นนทบุรี-ชลบุรี ท่วม พายุช้างสารจ่อซํ้า

ตอบเมื่อ: 29 ก.ย. 2006, 8:41 am

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 ก.ย. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. เดินทางไปตรวจสอบสภาพน้ำท่วมด้านทิศตะวันออก พบน้ำท่วมขังหลายจุด เช่น ถนนพัฒนาการน้ำท่วมสูง 20-30 ซม. หมู่บ้านสวนสน ซอยรามคำแหง 60 น้ำท่วมสูง 50 ซม. ทำให้ประชาชนเข้าออกลำบาก ต้องลุยน้ำออกมา นายอภิรักษ์กล่าวถึงการแก้ปัญหาว่า ได้ประสานขอกำลังสนับสนุนจากทหารพัฒนา ให้ช่วยนำรถขนาดใหญ่มารับส่งประชาชนตามตรอกซอยสู่ถนนใหญ่ ซึ่งสามารถบรรเทาปัญหาได้ระดับหนึ่ง ขณะที่ กทม.ก็ได้เร่งสูบน้ำอย่างเต็มที่

นายอภิรักษ์กล่าวอีกว่า ส่วนสถานการณ์ริมแม่น้ำเจ้าพระยายังไม่เอ่อล้นตลิ่งอย่างที่หลายฝ่ายกังวล โดยระดับน้ำวัดได้ 1.77 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง แต่ในช่วงค่ำจะสูงถึง 1.8 เมตร ซึ่งแนวเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยายังรับมือได้ และประเมินได้ว่าภาพรวมของปัญหาน้ำท่วมยังไม่วิกฤติ แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากขณะนี้มี 3 น้ำมาพบกัน คือทะเลหนุนสูงสุด น้ำเหนือหลาก และน้ำฝน ทำให้ระดับน้ำที่ไหลผ่านสูงถึง 2,423 ลูกบาศก์เมตร/วินาที หาก 1-2 วันนี้มีฝนตกลงมาอย่างหนักจะทำให้สถานการณ์น่าเป็นห่วง

ต่อมาบ่ายวันเดียวกัน นายอภิรักษ์พร้อมคณะ เดินทางไปตรวจน้ำท่วมที่หมู่บ้านเมืองทองการ์เด้น ซอยพัฒนาการ 65 และหมู่บ้านผาสุข ซอยพัฒนาการ 69 พบว่ามีระดับน้ำ ท่วมขังสูงทั้ง 2 หมู่บ้าน มานานร่วม 2 สัปดาห์แล้ว จนเริ่มมีกลิ่นเหม็นเน่า จึงประสานกับหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาจัดรถมารับส่งชาวบ้านเข้าออกหมู่บ้าน และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำออกเร่งด่วน

นายบรรพต หงษ์ทอง ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 2-3 ต.ค. จะมีพายุ “ช้างสาร” เคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม และอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน จะส่งผลให้มีฝน และฝนตกหนักปกคลุมภาคอีสาน ภาค ตะวันออก ภาคใต้ และอ่าวไทย ว่า ได้สั่งการให้กรมชลประทานเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดแล้ว สำหรับพื้นที่ กทม. หากปริมาณฝนตก ไม่เกิน 60 มิลลิเมตร/ชม. ทาง กทม. จะสามารถบริหารจัดการไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมได้ ซึ่งทางกรมชลประทานได้ควบคุมปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ผ่านมายัง กทม. ให้อยู่ในระดับไม่เกิน 2,500 ลบ.ม./วินาที เมื่อรวมกับน้ำในพื้นที่หากมีน้ำไหลเพิ่มเข้ามาอีกไม่เกิน 500 ลบ.ม./ วินาที กทม.จะสามารถรองรับน้ำในปริมาณดังกล่าวได้

ส่วน จ.นนทบุรี เขตปริมณฑล น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกาะเกร็ด ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด และพื้นที่ ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด ระดับน้ำสูงประมาณ 50 ซม. ชาวบ้านขนข้าวของหนีน้ำกันโกลาหล นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผวจ. นนทบุรี กล่าวว่า ได้สั่งให้นายพิเชษฐ ไพบูลย์ศิริ รอง ผวจ.เข้าสำรวจพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือเร่งด่วน และวันเดียวกันตนได้ประกาศเตือนให้จังหวัดนนทบุรีเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว

ด้าน จ.ชลบุรี หลังฝนตกอย่างหนักและติดต่อกันหลายวันทำให้น้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนในเขตพื้นที่หมู่ 3 ต.มาบโป่ง อ.พานทอง พื้นที่ต่ำบางแห่งถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร เรือกสวนไร่นาและบ่อเลี้ยงปลาจมอยู่ใต้บาดาล ถนนสายชลบุรี-พนัสนิคม เขตพื้นที่ ต.มาบโป่ง ถูกนำท่วมสูงเป็นระยะทางยาวร่วม 2 กม. รถเล็กสัญจรผ่านไปมาลำบาก นายพิสิษฐ์ เกตุผาสุข ผวจ. ชลบุรี กล่าวว่า ได้ประกาศให้พื้นที่ อ.พานทอง กับ อ.พนัส-นิคม เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินเช่นกัน

ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา หลายฝ่ายหวั่นเกรงว่าน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะทะลักเข้าท่วมเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ทางว่าที่ ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังทหาร และประชาชน จำนวนกว่า 300 คน ร่วมกันนำทรายใส่กระสอบเพื่อเตรียมป้องกันเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาเต็มที่ ส่วนพื้นที่รอบนอกอย่างเช่น อ.บางบาล พบว่าหลายหมู่บ้านยังถูกน้ำท่วมสูง

ด้าน จ.สิงห์บุรี ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ ต.ท่างาม ต.อินทร์บุรี ต.น้ำตาล ต.ประศุก และ ต.ทับยา อ.อินทร์บุรี ชาวบ้านพากันเดือดร้อนกว่า 150 หลังคาเรือน ต้องขนย้ายสิ่งของและสัตว์เลี้ยงไปไว้ในที่สูง พ่อค้าแม่ค้าในเขตเทศบาลตำบลอินทร์บุรี เร่งขนย้ายสิ่งของหนีน้ำกันอย่างทุลักทุเล ขณะที่นายสมพร ตระกูลมาภรณ์ นายกเทศมนตรีตำบลอินทร์บุรี สั่งนำกระสอบทรายทำคันกั้นน้ำและเร่งสูบน้ำเพื่อไม่ให้เอ่อล้นเข้าท่วมในเขตชุมชนแล้ว ขณะที่ จ.อ่างทอง ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับทหารและประชาชนนำกระสอบทรายเสริมแนวคันกั้นน้ำริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านตัวเมืองอ่างทองให้สูงขึ้น เพราะระดับน้ำเพิ่มปริมาณและจะมีน้ำทะเลหนุนจนน้ำทะลักท่วมรุนแรง

ที่ จ.ชัยนาท วันเดียวกัน นายพีรพงษ์ สุวรรณมนตรี รองอธิบดีกรมชลประทาน เดินทางไปตรวจเยี่ยมการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา โดยมีนายสี่พร มณีโชติ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 12 ให้การต้อนรับก่อนจะพาคณะไปตรวจเยี่ยมเพื่อติดตามสถานการณ์ ปริมาณน้ำที่บริเวณสันเขื่อนเจ้าพระยา และเยี่ยมกระชังเลี้ยงปลาทับทิมที่บริเวณแม่น้ำน้อย ต.ชัยนาท อ.เมืองชัยนาท จากนั้นนายพีรพงษ์เผยว่า ขณะนี้กรมชลประทานระดมกำลังเจ้าหน้าที่ศูนย์ติดตามสถานการณ์น้ำพร้อมประสานกับสำนักระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร และกรมป้องกันภัย เพื่อติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง

จ.นครสวรรค์ กระแสน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลทะลักพังคันกั้นน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนชุมชนวัดจอมคีรีนาคพรต หรือวัดเขา ต.นครสวรรค์ออก ชาวบ้านกว่า 300 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบเร่งขนย้ายข้าวของกันวุ่นวาย สายวันเดียวกัน นายจิตตเกษม นิโรจน์ นายกเทศมนตรีนครนครสวรรค์ เรียกประชุมคณะเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลฯเป็นการด่วน เพื่อหารือและวางแผนรับมือน้ำท่วมหลังมีน้ำไหลบ่ามาจากทางภาคเหนือเป็นจำนวนมาก ที่ประชุมมีมติให้ย้ายตลาดสดเทศบาลฯที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้มาตั้งขายที่บนถนนมาตุลี ข้างสำนักงานเทศบาลฯทันที เพราะเกรงถูกน้ำท่วมสูง

ส่วนภาคเหนือที่ จ.ตาก ระดับน้ำในแม่น้ำวังที่ไหลผ่านพื้นที่ อ.สามเงา และ อ.บ้านตาก ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะมีฝนตกหนักทุกวัน ทำให้มีน้ำจากลำห้วยทางตอนเหนือไหลลงมาสมทบในแม่น้ำวัง จนทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรเป็นวงกว้าง นอกจากนั้น น้ำในแม่น้ำวังยังไหลไปสมทบกับแม่น้ำปิง ทำให้ชุมชนริมสองฝั่งแม่น้ำปิงในตัวเมืองตาก และกิ่ง อ.วังเจ้า ถูกน้ำท่วมสูง ทางจังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือเต็มที่ เช่นเดียวกับ จ.เชียงราย หลายพื้นที่ถูกน้ำป่าทะลักท่วมสูง โดยเฉพาะ อ.แม่จัน บางหมู่บ้านถูกน้ำท่วมหนัก ชาวบ้านเดือดร้อนทั่วหน้า

ขณะที่ จ.พิจิตร พื้นที่ อ.โพทะเล อ.สามง่าม กิ่ง อ.บึงนาราง และ อ.วชิรบารมี ถูกน้ำในแม่น้ำยมเอ่อล้นท่วมสูงหลายหมู่บ้าน ชาวบ้านพากันทุกข์ระทมหนัก เพราะถูกน้ำท่วมขังมาหลายวันแล้ว ขณะที่พื้นที่เขต อ.เมืองพิจิตร ก็ถูกน้ำในแม่น้ำน่านที่ไหลผ่านทะลักท่วมเป็นวงกว้างเช่นกัน นายโชดก วีรธรรมพูลสวัสดิ์ เลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปภัมภ์ นำถุงยังชีพพระราชทาน 1,000 ชุด มอบให้กับชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ อ.โพทะเล ส่วนที่ จ.พิษณุโลก มูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก จัดส่งรถเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ตั้งโรงครัวทำอาหารแจกจ่ายชาวบ้านที่ประสบภัยในพื้นที่ ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ทุกภาคมีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนัก ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณพื้นที่ลุ่ม พื้นที่ลาดเชิงเขา พื้นที่ใกล้ทางน้ำไหล ระมัดระวังภัยจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่งต่อไปอีก อนึ่ง เมื่อเวลา 16.00 น. พายุไต้ฝุ่น “ช้างสาร” ได้เคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้แล้ว มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กม./ชม. กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกด้วยความเร็ว 20 กม./ชม. และจะมีผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทยประมาณวันที่ 1 ต.ค. นี้

http://www.thairath.com