Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 คนที่เป็นเกย์ จะบวชได้ไหมครับ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
neiji
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 02 ม.ค. 2007
ตอบ: 3
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 02 ม.ค. 2007, 1:34 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

1. ผมนะสนใจเรื่องธรรมะมากอยากจะบวชครับแต่เคยมีคนบอกว่า คนที่เป็นเกย์นะบวชไม่ได้ อยากทราบว่าเพราะอะไรครับ บอกที
2. อยากทราบว่าคนที่บวชเป็นพระภิกษุนะครับว่า ท่านที่บวชหลายพรรษานะครับ ไม่ทราบมีวิธีการอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดอารมณ์ทางเพศได้นะครับ ผมนะลองที่จะไม่สำเร็จความใคร่ด้วยตนเองมาแล้วหนึ่งเดือนครับ หลังจากนั้นก็ 3 วันทีเป็นต้น (ต้องขอโทษด้วยนะครับสำหรับคำถามข้อนี้ที่ไม่ค่อยสุภาพเท่าไหร่ แต่มันสงสัยอะครับ) ขอพี่ๆๆน้องๆๆ รบกวนตอบด้วยนะครับ
ขอบพระคุณมากเลยครับ
 

_________________
จงเป็นคนดีมีความสุข อย่าอวดตนนั้นว่าตนนั้นเก่ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 02 ม.ค. 2007, 4:03 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เท่าที่ทราบมาบวชได้ค่ะ
ส่วนคำตอบข้อที่ 2 พยามสวนมนต์ก่อนเข้านอนแล้วก็ทำสมาธิดู
น่าจะช่วยได้นะ
สู้........ นะค่ะ
จะเป็นกำลังใจให้ค่ะ
 
....
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 02 ม.ค. 2007, 7:48 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

1.สมัยพุทธกาลก็มีพระอรหันต์ท่านหนึ่งก่อนท่านบวชท่านมีนิสัยคล้ายเกย์ แล้วน้อยใจที่พระพุทธเจ้า
ไม่ยอมให้เข้าพบจึงจะโดดหน้าผาตาย พระพุทธเจ้าทราบจึงแสดงธรรมไปว่า ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา
2.สำเร็จความใคร่ไม่ถึงกับสึกแต่ถ้าจะควบคุมให้ได้ต้องไม่แส่เข้าไปหาสิ่งที่ชักนำให้จิตเกิดความกำหนัด
ไม่ประมาทมีสติอยู่เสมอ หมั่นคิดถึงโทษที่เกิดจากกามครับ
 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 03 ม.ค. 2007, 12:16 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เราเป็นเกย์ควรทำตัวอย่างไร
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=628

เพศหญิง เพศชาย เพศโท สำคัญหรือไม่ คิดดี-ปฏิบัติดี สำคัญกว่า
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=1811
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 03 ม.ค. 2007, 12:29 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอทราบความแตกต่างระหว่างคำว่า บัณเฑาะก์กับกระเทย
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=8732
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
บัวสีม่วง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 04 ม.ค. 2007, 11:32 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตอบคำถามแรก บวชได้สิครับ แต่อันดับแรกลองบวชใจตัวเองก่อนก็ได้ ก่อนที่จะโกนหัวห่มผ้าเหลือง แม้กายภายนอกจะเป็นฆราวาส แต่จิตใจเราก็สามารถเป็นพระได้นะครับ ถ้าเพียงคุณมีศรัทธาอย่างแรงกล้าในร่มเงาพระพุทธศาสนา ทำบุญตักบาตร ทำทาน ไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิ ใหม่ๆอาจต้องพึ่งแรงศรัทธาภายนอก เช่น ไปทำบุญที่วัด สนทนาและฟังธรรม โดยเลือกให้ถูกกับจริต ค่อยๆซึมซับ และต้องศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้าเพื่อหาทางดับทุกข์ โดยเฉพาะกิเลส โลภ โกรธ หลง แต่ต้องปฎิบัติสม่ำเสมอ ผ่านไปซัก 1 ปี จะเห็นความเปลี่ยนแปลงดีๆเกิดขึ้นมากมาย เป็นปัจจัตตัง สัมผัสได้เฉพาะคนที่ปฎิบัติจริงเท่านั้น
ข้อ 2 ลองกินเจสิครับ หรือมังสวิรัติก็ได้ พยายามฝืนหน่อยในตอนแรก แต่พอผ่านไปได้ซัก 1 เดือน จนเริ่มชินกับรสชาติอาหาร คุณจะเริ่มมีอาการเบื่อหน่ายคลายกำหนัด เผลอๆอาจจะเหมือนผมก็ได้คือพอแฟนมาใกล้ๆจะรู้สึกเหม็นคาว ไม่อยากให้สัมผัส
ลองดูน่ะครับ เผื่อจะได้ผล เป็นกำลังใจให้คุณครับ
 
เจ๊เป็นตุ๊ด
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 29 พ.ย. 2006
ตอบ: 60
ที่อยู่ (จังหวัด): ร้อยสอง

ตอบตอบเมื่อ: 10 ม.ค. 2007, 5:02 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทำสมาธิใน ของเน่า ซากศพทั้งคนและสัตว์ เมรุ ป่าช้า ตัวอย่างเล็กน้อยที่แนะนำไว้ ถ้าบวชไปแล้ว พยายามคลุกคลีให้มากเข้า ความกำหนัดจะคลายลดน้อยไปเอง ครับ

สาธุ อาจเรียกได้ว่า ความสลด สยบ ความกำหนัด ครับ ตกใจ
 

_________________
ปัญญาอยู่ไหน ที่ไหนมีขายบ้าง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ไม่ใช่เกย์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 11 ม.ค. 2007, 4:11 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เป็นเกย์ แปลว่า ชอบเพศเดียว

แสดงว่ามีอารมณ์ทางเพศอยู่


ดังนั้น ก็อย่าบวชเลยครับ

ทุเรศ และทำลายศาสนา เปล่าๆ
 
อิคิว
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 16 ม.ค. 2007, 9:33 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ศึกษาพระธรรมจากพระไตรปิฏก อ่านหนังสือธรรมะ ฟังธรรมะ ก็รู้ธรรมได้โดยไม่ต้องบวชให้เป็นทุกข์เพราะตัณหาความอยากของตนเองก็ได้แล้วครับ
 
kingnirvana
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 16 ม.ค. 2007, 6:05 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สำหรับข้อที่ 1 นั้น ไม่ว่าหญิงหรือชายหรือจะเป็นเพศใดๆ ก็สามารถบวชได้นะครับ และแน่นอนก่อนที่จะถือเพศบรรชิต (ยกเว้นผู้หญิง) ตามหลักต้องผ่านการอบรมบ่มจิตใจเป็นฐานเสียก่อน นั่นคือมีศีลมาเป็นอันดับหนึ่ง และสำหรับข้อที่ 2 นั้น ครั้นจะอยู่ในเพศคฤหาสถ์ หรือเพศบรรชิตก็ตาม จะเป็นการบำเพ็ญจิตใจต่อเนื่อง นั่นคือฝึกจิตด้านสมาธิด้วยการกำหนดสิ่งใดๆ ตามจริตหรือที่จิตชอบใจ ประกอบกับการพิจารณาในหลักความจริงของชีวิต(เกิด แก่ เจ็บ ตาย) และการเวียนว่ายตายเกิด และโยงใยไปถึงอารมณ์ทางเพศ แน่นอนถ้ายังไม่ถึงพระอนาคามีเพียงใด ก็ยังมีการกำหนัดข้อนี้ฉันนั้น เราต้องถามตัวเราก่อนว่าพร้อมที่จะบำเพ็ญจิตใจในขั้นอุกฤฎ์หรือเปล่า นั่นคือ การฝึกฝนฝึกจิตให้คลายกำหนัดสิ่งเหล่านั้นอย่างเข้มแข็ง เพราะความสำเร็จอยู่ที่ใจ ยินดีสนทนาพูดคุยได้นะครับสำหรับผู้ใฝ่ดี (0818427064) สาธุ สู้ สู้
 
my name is neiji
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 16 ม.ค. 2007, 7:08 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

1. ก่อนอื่นผมก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่แสดงความคิดเห็นมาในหัวข้อกระทู้นี้นะครับ
2. เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วนะครับว่าทุกวันนี้ คนเรามีความรักหลายประเภท ซึ่งในครั้งพุทธกาลนั้น ผมเชื่อว่าก็ต้องมีเหมือนกัน เพียงแต่ไม่มีสื่อที่ทันสมัยเหมือนปัจจุบันนี้ที่ทำให้เราทราบข้อมูลต่างๆได้ทันท่วงที และนั้นก็ทำให้เรารู้ตัวเองด้วยว่า เราเป็นคนประเภทไหน และมีความรักแบบไหนด้วย
3. ผมยอมรับนะครับว่าผมนะเป็นเกย์ แต่ผมก็บอกกับใจของตัวเองเสมอนะครับว่า ในเมื่อเราเกิดมาเป็นอย่างนี้แล้ว ก็ยอมรับความจริงดีกว่าที่จะหนีมันไป ผมขอมองโลกในแง่ดีว่า มันก็ดีเหมือนกันนะ ทำให้เรารู้จักความทุกข์ของการเป็นคนที่สังคมไม่ยอมรับแบบนี้ว่ามันรู้สึกอย่างไร จะได้ช่วยเหลือคนที่เป็นแบบนี้ให้มีทางออกและให้พ้นทุกข์ขึ้นมาได้ระดับนึง และจะได้ไม่ต้องดูถูกซ้ำเติมใครอีกต่อไป หรือโทษฟ้าหรือกรรมในอดีตเช่นกัน
4. ผมคนนึงแหละครับ ที่สงสัยเรื่องการบวชแหละครับว่าคนประเภทนี้จะบวชได้หรือเปล่า และผมได้คำตอบนั้นแล้ว ทำให้ผมมีกำลังใจที่จะทำความดีให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะผมทราบดีว่า ชาตินี้เราเอาแต่ความดีและความชั่วที่เราได้ทำไว้ติดตัวเราไปในภพต่างๆๆ จนกว่าจะถึงขั้นนิพพานเท่านั้น ซึ่งผมจะพยายามเช่นกัน ให้เหมือนกับครั้งพุทธกาลที่พระพุทธเจ้ายังทรงมีชีวิตอยู่ แล้วศาสนารุ่งเรือง พร้อมกับจิตใจของมนุษย์ที่ประเสริฐ
5. เมื่อปีที่แล้วและปีก่อนๆๆมา ผมนะมีแต่คิดที่จะฆ่าตัวตายด้วยซ้ำที่ตัวผมเองต้องเป็นแบบนี้ แต่ตอนนี้กลับกันแล้วครับ หลังจากที่ผมได้ไปบวชหน้าไฟมา 1 วันเต็มๆๆ (ซึ่งใจผมอยากจะบวชมานานแล้ว แต่ฐานะไม่อำนวย ฯลฯ) ซึ่งทำให้ผมได้ทราบซึ้งรสพระธรรมมากขึ้น(ซึ่งในอดีตผมก็ศึกษาธรรมด้วยนะครับ) และไปปฏิบัติธรรมมาในช่วงปีใหม่ด้วย เลยทำให้มีจิตใจที่ดีขึ้นมาก และจะเข้าวัดบ่อยๆๆให้มากขึ้นเพื่อชำระกิเลสออกจากร่างกายของเราให้ผ่องใส ยิ้ม ขำ โดยผมต้องใจแล้วว่า จะไม่ไปแย่งผู้ชายหรือทำร้ายใครอีก (ปล่อยให้เขาทำเราเถอะ จะได้ไม่ต้องมีใครเจ็บอีก หากตายก็ไม่เสียดายแล้ว)
ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวเบื่อผมซะก่อน
6. ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะกระแทกใครนะครับ หากมีข้อความที่โดน ผมก็ขออภัยด้วยนะครับ
บาย
neiji
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 10 ก.พ.2007, 6:51 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

( อ้างอิงจากกระทู้ http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=628 )

หลวงพี่เอง ได้เข้ามาอ่านกระทู้แล้ว โดยเฉพาะกระทู้ตอบของน้องต้อที่ต้องใจวูบ เพราะเข้าใจไปว่าจะบวชไม่ได้ ก็ขอให้ไม่ต้องกังวลใจนะ

ในทางพระพุทธศาสนานั้น มิได้มีการบัญญัติว่าเกย์อย่างที่เข้าใจกันในปัจจุบันนั้นจะบวชไม่ได้ แต่มีข้อกำหนดไว้ชัดเจนว่า กระเทยแท้ คือมี ๒ เพศ ในร่างกายนั้นบวชไม่ได้

ส่วนความหมายของคำว่า "บัณเฑาะก์" นั้น หรือ ในภาษาไทยว่า "กระเทย" นั้น นอกจากจะหมายถึงกระเทยแท้ดังที่กล่าวไปแล้ว ก็ยังหมายถึง ชายผู้ถูกตอน ที่เราเรียกว่า "ขันที" นั่นเอง ก็ไม่ควรบวช เพราะถือว่าพิการ ถ้าหากพระอุปัชฌาย์รูปใดให้บวชก็ต้องต้องอาบัติ

และบัณเฑาะก์พวกที่ ๓ ก็หมายถึง "ชายผู้มีราคะกล้าและยั่วยวนชายอื่นให้เป็นเช่นนั้น" กล่าวคือประพฤตินอกรีตในทางเสพกามและยั่วยวนชายอื่นให้เกิดการเสพกาม อันนี้น่าจะหมายถึงตุ๊ด แต๊ว กระเทยที่แสดงออกอย่างชัดเจน และมีพฤติกรรมยั่วยวนและหมกมุ่นทางเพศอย่างที่ให้ความหมายไว้

ก็ถ้าหากอย่างที่ทั้งสองท่านบอกว่าเพียงเป็นเกย์ในทางความรู้สึกว่าไม่ได้ชอบผู้หญิงถึงขั้นแต่งงานจับคู่ออกเรือนกันได้ หรืออาจชอบรักผู้ชาย แต่ก็รู้ว่าไม่สมควรและก็ไม่ได้มีพฤติกรรมนอกรีตไม่ได้เสพกามหรือยั่วยวนให้เกิดการเสพกามกับชายผู้นั้น ก็ไม่ถือว่าเป็น "บัณเฑาะก์" เลย

จากที่พบเห็นในสังคมเชื่อว่าน่าจะมีเกย์ที่เป็นกลุ่มที่ ๓ นี้เยอะขึ้นมากในยุคปัจจุบัน

ส่วนกลุ่มผู้ชายที่อยู่ในภาวะก้ำกึ่งไม่แน่นอน มักจะสับสนในตนเองว่าเป็นกระเทยในกลุ่มที่ ๓ นี้หรือไม่ ก็คิดว่ายิ่งมีเยอะมากขึ้นๆ ซึ่งหลวงพี่เองโดยส่วนตัวคิดว่า กลุ่มหลังนี้ไม่ถือว่าเป็นกระเทย แม้จะมีปัญหาสับสนทางความคิดความรู้สึกอยู่ ก็ไม่เป็น ตราบใดที่ไม่ได้มีพฤติกรรมดังคำจำกัดความนั้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่แสดงออก และเป็นคนสนใจธรรมะ เป็นคนดีชอบช่วยเหลือสังคม คนกลุ่มเหล่านี้ไม่ได้เป็นหรอก

แต่การอบรมเลี้ยงดูหรือประสบการณ์บางอย่างในวัยเด็กอาจทำให้รู้สึกแปลกแยกสับสนไปบ้าง ถูกกระตุ้นเร้ามาก หรือยิ่งเก็บกดมากก็รู้สึกย้ำคิดย้ำทำมาก หรือเป็นเพราะเศษกรรมเก่า หรือเพราะคำอธิษฐานบางอย่างในอดีตชาติ มีอิทธิพลจรเข้ามาแทรกแซงชีวิตในชาติปัจจุบันบ้าง เมื่อเติบโตขึ้นมาในยุคนี้ก็เป็นสังคมที่มีการยั่วยุกระตุ้นเร้ามากมีค่านิยมยอมรับชี้นำ ก็จะยิ่งเกิดอารมณ์และการสับสนได้ง่าย ก็เป็นที่เข้าใจได้

และขอให้กำลังใจแก่น้องต้อ และโยมวิสุทธิ์ว่าไม่ต้องกังวล ถ้าเข้าใจถึงเหตุปัจจัยแท้ๆ ก็สามารถแก้ได้ บำบัดได้ ป้องกันได้ หรือแค่วางใจยอมรับมันเป็นปกติได้ในทางที่เหมาะที่ควร ก็ไม่ต้องทุกข์ใจอีกต่อไป

และหลวงพี่เองก็เคยเจอ เคยให้คำปรึกษาแนะนำ เคยช่วยเหลือในทางปฏิบัติธรรม และก็มีที่เคยมาบวชในระยะสั้นๆ ก็มี ก็ถ้ามีคนเข้าใจ ให้คำแนะนำได้อย่างเข้าใจ ก็จะทำให้สามารถปฏิบัติตนได้ถูกต้องเหมาะสม และจะเป็นประโยชน์มากๆ เป็นการสร้างบุญกุศล และบำเพ็ญเนกขัมมะบารมี ซึ่งจะเป็นการแก้ที่ตรงจุดที่สุด และยั่งยืนในภพชาติต่อๆ ไปอีกด้วย

แต่ถ้าไม่มีผู้แนะนำในทางที่เหมาะสมให้ ไม่เข้าใจคนกลุ่มนี้ แล้วถ้าไปบวชในวัดที่ไม่ดี ไม่มีคนสั่งสอนอบรม ก็อาจจะยิ่งแย่และจะไปเผลอทำอาบัติหนักๆ ขึ้นมาได้ ก็ต้องระวัง ต้องมีกัลยาณมิตรแนะนำอย่างเข้าใจ ก็จะไม่เป็นปัญหา

ก็ถ้าต้องการเล่าเรื่องอะไรให้หลวงพี่ฟังได้แล้วสบายใจขึ้น หรือจะติดต่อมาบวชทั้งระยะสั้นหรือบวชนานก็ตาม หรือจะปฏิบัติธรรมแบบฆราวาส หรือไว้ใจที่จะปรึกษาปัญหาต่างๆ อย่างไร ก็ติดต่อหลวงพี่มาได้ที่อีเมล์ moralproject@gmail.com

ขอให้กำลังใจในการทำความดี
ขออนุโมทนาในบุญกิริยาและเหตุปัจจัยอันเป็นกุศลทั้งหลาย
ขอให้บุญรักษาทุกคนนะ
ขอเจริญพร
ฐิตวํโส ภิกขุ
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง