Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 จิตตก อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ระเบิดเวลา
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 12 ต.ค.2006, 6:51 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เวลาจิตตก สติกระเจิดกระเจิง เก็บกดจนถึงเวลาหนื่งมันก็ระเบิดออกมา โลกทั้งโลกเหมือนไม่มีความหมาย ไม่อยากพูดไม่อยากเจอใคร วิธีที่ดีที่สุดและเร็วที่สุดในการทำให้จิตดีขึ้นคืออะไร ใครช่วยกรุณาบอกที
 
ผ่านมาผ่านไป
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 12 ต.ค.2006, 9:39 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

หลับ ดีขึ้นแล้วเดี๋ยวก็ตกลง เลิกกับมันได้เมื่อไรก็สบาย
 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 12 ต.ค.2006, 10:22 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบสวัสดี คุณระเบิดเวลา

โลกมันก็ไม่มีความหมายอยู่แล้ว ไปให้ค่าความสำคัญกันเอง ก็เพียงธรรมชาติแค่นั้น อยู่ในโลกไม่เป็นโลกก็ระเบิดไปตามระเบียบ ไม่อยากพูด ไม่อยากเจอใคร ก็เป็นการดี ทำให้มีอิสระที่จะได้อยู่กับตัวเอง ดูตัวเองให้ชัดๆสักที นี่แหละที่เรียกว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ ไม่ต้องไปตามเรื่องราวว่ามันตกเพราะอะไร ทำไมมาทำให้ตก มัวคิดอยู่สติก็กระเจิดกระเจิงไป ไม่รู้อยู่กับจิตกับใจตัวเอง

ดูซิค่ะ มันตก มันไม่สงบ มันเปลี่ยนแปลงมั้ย มันคิดเรื่องนั้นคิดเรื่องนี้ มันเปลี่ยนอารมณ์ อยู่ตลอดเวลา เราก็ดูไป ดูจิตให้จิตเป็นปกติคือการรู้เท่าทันขณะปัจจุบัน ปล่อยใจให้สบาย ทำใจให้ว่างจากเรื่องราวต่างๆ เรื่องอันใดที่ผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านไปไม่ต้องเก็บมาคิดมานึกให้รำคาญใจ เรื่องอันใดที่ยังมาไม่ถึงก็อย่าไปวิตกคำนึงถึง ไม่มีประโยชน์อะไร มีแต่ทุกข์ ทำจิตใจปล่อยวางจาก อารมณ์ภายนอกทั้งหมด หยุดดูหยุดรู้อยู่กับปัจจุบันอารมณ์ สำรวมรู้อยู่ที่กายของตัวเองนี่แหละเป็นวิธีที่ดีที่สุด

เจริญในธรรม

มณี ปัทมะ ตารา
ผีเสื้อ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
กรัชกาย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 13 ต.ค.2006, 10:09 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ยกจิต ข่มจิต ประคองจิต
เมื่อจิตตกก็ยกจิตขึ้น ด้วยการคิดสิ่งที่ทำให้จิตอาจหาญร่าเริง ข่มจิต เมื่อจิตฟุ้งซ่าน ฯลฯ ประคองจิต เมื่อจิตดำเนินตรงแล้ว
 
ยกน้อยก็เลยตกน้อย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 14 ต.ค.2006, 7:20 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

จิตตกเป็นเรื่องธรรมดาก็เพราะว่าเราไปยกมันหรือถือมันไว้สูงกว่าที่ควรจะเป็น ถึงได้รู้สึกว่ามันตกลงมา เปลี่ยนมาหัดวางลงดูหน่อยจะเป็นไร เหมือนก้อนหินหากวางให้มันอยู่ระดับเดียวกับพื้น ก็ไม่มีวันที่จะตกได้ ปฏิบัติธรรมอย่าหลงมุ่งมั่นไปว่าต้องเพิ่มพลังให้กับจิตแต่ต้องแสวงหาหนทางให้จิตได้รู้แจ้งเห็นความจริง ในเมื่อจิตยังไม่เห็นก็ไม่จำเป็นจะต้องไปคาดหวังพลังเพื่อบังคับมันให้เห็น จะรู้สึกว่าตกหรือขึ้นก็ช่างขอเพียงในแต่ละวันเวลาที่ผ่านไปไม่มีอะไรมาหยุดยั้งฉันให้ละการฝึกฝน สุขก็จะทำ ทุกข์ก็จะทำ หัวเราะก็จะทำ ร้องไห้ก็จะทำ นอนป่วยอยู่ก็จะทำ ทุกวันเวลาที่ตั้งใจไว้มาก่อนว่าจะทำเป็นกิจวัตร แม้นหากกิเลสอยากปฏิบัติมันมากมากนอกเวลาก็แกล้งไม่ทำมันดูเสียบ้าง ให้รู้ว่าฉันไม่ได้อยากยกนายให้สูงขึ้นกว่าปกติ เพราะหากรู้สึกว่าสูงขึ้นเมื่อไร ความรู้สึกตกต่ำก็มีโอกาสตามมาได้หลังจากนั้น สาธุ
 
ผู้ผ่านทาง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 18 ต.ค.2006, 8:48 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตั้งสติ หายใจเข้า- ออก ช้าๆ หายใจให้ ลึกๆ ยาวๆสัก 4-5 ครั้ง เอาความรู้สึกตั้งไว้ที่กลางระหว่างอก แล้วให้ถามตัวเองว่า ตัวเราเป็นอะไรไป ทำไมถึงมีอารมณ์อย่างนี้ ทำไมหงุดหงิด เราไม่พอใจอะไร หาสาเหตุต่างๆ แล้วตอบคำถามตัวเองให้ได้ ทุกอย่างจะคลี่คลายแล้วจะสบายใจเอง
 
ชัย
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 26
ที่อยู่ (จังหวัด): ร้อยเอ็ด

ตอบตอบเมื่อ: 26 ต.ค.2006, 3:21 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านครับ
อาการของจิตตกก็คงจะหมายความเหมือนพระอริยเจ้าท่านกล่าวไว้ว่า พอออกจากสมาธิบางทีจิตก็ตกไป เสื่อมไป ไม่อยากจะประพฤติ ปฏิบัติใดๆ เลย อย่างนี้หรือเปล่าครับ
วิธีแก้อาการจิตตกคือ ฝึกสติ ครับ
ตื่นเต้น ตื่นเต้น
สติมาปัญญามี สติดีก็ไม่มีปัญหา สติไม่มาปัญญาไม่มี สติไม่ดีก็ต้องมีปัญหา
สติมาปัญญาเกิด สติเตลิดมันก็เกิดปัญหา
ยิ้ม ยิ้ม
สติ คือ การระลึกรู้อยู่เสมอ ระลึกอะไร ระลึกในธรรมที่ควรระลึก เช่น ถ้าเราดื่มเหล้ามาก เราต้องเมาแน่นอน ก็เมื่อเมาแล้วเราต้องขาดสติ ก็ในเมื่อขาดสติทำให้เราลืมอาย หรือลืมตัวไปชั่วขณะที่เรายังเมาอยู่ หรือเมาไม่สร่าง ถ้าเราระลึกได้อย่างนี้ เราก็ไม่ดื่มมาก หรือไม่ดื่มเลย นี่เรียกว่าการระลึกในธรรมที่ควรระลึก หรือมีสตินั่นเอง
สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาสาธุครับผม
 

_________________
ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
ying
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 06 ธ.ค.2006, 8:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดิฉันก็เป็นแต่ก็ดีขึ้น สวดมนต์ และภาวนาพุทโธ ค่ะ 108 จบ แผ่ส่วนบุญให้เทวดาที่คุ้มครองตัวเรา เจ้ากรรมนายเวร ฯลฯ เห็นผลทันตาเลยค่ะ
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 14 ธ.ค.2006, 7:24 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

จิตตก สติ.. ตามทันจิตจริงแล้วหรือ.. จึงกล้าพูดอย่างนี้
ฟังๆ ดูแล้ว เหมือนกับว่า รู้จักเพียงแค่จิตเท่านันเอง
ส่วนสติที่คิดว่ารู้จักจิต.. ก็เป็นเพียงจิตที่คิดตามสิ่งที่รู้แล้วเท่านั้น
จิตหดหู่.. จิตเศร้าหมอง.. จิตเบื่อหน่าย.. จิตไม่อยากได้..
จิตไม่อยากมี.. จิตไม่อยากเป็น.. สารพัดที่จิตจะเป็นไป
สติสามารถรับรู้ได้ท่านั้นเอง.. ไม่แน่ใจจะสามารถว่ารับรู้ได้ทันที
หรือว่ารู้ได้ภายหลังที่คิดไตร่ตรองแล้ว..
จิตเกิด.. จิตใหม่ก็เกิดตาม..
ส่วนความรู้สึกที่รู้เท่าทันอารมณ์ หรือรู้เท่าทันจิตที่เกิดขึ้นในขณะนั้นๆ
...เรียกว่า... "สติ"... หลับ
 
ทูล ดำนงค์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 14 ธ.ค.2006, 9:23 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ ใดใดในโลกมันก็เป็นอย่างนี้ละครับ มีจิตตก มีจิตไม่ตก มีจิตสูง มันเป็นธรรมดาครับ เรียกว่าไตรลักณ์สาม อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มันไม่เที่ยงครับ
 
TIIIIIPPPPPP
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 17 ธ.ค.2006, 2:09 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พยายาม นึกว่า เราเกิดมาทำไม ในชาตินี้
อยู่เพื่ออะไร ทำเพื่ออะไร เพื่อใคร คิดให้ดี
ซักวันถ้าเรากำลังจะตาย ใครช่วยเราได้บ้าง มีใครไหม ที่ช่วยเราได้
ต้องคิดแบบนี้ บ่อยยยยยย
ย้ำ ย้ำ
นึกย้อน ไปย้อนมา กลับไป กลับมา
แล้ว ......รู้สึกยังไง มาเล่านะ กำลังรอ มีตอนต่อไป ด้วยนะ
....
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง