Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 มือใหม่หัดธรรม อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ประยุทธ
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 16 ม.ค. 2007
ตอบ: 4

ตอบตอบเมื่อ: 16 ม.ค. 2007, 9:41 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถ้าเราอยู่ในสังสารวัฏจริงๆ คือมีการ เวียน ว่าย ตาย เกิด
ในวันหนึ่งๆ มีตั้ง คนตาย และ คนเกิด เป็นอย่างนี้มาหลายล้านปี

คำถามคือว่า แล้วทำไม จึงมีมนุษย์ มากขึ้น มากขึ้น ล่ะครับ

คือ จำนวนกลับเพิ่มขึ้นทุกที ไม่ได้คงที่ หมายความว่า
มีการสร้างจิต วิญญาณ ขึ้นมาใหม่ในทุกๆ วันหรือเปล่าครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 16 ม.ค. 2007, 3:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบสวัสดี คุณประยุทธ

คำตอบก็คือ เพราะมันเป็นปกติของโลก เป็นธรรมดาของมนุษย์ เป็นธรรมดาของสิ่งที่ได้ชื่อว่าชีวิต ทุกชีวิต มีปกติเป็นธรรมดาอย่างนั้น มีอะไรเที่ยงบ้าง นอกจากสมมติแห่งเวลาที่มนุษย์กำหนดขึ้นว่าเป็นเวลาเที่ยงวัน เที่ยงคืน แต่ก็หาได้ดำรงอยู่ซึ่งความเที่ยงแห่งเวลาที่สมมตินั้นไม่ ไม่มีเพิ่ม ไม่มีลด มันเป็นปกติอยู่อย่างนั้น เพียงแต่ว่าไปยึดให้มันเที่ยง ว่าเพิ่ม ว่าลด ตามความรู้สึกแห่งปุถุชนทั่วไป

การสร้างขึ้นมาใหม่ มันไม่ได้เกิดจากการสร้างจากใคร หรือพระเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหน แต่การสร้างที่ก่อให้เกิดการวนเวียนในสังสารวัฏฏ์ เกิดจากจิตของมนุษย์แต่ละบุคคลนั่นเอง ปุถุชนย่อมอดไม่ได้ที่จะไม่คิด เมื่อมืดบอดอยู่ด้วยความไม่รู้ ก็คิดนึกปรุงแต่งมีจิต สังขารต่างๆ คิดทีไรก็เกิดตัณหา พร้อมอุปทาน ภพ ชาติ อย่ากล่าวถึงการเกิดขึ้นใหม่ในแต่ละวันเลย ขณะจิตที่วนเวียนซ้ำซากอยู่กับความคิดก็ก่อภพก่อชาติจนนับไม่ถ้วน จะเอาอะไรกับมนุษย์ จะเอาอะไรกับโลก นี่คือปกติธรรมดา ธรรมชาติปุถุชน

ธรรมะสวัสดี

มณี ปัทมะ ตารา


ธรรมจักร ผีเสื้อ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
คำถามยังเวียนใหม่ได้เลย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 17 ม.ค. 2007, 7:19 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ความเห็นส่วนตัวเห็นเป็นเรื่องธรรมดาเช่นกันครับ และมั่นใจว่าไม่ใช่สาระในคำสอนที่เน้นให้ผู้ปฏิบัติธรรมหลุดพ้นจากความทุกข์พระพุทธเจ้าจึงไม่ทรงตรัสให้คำอธิบายทุกสรรพสิ่งอันเป็นความจริงในธรรมชาติให้ครอบคลุมไว้ทั้งหมด โดยเฉพาะหากไม่มีผู้ใดถามในสมัยนั้นแทบไม่มีโอกาสทรงอธิบายเรื่องประเภทดังกล่าวขึ้นมาลอยลอยเลย ส่วนของคำตอบที่ทางพุทธแสดงกันให้เห็นได้ทั้งของพระอาจารย์และอื่นอื่นนั้นล้วนมาจากความคิดที่กลั่นกรองจากปัญญาบารมีที่สั่งสมมาของแต่ละท่าน เพราะในตำราสอนไม่ได้เน้นจริงจริงถึงมีก็เป็นการตอบคำถามในสมัยนั้นแต่สุดท้ายคำตอบที่ทรงให้ก็จะสั้นสั้นไม่ให้เกินเลยคำถามเหมือนทรงรู้ว่าเสียเวลาไม่มีประโยชน์ที่จะรู้กันไป ยุคนี้ถามทำไมคนเกิดมาก อีกพันปีหมื่นปีคนน้อยลงก็ถามอีกไม่ได้ไปนิพพานกันหมดแล้วหายไปไหน?อ้าว! สงสัย หากตัวเองตอบคำถามนี้ ก็คงจะอธิบายว่าเพราะวัฏจักรเวียนว่ายตายเกิดนี้ไม่ได้หมุนเวียนกันเพียงแค่มนุษย์หรือสัตว์โลกที่ยังมีอีกหลายรูปแบบและไม่ได้เริ่มต้นกันเพียงหลังโลกเราเริ่มกำเนิดที่นักวิทยาศาสตร์ปัจจุบันจ้างให้วิจัยต่อก็คงยอมแพ้เพราะหมดปัญญา สงสัย ว่ามีชีวิตในรูปแบบใดก่อนเกิดโลกเราขึ้นมาบ้างหรือไม่ สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาทุกวันนี้ก็เป็นเพียงสิ่งที่ขาดหายไปของสิ่งที่เคยมีอยู่ในอดีตของวันวานเท่านั้นยังไม่เคยเห็นคำอธิบายว่ามีการสร้างขึ้นมาใหม่ เพียงแต่จำนวนที่มีอยู่นี้หาคนที่มีจิตรู้เห็นได้ทั้งหมดอาจไม่ได้ในยุคนี้แล้วถึงรู้ก็ไม่มีใครอยากจะไปนั่งค้นนับซึ่งจำนวนและรูปแบบอาจจะมากและหลากหลายกว่าจำนวนดาวทั้งหมดในกาแลกซี่หรือทางช้างเผือกเสียอีก บางทีตัวเองยังเคยคิดด้วยซ้ำว่าพระพุทธเจ้าคงทรงพอพระทัยที่ยุคนั้นไม่มีวิทยาศาสตร์วัตถุมากเหมือนปัจจุบันจะได้ต้องนำความจริงอันเป็นความรู้ไม่รู้จักจบสิ้นมาตอบคำถามนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายแต่สุดท้ายก็ไม่มีใครบรรลุธรรมพ้นทุกข์ได้แม้นแต่นิดเดียวเพราะคำตอบไม่ได้ช่วยให้เห็นความจริงในตัวเองเลย พูดง่ายง่ายหากเราพยายามจะรู้อะไรที่ไกลนอกตัวเกินไปนอกจากเสียเวลาเพราะปัญญามนุษย์ธรรมดาปัจจุบันไปไม่ถึงแล้วยังไม่เกิดประโยชน์อีก คนเราส่วนใหญ่ก็ยังไม่รู้จักตัวเองดีพอเลย อุ้ย! ตอบยาวไปหน่อย ยิ้ม เห็นไหมล่ะเสียเวลาอ่านตั้งนานจนถึงบรรทัดนี้แล้วคำตอบก็ไม่ได้ช่วยให้จิตใจเข้าถึงธรรมมะได้มากขึ้นเลย หันไปศึกษาการปฏิบัติแล้วดูผลลัพธ์ในตัวเองกันดีกว่า สาธุ
 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 17 ม.ค. 2007, 1:53 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ปัญญา ไม่ได้มาจากการคิด ตรึก นึก แค่สติรู้ทันความคิด แต่ยังไม่ใช่ปัญญา

เจริญในธรรม

มณี ปัทมะ ตารา


ผีเสื้อ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
aek
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 18 ม.ค. 2007, 6:11 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มันก้อหมุนเวียนกันไปแหละคุณเอ้ย ตามภพ ตามภูมิ

กิเลสเยอะก็ไปอยู่อบายภูมิกันเยอะหน่อย หมดเวรก็กลับมาวิ่งตามกิเลสใหม่อย่างเราๆนี่แหละ

อย่าไปสงสัยในสิ่งที่มันเกินวิสัยมนุษย์ปุถุชนเลย

มาคิดว่าทำยังงัยเราถึงจะคลายโลภ โกรธ หลง ในโลกปัจจุบัน ที่มันเต็มไปด้วยกิเลส ตัณหาดีกว่า เนอะ
 
np_0104
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 17 ม.ค. 2007
ตอบ: 2
ที่อยู่ (จังหวัด): ปราจีนบุรี

ตอบตอบเมื่อ: 18 ม.ค. 2007, 9:26 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยากรู้เรื่องไตรภูมิ.....ครับ
 

_________________
สุข......คือ.......ทุกข์ละเอียด
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailYahoo Messenger
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 27 ม.ค. 2007, 9:49 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ชอบลายเซ็นนี้จัง

สุข...คือ..ทุกข์ละเอียด

จะมีใครซักกี่คนที่จะเห็นถึง ทุกข์อันละเอียด นี้

สาธุ
 
วรา
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 27 ม.ค. 2007, 10:44 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คำถามคือว่า แล้วทำไม จึงมีมนุษย์ มากขึ้น มากขึ้น ล่ะครับ
ตอบ ก็เพราะยิ่งมีคนมา การเกิดก็ต้องมากไปด้วย เป็นธรรมดา

คือ จำนวนกลับเพิ่มขึ้นทุกที ไม่ได้คงที่ หมายความว่า
มีการสร้างจิต วิญญาณ ขึ้นมาใหม่ในทุกๆ วันหรือเปล่าครับ
ตอบ หากภพเป็นสิ่งแน่นอนแล้ว ตายกลับเกิดจะต้องเท่าๆกัน คือตายไปเท่าไร เกิดต้องใกล้เคียง
แต้ด้วยภพชาติ เป็นสิ่งที่เวียนว่ายกันไป จึงไม่สามารถจะทำให้คงที่ได้ เช่นหากเราตายไป ภพหน้าอาจไปเกิดเป็นสัตว์ก็ได้ สัตว์ภพนี้อาจไปเกิดเป็นคนภพหน้าก็ได้ ด้วยว่ากรรมเป็นตัวกำหนด

จิตหรือวิญญาณ นั้นมีมากมายแค่โลกนี้ ก็ไม่รู้เท่าไร แล้วที่ยังตกนรก เป็นเปรต อสูรกาย เทวดา เทพ อีกเท่าไร ที่ยังไม่ได้มาเกิดเป็นคน

ทางออกก็มีไม่ต้องมาเกิด ก็ทางที่พระพุทธเจ้าทรงสอนนั้นเอง

คำตอบมีแล้ว ท่านเชื่อไหมละ
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง