Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
อรหันต์
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
noom
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 07 ต.ค.2004, 7:49 am
ผู้ได้ชื่อว่า "พระอรหันต์" คือ ผู้มีสติครองตน เป็นผู้พ้นอวิชชาแล้ว
ดังนั้น ความรู้แห่งภูมิของ "พระอรหันต์" ขั้นนั้นๆ นั่นแล จะเป็นสิ่งตัดสินให้แก่ "พระอรหันต์" นั้นๆถ้าเราทำความ "สงบสนิท" หรือทำ "ความไม่มีอะไรเลย" ให้ตนเองได้ แม้ในขณะ "จิตตื่น" นี้ เราก็ "พ้นทุกข์" เราก็ "นิพพาน" เราก็ "นิโรธ" ได้ทุกเมื่อ ทุกขณะ
ถ้าทำได้มากครั้ง เราก็ได้เป็น "อรหันต์" มากครั้งขึ้นเรื่อยๆ
ก็ให้หัดฝึก-หัดซ้อม-หัดทำไป จนทำ "จิต" ให้"สงบสนิท" หรือ ทำ "จิต" ให้อยู่ใน ความไม่มีชอบ -ไม่มีชังเลย หรือ ทำ "นิพพาน" ทำ "นิโรธ" ให้ตัวเองได้ จนแคล่วคล่อง ชำนิชำนาญเด็ดขาด เราก็ได้ชื่อว่า ทำได้ อย่างแน่นอน เป็น "สมุจเฉท" นั่นเอง
นั่นคือ เราได้ชื่อว่าเป็น "พระอรหันต์" แท้ๆ เที่ยงๆ
คำว่า "อรหันต์" จึงไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ไม่ใช่เรื่องสูงเกินขนาด ที่จะเป็นไปไม่ได้ ไม่ใช่ไม่เคยมี -ไม่เคยพบ - ไม่เคยเห็น
ทุกคนเคยมี-เคยพบ-เคยเห็น แต่ไม่เคย "รู้" เท่านั้น
จงพยายามหัด "รู้" ให้ได้ จะรู้จากคนอื่นไม่ได้ จะต้องรู้จากใน "ตนเอง" นี่เอง
"รู้ได้ชัด" เมื่อใด เมื่อนั้นแหละ ผู้นั้นจะ "รู้รส" ของความเป็น "อรหันต์"
แล้วจะติดใจ "รส" นั้น ไปไม่มีไถ่ถอนเลยจริงๆ
เป็นแน่นอน ขอให้ได้ลิ้ม"รส" ของความเป็น "อรหันต์" ให้ถึงใจ และรู้ตัวสักครั้งเถอะ ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ ท่านก็ จะได้ชื่อว่า เป็น "พระโสดาบัน" ทันที
แล้วท่านจะมุ่งยึด "รส" นี้เป็น "รส" หนึ่ง และ "รส" เดียวแห่งชีวิตจริงๆ
ไม่เชื่อ ก็ลองดูเถิด !
ถ้ายังงั้น "อรหันต์" คืออะไรแน่ ?
ถ้าพูดกันโดยศัพท์ "อรหันต์" ก็คือ ผู้ทำ "นิพพาน" ทำ "นิโรธ" หรือทำ "ความดับ" ให้แก่ตนเองได้ โดยตั้งใจ นั่นคือ ความหมายของ "อรหันต์" แท้ๆ ตรงๆ ดังนั้น
ขณะใด "คน" ผู้ใด ทำตนเองให้อยู่ในสภาวะ "นิพพาน" หรือ "นิโรธ"
ขณะนั้น "คน" ผู้นั้น ก็เป็น "พระอรหันต์" หรือเป็น "อรหันตบุคคล" เต็มที่
คือ เป็นผู้ที่ "พ้นออกไปแล้วจากทุกข์" หรือ "พ้นออกไปแล้วจากโลกีย์นั้น จากเหตุที่ก่อทุกข์" ในขณะนั้น
และเมื่อเลิกจากสภาวะ "นิพพาน" หรือ "นิโรธ" ปล่อยจิตให้รับรู้ รับกระทบ รับรู้สึกกับสิ่งที่จะพบ จะเห็น จะสัมผัส คือ ให้ "เวทนาเจตสิก" ทำงานนั่นเอง
คนผู้นั้น ก็พ้นสภาวะ "นิพพาน" ก็เป็น "พระอริยบุคคล" ธรรมดา หรือ ถ้าจะเรียกว่าเป็น "คน" ก็เป็น "คน" ที่มี "สติครองตน" ซึ่งไม่ใช่ "คน" ธรรมดา
เพราะ "คน" ธรรมดา นั้น อยู่ตาม "ยถากรรม" หรือ อยู่กับ "อารมณ์ครองตน" เป็นส่วนใหญ่
ดังนั้น ถ้าใครอยากพ้นสภาวะความเป็น "คน" ยกระดับตนขึ้นเป็น "พระอริยเจ้า" ก็จงหัดมี "สติครองตน" ให้ได้ อย่าอยู่อย่างมี "อารมณ์ครองตน"
พูดกันสั้นๆ "อรหันต์" จึงคือ "ผู้พ้นทุกข์" หรือ "คน" ผู้อยู่ในสภาวะ "พ้นทุกข์" นั่นแหละ เรียกว่า ผู้นั้นเป็น "อรหันตบุคคล" จะเป็นผู้รับรู้ อารมณ์ทุกอย่างได้ และ เป็นผู้เลือกปรุง "รสสัมผัส" ตาม "ปัญญา" หรือ ตาม "ความประสงค์" แห่งตน (ผู้นี้แหละ คือ ผู้อยู่ในสภาวะ "สอุปาทิเสสนิพพาน")
ถ้าพ้นสภาวะ (พ้นทุกข์) นี้ไป ก็เป็นผู้ไม่พ้นทุกข์ คือ ไม่อยู่ในสภาวะนิพพาน หรือ "สภาวะดับ" นั่นเอง
"สภาวะดับ" หรือ "สภาวะนิพพาน" คืออะไร?
"ดับ" หรือ "นิพพาน" ก็คือ ...
ความไม่มีอะไรที่เป็นโลภะ-โทสะ-โมหะ
ความไม่รับรู้โลกียรสเลย
ความไม่มียึด ไม่มีเสพย์อะไรเลย
ความรับกระทบสัมผัสอะไร ก็ไม่นำมาเป็นอารมณ์อะไรเลยทั้งสิ้น
รู้เหมือนไม่รู้ เฉยๆเมยๆ ไม่มีรัก ไม่มีโกรธ
นั่นแหละ คือ "ดับ" คือ"นิพพาน" ล่ะ ...
ลองนึกดูดีๆ ทำความเข้าใจให้ดี ว่า สภาวะอย่างนี้ มันคือ อย่างไรกันแน่ ?
นึกให้เห็นจริง นึกให้ออกให้ได้ ว่า สภาพอย่างนี้ เราเองเคยเป็น เคยมี เคยผ่าน เคยพบไหม ?
ข้าพเจ้าเชื่อ ว่า คนทุกคนมีโอกาสพบ "สภาวะ" นี้
http://www.asoke.info/09Communication/DharmaPublicize/Book/prakaidham/pk08.html
สายลม
บัวเงิน
เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245
ตอบเมื่อ: 07 ต.ค.2004, 7:51 pm
สาธุครับหนุ่ม นำธรรมะดีมาให้เพื่อนกัลยามิตรได้อ่าน และนำไปปฏิบัติกัน
โอ่
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 04 พ.ย.2004, 5:12 pm
การเป็นอรหันต์ชั่วคราวประเด๊ยวประด๋าว หรือนิพพานเดี๋ยวนี้ชั่วครั้งชั่วคราว ใช่จะเป็นฐานะที่จะพึงมีแก่ใครๆที่เป็นปุถุชนได้ เพราะปุถุชนเป็นผู้หนาด้วยกิเลส จะเข้าถึงความสงบแห่งพระนิพพานนั้นไม่ได้เลย จิตนั้นไม่มีทางจะหยั่งลงไปถึง ความสงบนั้นเป็นความสงบแห่งรูปและกามเท่านั้นเอง หาเป็นสงบอย่างนิพพานได้ไม่ ให้ทำใจให้สงบเท่าไรก็ไม่ได้ นอกจากเห็นอริยมรรค 8 ได้ชัดแล้วด้วยจิตนั้นก็เป็นอีกประการหนึ่ง
เมื่อจิตเข้าถึงนิพพานหรือดับแล้ว ย่อมไม่มีกิเลสลุกโชนได้อีกกลับมาเหมือนคนธรรมดาได้อีก เมื่อกิเลสไม่ดับ จิตย่อมไม่สัมผัสกับความหลุดพ้นได้
นิพพานชั่วคราวไม่ได้มีดังที่เข้าใจหรอก ไม่ว่าจะว่าโดยอรรถหรือพยัญชนะ
สำเร็จ
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 08 พ.ย.2004, 10:59 pm
ตอบคุณ noom
คุณเข้าใจเรื่อง อรหันต์ ผิดไปแล้ว คำอธิบายของคุณ
เป็นคำอธิบายของคนที่ไร้ศึกษา
คุณอธิบายบุคคลที่มีคุณสมบัติสูงสุดทางพระพุทธศาสนาผิดไป
คุณใช้ศัพท์ทางพระพุทธศาสนาไม่ถูกต้อง
อาการของคุณคือ...รู้ไม่จริง...แต่พูดมาก
ผมไม่อยากให้เวปไซด์นี้เป็นถังขยะ...
กรุณาเก็บคำอธิบายเหม็นๆของคุณออกไปด้วย
อิทธิกร
บัวใต้น้ำ
เข้าร่วม: 28 ส.ค. 2008
ตอบ: 137
ที่อยู่ (จังหวัด): ชลบุรี
ตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2008, 2:53 pm
ขอบคุณมาก
ได้อะไรเยอะเลย
_________________
ชีวิตที่รู้
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th