Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ขอถามผู้รู้เรื่องระหว่างฌานกับปัญญา อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
นเรศ
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 27 ต.ค. 2006
ตอบ: 2
ที่อยู่ (จังหวัด): 203-207 ถ.เทศบาล3 ต.ในเมือง จ.สุรินทร์

ตอบตอบเมื่อ: 27 ต.ค.2006, 7:12 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

1.ผู้ที่ได้ฌานกับผู้ที่ได้ปัญญาเห็นไตรลักษณ์อย่างไหนอาณิสงค์มากกว่าแต่ในคัมภีร์บอกว่าฌานเป็นครุกรรมหนักฝ่ายดีแต่ไม่เห็นบอกว่าปัญญาเป็นครุกรรมหนักฝ่ายดีบ้างเลย
2.อย่างผมฝึกวิปัสสนาญานผลจากการฝึกจิตวิปัสสนาสามารถกระโดดข้ามขั้นได้ไหมเช่นฝึกวิปัสสนาปลงอสุภะอยู่ดีดีจิตปฏิวัติไปญาน4หรือจากญาน1กระโดดไปญาน4ได้ไหมครับหรือต้องเป็นไปตามลำดับญานไม่ข้ามขั้น
 

_________________
ขอให้ข้าพเจ้าไปถึงยอดเขาที่สูงที่สุด
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 28 ต.ค.2006, 12:07 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบสวัสดี คุณนเรศ

ฌาน ก็คือ ภาวะจิตสงบประณีต ซึ่งมีสมาธิเป็นองค์ธรรมหลัก แต่ถ้าไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ในทางที่ถูกต้อง คือไม่ได้นำไปใช้ในทางสนับสนุนให้เกิดปัญญาในการดับทุกข์อย่างแท้จริง ไม่ได้นำความสงบและกำลังจิตที่เกิดขึ้นนั้นเป็นไปเพื่อการวิปัสสนาพิจารณาธรรมให้เกิดปัญญาญาณ ก็ล้วนก่อกรรมทั้งสิ้น ถึงแม้จะเป็นภาวะจิตที่ลึกซึ้ง แต่ยังเป็นเพียงความหลุดพ้นที่ถูกข่มไว้ คือกิเลสระงับไปเพราะถูกกำลังสมาธิข่มไว้ชั่วคราวเท่านั้น

ญาณ แปลว่า ความรู้ คือปรีชาหยั่งรู้หรือกำหนดรู้ได้ด้วยอำนาจการบำเพ็ญวิปัสสนา
วิปัสสนากรรมฐาน หมายถึง ที่ตั้งแห่งการกระทำให้เกิดเห็นวิเศษ เห็นแจ้ง เห็นต่าง
เห็นวิเศษ คือ การรู้เห็นที่ให้เข้าถึงความดับทุกข์อย่างสนิทได้
เห็นแจ้ง คือ การรู้เห็นสภาวะจริง ตามความเป็นจริง โดยประจักษ์เฉพาะหน้า(ปัจจุบัน)
เห็นต่าง คือ การรู้เห็นที่ต่างไปจากการเห็นที่คลาดเคลื่อนของปุถุชน

ปัญญาในการเจริญวิปัสสนา จะชำแรกประหารกิเลสให้ลดน้อยลง เบาลง มอดลง และดับสนิทไป ซึ่งต้องพิจารณารูปนามให้ได้ปัจจุบัน คือช่วงที่กำลังปรากฏที่มีลักษณะเป็นไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ปัญญาตรงไตรลักษณ์จึงมีอานิสงส์มากกว่า

ส่วนคำถามในข้อ 2. หากการเพ่งอสุภะ จนกระทั่งได้ฌาน มีปิติสุข มีสมาธิองค์ฌาน ก็ยกองค์ฌานนั้นๆมาพิจารณาน้อมกำหนดที่ปิติ ที่ความสุขตรงจิต ดูผู้รู้ ผู้ดู จนเห็นความเปลี่ยนแปลง เกิดดับ เห็นไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ก็เข้าสู่วิปัสสนาได้ ข้ามขั้นนี่เป็นไปได้ แต่สภาวะที่ว่าข้ามมาแล้ว สภาวะธรรมปัจจุบันเป็นอย่างไร พิจารณาเห็นได้ตามความเป็นจริงหรือเปล่า ทีนี้ไม่ต้องไปนับหรอกว่าถึงไหน ข้ามหรือโดด ดูซิว่ากิเลสมันเบามั้ย ปัญญาพิจารณาธรรมได้ลึกซึ้งอย่างไร

เจริญในธรรม

มณี ปัทมะ ตารา
ผีเสื้อ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
นเรศ
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 27 ต.ค. 2006
ตอบ: 2
ที่อยู่ (จังหวัด): 203-207 ถ.เทศบาล3 ต.ในเมือง จ.สุรินทร์

ตอบตอบเมื่อ: 28 ต.ค.2006, 8:24 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

จิตดวงเดียวล้วนที่ปราศจากิเลสน่าจะมีอานิสงค์มากกว่าโสภณเจตสิกที่ประกอบด้วยปัญญาแจ้งไตรลักษณ์
 

_________________
ขอให้ข้าพเจ้าไปถึงยอดเขาที่สูงที่สุด
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 28 ต.ค.2006, 2:57 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ได้สนทนากับคุณอาคันตุก ให้ห้องแชทสนทนาธรรมเวปธรรมจักร คุณอาคันตุกได้เมตตาแสดงรายละเอียดไว้ดังนี้ค่ะ

อาคันตุก จิตดวงเดียวที่มีอานิสงส์ คือมรรคจิต เรียกว่าอรหัตมรรค
อานิสงส์ที่หมายถึงผลแห่งความดี หรือผลแห่งบุญนั้น มรรคจิตนั้นคือการละบุญ ดังนั้นเมื่อเอาฌาน กับปัญญาเห็นไตรลักษณ์ ซึ่งหมายถึงการเห็นไตรลักษณ์ในวิปัสสนาญาณ ที่ไม่ได้ถึงมรรคญาณ คือโสดาปัตติมรรค การเห็นไตรลักษณ์ในวิปัสสนาญาณนี่มีบุญมากกว่าการได้ฌาน

คำสอนเรื่องบูญเทียบเคียงที่พระพุทธเจ้าทรงสอนดังนี้
ทำบุญถวายทานแก่พระพุทธเจ้า ได้บุญมากกว่าถวายอริยบุคคลประเภทอื่น
การถวายทานแก่พระสงฆ์ที่มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน ได้บุญมากกว่าถวายทานแก่พระพุทธเจ้า การแผ่เมตตาด้วยอารมณ์ฌานไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณ ได้บุญมากกว่าถวายสังฆทาน
การเห็นไตรลักษณ์ได้บุญมากกว่าแผ่เมตตา

ขอธรรมะคุ้มครองคุรุผู้ประเสริฐ คุรุผู้เมตตาธรรมทุกท่าน

มณี ปัทมะ ตารา
ผีเสื้อ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง