Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 "ความมืด" อันใดน่ากลัวที่สุด อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
กก
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 11 ต.ค.2006, 3:51 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ครั้งหนึ่งพระพุทธองค์ตรัสกะพระสาวกของพระองค์ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย โลกันตนรกมีแต่ความทุกข์ มืดคลุ้มเป็นหมอกมัว สัตว์ในโลกันตนรกนั้นไม่ได้รับรัศมีพระจันทร์และพระอาทิตย์ซึ่งมีฤทธิ์มีอานุภาพมากถึงขนาดนี้

เมื่อพระองค์ท่านตรัสแล้วก็ทรงเงียบอยู่ กระทั่งมีภิกษุรูปหนึ่งทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ฟังแล้วโลกันตนรกช่างมืดมากเหลือเกิน แต่จะยังมีความมืดอย่างอื่นที่ยิ่งไปกว่านั้น น่าสะพรึงกลัวยิ่งไปกว่าความมืดแห่งโลกันตนรกหรือไม่พระเจ้าข้า ?

พระพุทธองค์ตรัสตอบว่า ดูกรภิกษุ ความมืดอย่างอื่นที่มากกว่าและน่ากลัวกว่าความมืดแห่งโลกันตนรกนั้นมีอยู่ แล้วท่านก็สาธยายมีใจความโดยสรุปคือ ความไม่รู้ตามจริงนั่นเองที่มืดยิ่งกว่าโลกันตนรก

พวกเราไม่รู้อะไรตามจริงบ้าง ? คือ

๑) ไม่รู้ว่ากายใจอันเป็นที่ตั้งของอุปาทานทั้งปวงนี้ เป็นทุกข์ (นึกว่าเป็นสุข เป็นของดีที่น่ามีน่าเป็น)

๒) ไม่รู้ว่าความอาลัยยึดติดในกายใจนี้ เป็นเหตุแห่งทุกข์ (นึกว่าจำเป็นต้องหลงอยู่เช่นนี้อย่างไม่มีทางเลือก)

๓) ไม่รู้ว่าความพ้นขาดจากการหลงยึดผิดๆ เป็นความดับทุกข์ (นึกว่าการดับทุกข์เด็ดขาดถาวรชนิดไม่กลับกำเริบใหม่เป็นไปไม่ได้)

๔) ไม่รู้ว่าการตั้งมุมมองไว้ตรงตามจริง แล้วเพียรตั้งสติดูอยู่จนจิตตั้งมั่นรู้แจ้ง เป็นวิธีดับทุกข์ (นึกว่าคลายความกระวนกระวายได้เพียงด้วยการเสพกาม หรืออย่างดีที่สุดคือการเข้าฌานไปเป็นพรหมเพื่อมีชีวิตอมตะชั่วนิรันดร์)

แค่ความไม่รู้ว่าอะไรเป็นทุกข์ อะไรเป็นทางดับทุกข์เท่านี้ เหตุใดจึงได้ชื่อว่าเป็นความมืดที่น่ากลัวเสียยิ่งกว่าโลกันตนรก? ขอให้พิจารณาว่าความมืดของโลกันตนรกนั้น ยังมีวันสว่าง ยังมีทางเปิดให้สัตว์ไปอุบัติในภพอื่นหลังจากใช้กรรมหมดสิ้นแล้ว แต่ความไม่รู้ว่าอะไรเป็นเหตุแห่งทุกข์ ไม่รู้ว่าอะไรเป็นบุญเป็นบาปนั้น ส่งสัตว์ให้ตกต่ำลงไปยิ่งกว่าโลกันตนรก เช่นถ้าพลาดทำอนันตริยกรรมก็มีหวังถึงอเวจีมหานรกได้

โลกันตนรกเป็นแค่ภพแห่งความทุกข์ภพหนึ่ง แต่ความไม่รู้ หรือความมีอวิชชานั่นแหละ นำไปสู่ภพแห่งความทุกข์ต่างๆ ทั้งที่มืดมนกว่าโลกันตนรก และทั้งที่แผดเผาเท่าอเวจีมหานรก และสำคัญกว่าอะไรคือโลกันตนรกนั้นวันหนึ่งจะสิ้นสุดสภาพเองเมื่อแรงส่งของวิบากกรรมหมดลง แต่อวิชชาจะไม่มีวันสิ้นสุดสภาพด้วยตนเองเลย หากปราศจากเหตุคือปัญญารู้ทางดับทุกข์



จากคุณ นัท เมื่อวันที่ 3/5/2548 22:39:20
 
ข้าน้อย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 11 ต.ค.2006, 10:46 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

โมทนาในธรรมทานครับ.....สาธุ สาธุ
 
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 12 ต.ค.2006, 9:19 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อนุโมทนาบุญค่ะ...คุณ กก

ดอกไม้ ดอกไม้ ดอกไม้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง