รวมเป็นเงิน 23,779 บาท


เงินเข้าบัญชีกรุงศรีฯ
13/12 1,000
07/02 200
12/02 พี่ต๊ะและพี่ Walter 500
14/02 พี่วสุ อดิเทพสถิตย์ 200
รวม ๑,๙๐๐ บาท

เงินสด(ฝากพี่โชติรส)
๙๙๕ บาท

เงินสด(ฝากธีระ)
น้องออมทรัพย์ จรัสวุฒิยากร ๑๐๐
น้องฐิติพล นันทชารักษ์ ๑๐๐
รวม ๒๐๐ บาท

เงินสด(ฝากธนัท)
คุณอาสถาพร ปรีเปรม ๑๐๐
พี่อำนาจ รัตนบัญญัติ ๕๐๐
พี่นันทวดี ไทยวงษ์ ๑๐๐
ผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม (งานธุดงค์) ๕๐๐
คุณน้าพงษ์ยุพา ณ ลำพูน ๕๐๐
พี่พวงเพ็ญ เลาหเจริญสมบัติ ๒๐๐
พี่ถาวภักดิ์ ตียาภรณ์ ๑๐๐
คุณวรลักษณ์ เบญจอาธรศิริกุล ๘,๕๔๔ (AUD300)
รวม ๑๐,๕๔๔ บาท


ที่แจ้งว่าได้โอนมาแล้ว (แต่ยังไม่ได้ตรวจบัญชี)
21/02 คุณขวัญ เศวตพันธุ์ และครอบครัว ๑๐,๐๐๐ (ผ่านบัญชีพี่ถาวภักดิ์)


รวมจำนวนที่รอตรวจสมุด ๑๐,๐๐๐ บาท
รวมยอดทั้งหมดที่ได้รับในขณะนี้ ๔๖,๙๔๘ บาท
เงินที่เหลือจากงานสร้างผ้ายันต์เกราะเพชร ๓๓,๐๙๑ บาท

ขาดปัจจัยอีก ๙,๙๖๑ บาทครับ

ขอให้สำเร็จครับ
สัมปะติจฉามิ สาธุ
 

_________________
http://LuangPor.com/

http://Buddhi.sm/audio/

http://Templ.es/gallery/

http://Bodhisattva.name/
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
โมฆบุรุษ
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2004
ตอบ: 38

ตอบตอบเมื่อ: 24 ก.พ.2007, 12:40 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เงินสด(ฝากพี่ปูเป้)
02/12 คุณสุขสัณห์ ทรงสวัสดิ์ (ครั้งที่ ๑) 300 บาท
03/12 คุณสมปอง ภิรมย์สุภาพ 200 บาท
17/02 คุณเอมอร คุณสุธิดา และครอบครัวจันทร์วิเมลือง 5,000 บาท
17/02 พี่สุนทรี สุวิโรจนากร 3,900 บาท
17/02 ครอบครัวพี่สมคิด 130 บาท
รวม 9,530 บาท


เงินเข้าบัญชีกรุงเทพ
02/11 200 บาท
17/11 คุณกวี เจริญก้าวไกล 100 บาท
21/11 พี่เพ็ญนภา จันทรอำพร 200 บาท
24/11 คุณหมออาทิตย์ ปุณณุปูรต 250 บาท
26/11 200 บาท
26/11 คุณเจษฎา กระจง 200 บาท
29/11 คุณกานต์ pong-sit 50 บาท
30/11 คุณ hexidecimal (ครั้งที่ ๑) 300 บาท
04/12 พี่บุญทรง แจ่มศรี 100 บาท
12/12 พี่เหมียว สุพรรณี 700 บาท
12/12 น้องวิมล วงษ์ตา 500 บาท
17/01 ครอบครัวสมประดีกุล 444 บาท
25/01 คุณปิติพงษ์ ชายชาวโขง,คุณนิพพาน บุตรพรหม และครอบครัว 400 บาท
25/01 คุณราตรี มากมี 200 บาท
31/01 คุณณิชยา โพธิ์พิจิตร และคุณสุรชน กัณวิจิตร์ 200 บาท
31/01 คุณ barame99 (ครั้งที่ ๑) 200 บาท
01/02 200 บาท
02/02 คุณสมวดี นิ่งน้อยและครอบครัว 100 บาท
04/02 คุณสุขสัณห์ ทรงสวัสดิ์ (ครั้งที่ ๒) 200 บาท
06/02 คุณแม่คุณสุขสัณห์ ทรงสวัสดิ์ 200 บาท
+ เงินทำบุญค่าครูท่านปู่พระอินทร์ 100 บาท = 300 บาท
11/02 คุณวิวรรธน์ กาญจนนันทิวัฒน์ 1,001 บาท
12/02 คุณเอกวัจน์ อมรวิวิฒน์ 1,000 บาท
12/02 คุณสายสมร สุนทรานุสร 1,000 บาท
12/02 คุณ hexidecimal (ครั้งที่ ๒) 200 บาท
12/02 พี่หมู พรครูบา 1,000 บาท
13/02 พี่เอกสิน นิลกาญจน์ 200 บาท
14/02 พี่"น้องสาว" 1,000 บาท
14/02 พี่พรทิพย์ ศรีกริชเพชร 108 บาท
14/02 คุณวีระ อริยโชติ 200 บาท
15/02 พี่มังกร ตันเจริญ 200 บาท
16/02 พี่มะลิวัลย์ โฮชิ 200 บาท
16/02 คุณฐิติ อ่อนโพรัตน์ 200 บาท
17/02 คุณศรีรัชน์, ดช.อิศรา, ดช.จตุเทพย์ ปุณณุปูรต 750 บาท
19/02 พี่ภาณุพล ปานสายลม และครอบครัว 770 บาท
19/02 คุณแม่และพี่สาวของน้องวิมล วงษ์ตา 200 บาท
19/02 คุณวิรัตน์ อมรพิพิธกุล และคุณกุลชลี เฮงเจริญรุ่งเรือง 200 บาท
19/02 100 บาท
19/02 100 บาท
20/02 น้องพรเพ็ญ 100 + คุณกิติยา กันทรสุรพล 500 + คุณอัญชสา ดำรงทวีศักดิ์ 200 +
พี่พรศักดิ์และคุณศุภอร ดำรงทวีศักดิ์ 4,200 บาท = 5,000 บาท
20/02 น้องจารุณี นิมมานนิตย์ (?) 1,700 บาท
20/02 พี่สุเทพ พงษ์เพียรชอบ 406 บาท
20/02 คุณย่าฉอ้อน บุนนาค, คุณยายแฉล้ม เย็นบุตร 100 บาท
20/02 พี่คนึงอร สวรรคทัต และเพื่อนๆ (ครั้งที่ ๑) 900 บาท
20/02 คุณ barame99 (ครั้งที่ ๒) 200 บาท
21/02 พี่บุญ, คุณแม่ และเพื่อน 2,000 บาท
22/02 คุณไห่เฉากุหลาบไฟ 200 บาท
22/02 คุณสการินทร์ โพธิวาสวารินทร์ 500 บาท
22/02 พี่ชลธิชา คิสเซนเนอร์ และคณะ 8,100 บาท
(คุณวรวรรณ ซูสบรัค 500 บาท
พี่ชลธิชา คิสเซนเนอร์ 2000 บาท
คุณพุทธพงศ์ คิสเซนเนอร์ 1000 บาท
คุณนฤมล สรีฟ, คุณกอร์ดอน ครูว, ดญ.จอร์จีน่า สรีฟ 2400 บาท
คุณทฤษฎี สุทธิธนกุล 200 บาท
คุณจุฑาทิพย์ พุ่มฉัตร 1000 บาท
คุณ Patty Wongtragool 1000 บาท)
23/02 คุณพันธ์เชษฐ์ ชัยบุญเรือง 200 บาท
23/02 พี่คนึงอร สวรรคทัต (ครั้งที่ ๒) 100 บาท
23/02 พี่โชติรส สุรพลชัย และคณะ 1,845 บาท
23/02 ผู้ไม่ประสงค์ที่จะออกนาม 8,116 บาท
23/02 พี่ประทวน คุ้มชั่ว 100 บาท
23/02 พี่ณัฐพัชร จันทรสูตร 1,000 บาท
23/02 พี่ขวัญชัย 100 บาท
24/02 คุณหมอพายุพล ศรีอภัย 100 บาท
24/02 100 บาท
รวมเป็นเงิน 44,240 บาท


เงินเข้าบัญชีกรุงศรีฯ
13/12 1,000
07/02 200
12/02 พี่ต๊ะและพี่ Walter 500
14/02 พี่วสุ อดิเทพสถิตย์ 200
23/02 คุณภัทร ทองสามสี (bht) 429
รวม ๒,๓๒๙ บาท


เงินสด(ฝากธีระ)
น้องออมทรัพย์ จรัสวุฒิยากร ๑๐๐
น้องฐิติพล นันทชารักษ์ ๑๐๐
รวม ๒๐๐ บาท


เงินสด(ฝากธนัท)
คุณอาสถาพร ปรีเปรม ๑๐๐
พี่อำนาจ รัตนบัญญัติ ๕๐๐
พี่นันทวดี ไทยวงษ์ ๑๐๐
ผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม (งานธุดงค์) ๕๐๐
คุณน้าพงษ์ยุพา ณ ลำพูน ๕๐๐
พี่พวงเพ็ญ เลาหเจริญสมบัติ ๒๐๐
พี่ถาวภักดิ์ ตียาภรณ์ ๑๐๐
คุณวรลักษณ์ เบญจอาธรศิริกุล ๘,๕๔๔ (AUD300)
พี่จตุชัย มหาวงศนันท์ ๑๐๐
ธนัท ทองอุทัยศรี ๕๗
รวม ๑๐,๗๐๑ บาท


ผ่านบัญชีพี่ถาวภักดิ์
21/02 คุณขวัญ เศวตพันธุ์ และครอบครัว ๑๐,๐๐๐


ที่แจ้งว่าได้โอนมาแล้ว (แต่ยังไม่ได้ตรวจบัญชี)
คุณประยูร-คุณเกษ เงินแท้ และครอบครัว 500
คุณโอชา-คุณอรทัย ธรรมโชติ 900
ครอบครัวชัยพิสิฐทิพย์สอน 700
คุณสุกิจ–คุณรุ่งฤดี เหลืองวิไล และครอบครัว 1,500
คุณธิติพันธ์ รัตนพรวารีสกุล และครอบครัว 100
คุณชวรี จินดายพานิช และครอบครัว 100


รวมจำนวนที่รอตรวจสมุด ๓,๘๐๐ บาท
รวมยอดทั้งหมดที่ได้รับในขณะนี้ ๗๗,๐๐๐ บาท
ขาดปัจจัยอีก ๑๙,๒๐๐ บาท (ซึ่งผมจะนำมาเสริมจากงานสร้างผ้ายันต์เกราะเพชรครับ)
ฉะนั้น ก็จะได้ครบ ๑๐๐,๐๐๐ บาทที่จะไปถวายวัดศาลพันท้ายนรสิงห์พอดีครับ


ในตอนแรกที่ยังขาดปัจจัยอยู่เป็นจำนวนมากนั้น
ผมคิดว่าจะนำเงินทั้งหมดจากงานสร้างผ้ายันต์เกราะเพชร (๓๓,๐๙๑ บาท) มาเสริมครับ
แต่เนื่องจากว่า มีผู้บริจาคมาในช่วงสุดท้ายมากขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้
และเรามีโครงการที่จะสร้างผ้ายันต์ธงท่านปู่พระอินทร์ เพื่อถวายครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง
ส่วนท่านจะนำไปทำอะไรนั้น (เช่น แจกภาคใต้ หรือแจกญาติโยม) ก็สุดแล้วแต่ท่านนะครับ
ผมจึงจะนำปัจจัยที่เหลืออยู่ ๓๓,๐๙๑ - ๑๙,๒๐๐ = ๑๓,๘๙๑ บาท มาเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนนี้นะครับ

ผมขอกราบอนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้มีจิตศรัทธา ร่วมทำบุญมาในงานนี้ ในระยะเวลากระชั้นชิด จนสำเร็จไปได้ด้วยครับ สาธุ
 

_________________
http://LuangPor.com/

http://Buddhi.sm/audio/

http://Templ.es/gallery/

http://Bodhisattva.name/
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
โมฆบุรุษ
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2004
ตอบ: 38

ตอบตอบเมื่อ: 26 ก.พ.2007, 2:17 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ก่อนที่จะลืมครับ
ท่านใดที่ประสงค์จะรับผ้ายันต์มหาเศรษฐีเป็นที่ระลึก และยังไม่ได้แจ้งที่อยู่ให้ผมทราบ
ผมขอความกรุณาช่วยแจ้งมาหน่อยนะครับ
ผมจะจัดส่งให้ปลายเดือนเมษายนปีนี้ครับ
(ทุก ๆ ๑๐๐ บาท ได้รับ ๑ ผืนเป็นที่ระลึกครับ)

Image

ผมต้องกราบขอบพระคุณทุก ๆ ท่านเป็นการส่วนตัว ที่ร่วมทำบุญมาในงานนี้ด้วยนะครับ

ปกติแล้ว งานบุญที่ต้องใช้ปัจจัยเป็นจำนวนมากขนาดนี้(มากสำหรับผมครับ หุหุ)
ผมอยากที่จะมีเวลาบอกบุญนาน ๆ และเปิดโอกาสให้หลาย ๆ คนได้ร่วมทำบุญเข้ามากันคนละนิดละหน่อย
แต่หากเราทำไปเรื่อย ๆ ก็คงจะสำเร็จลงได้สักวันหนึ่งครับ
เหมือนกับตอนที่จะสร้างพระที่อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษนั้น ผมก็รอไปตามหน้าบุญครับ
พระท่านจะสงเคราะห์ให้งานเสร็จเมื่อไหร่ ก็จะมีเงินบริจาคเข้ามาพอดีในแต่ละช่วงเองครับ

Image

ในตอนแรก ที่ทราบข่าวจากพี่คมสัน ว่าหลวงตาชลอท่านยังขาดเจ้าภาพสร้างพระอีก ๒๒ องค์นั้น
ก็คิดว่า หากพวกเราช่วยรวบรวมปัจจัยกันเป็นหมู่คณะ ก็น่าจะหาเงินได้ก้อนหนึ่งครับ
ในฐานะที่ผมเป็นผู้รับปากกับหลวงตาชลอไป ผมเองก็ตั้งใจว่า อย่างไรเสีย หากได้เงินไม่ครบ ผมก็จะออกเงินส่วนตัวมาปิดยอดให้ครบให้ได้ครับ

Image

เพราะงานนี้ เป็นงานเพื่อพระศาสนา
ปัจจัยที่ถวายวัดศาลพันท้ายนรสิงห์ไปนั้น ก็จะถูกนำไปใช้ประโยชน์ในพระศาสนาในหลาย ๆ ส่วน
ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธบูชา วิหารทาน และสังฆทาน ซึ่งถือว่ามีอานิสงส์สูงมากในด้านอามิสทานครับ
และพี่ที่ผมให้ความเคารพเป็นอย่างสูงท่านหนึ่ง ได้เคยบอกเอาไว้ ว่าการรับปาก หรือให้คำมั่นสัญญากับพระสงฆ์ไว้นั้น
หากเราทำไม่สำเร็จแล้ว ต่อไปภายภาคหน้า ไม่ว่าเราจะทำกิจการงานใด ๆ ก็ตาม จะไม่มีทางสำเร็จลงไปได้ครับ
เรื่องกฎแห่งกรรมเป็นเรื่องตรงไปตรงมาครับ

Image

เนื่องจากว่า มีเงินที่เหลือจากการสร้างผ้ายันต์เกราะเพชร(ครึ่งหนึ่งไปแจกภาคใต้ และอีกครึ่งหนึ่งเป็นที่ระลึกในงานไหว้ครูในวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำนั้น)
พี่ท่านเดียวกันนี้ ได้แนะนำว่า หากงานบุญใด ๆ ก็ตาม ที่เราได้ทำสำเร็จตามจุดประสงค์ที่ได้ประกาศไว้ในตอนแรกแล้ว
ถ้ามีเงินเหลือ ตราบใดที่เราไม่นำเงินก้อนนี้ไปใช้ส่วนตัว เราสามารถนำไปใช้ในงานบุญอื่น ๆ ได้ โดยไม่ถูกปรับครับ(เช่น โทษของการย้ายเจดีย์ เป็นต้น)
ผมก็เลยตั้งใจที่จะนำเงินก้อนนี้มาเสริมกับงานบุญวัดศาลพันท้ายนรสิงห์ในตอนแรก

Image

แม้ว่าจะนับเงินก้อนนี้ไปด้วยแล้ว เมื่อต้นเดือนกุมภาฯ เราก็ยังขาดปัจจัยอยู่เกินครึ่งหนึ่งของเป้าหมาย คือ ๑๐๐,๐๐๐ บาท
ผมเองก็ชักหวั่น ๆ ว่า เดือนนี้ คงมีอาการหน้ามืดกับเขาบ้างแน่ ๆ ครับ (ปกติ ก็แอบวูบเพราะสภาพคล่องอยู่บ่อย ๆ ครับ)
จนกระทั่งช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนจะถึงกำหนด
ก็มีทั้งผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่านที่เมตตาผม อีกทั้งเพื่อน ๆ ในทางธรรมหลาย ๆ ท่าน ได้ช่วยกันบริจาคเงินเข้ามาแบบล้นหลามมาก ในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน
ไม่ว่าจะเป็นเงินส่วนตัว หรือที่ได้ช่วยกันบอกบุญต่อ ๆ กันไปอีก
และไม่ว่าจะเป็นเงินจำนวนมากน้อยเท่าไหร่ก็ตาม ผมก็ซาบซึ้งในไมตรีจิตของทุก ๆ ท่านที่ร่วมทำบุญกันเข้ามาด้วยครับ

Image

นอกจากจะเป็นการทำบุญในพระศาสนาแล้ว ผมยังถือว่า ทุก ๆ ท่านได้ช่วยเหลือผมเป็นการส่วนตัวด้วยนะครับ
ในแง่ที่ว่า หากไม่ได้ีรับเงินมาครบจำนวนแล้ว ผมก็ต้องออกเงินเองอยู่ดี
การชำระหนี้รายเดือนของผมหลาย ๆ อย่าง ก็คงจะไม่ได้รับการชำระในเดือนนี้ ซึ่งก็อาจจะทำให้ผมโดนค่าปรับหรือดอกเบี้ย อันเป็นผลข้างเคียงที่ตามมาครับ
อานิสงส์ที่ทุก ๆ ท่านได้ช่วยเหลือให้ผมมีสภาพคล่องในด้านการเงินนี้ ผมขออาราธนาอานุภาพของตะกรุดมหาสะท้อน
ได้โปรดดลบันดาลให้ทุก ๆ ท่านมีสภาพคล่องทางด้านการเงินมากกว่าผมร้อยเท่าพันทวีด้วยนะครับ
"เม สัมมุกขา สัพพาหะระติ เต สัมมุกขา"

Image

อีกทั้งการที่ผมมีรายจ่ายส่วนหนึ่งทุก ๆ เดือน เป็นค่าเช่าเครื่อง server
ที่เอาไว้เผยแพร่พระธรรมคำสั่งสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ และครูบาอาจารย์อีกหลายท่าน
อาธิเช่น http://Tamma.LuangPor.com/ และ http://Buddhi.sm/audio/ เป็นหลัก
เงินที่ทุกท่านได้ร่วมทำบุญกันเข้ามานี้ ก็ขอให้อธิษฐานร่วมทำบุญในส่วนนี้ด้วยกันได้นะครับ
จริง ๆ แล้ว สิ่งเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับวิธีคิดครับ
เพราะหากผมได้เงินบริจาคมาไม่พอ ผมก็ต้องเอาเงินส่วนตัวออกไปก่อน
หากผมมีเงินเหลือไม่พอมาจ่ายค่าเช่า server รายเดือน (เดือนละ USD129)
ธรรมทานในส่วนนี้ ก็คงต้องชะงักไปสำหรับเดือนนั้นนะครับ

ฉะนั้น ก็ขอให้ทุกท่านได้ใช้ปัญญาพิจารณาประกอบการทำบุญในแต่ละครั้งไปด้วยนะครับ
ว่าสิ่งที่เราทำลงไปแต่ละอย่างนั้น ก่อให้เกิดประโยชน์ในพระศาสนาอย่างไรบ้าง
หากเราเห็นประโยชน์ในส่วนนี้แล้ว แม้ว่าร่วมทำบุญมาเพียง ๑ บาทหรือ ๑ สลึง
อานิสงส์ก็เกิดกับท่านผู้มีจิตศรัทธาอย่างถึงที่สุดเช่นกันครับ
คิดแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ทานบารมีก็จะเต็มได้ในที่สุดครับ

สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกท่านได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานได้ ตามความมุ่งมาดปรารถนาของแต่ละบุคคล
ในระยะเวลาอันสั้นที่สุดของแต่ละคำอธิษฐานนั้นด้วยนะครับ
 

_________________
http://LuangPor.com/

http://Buddhi.sm/audio/

http://Templ.es/gallery/

http://Bodhisattva.name/
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง