Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 สมาธิบำบัด - การถูหรือการแต่งเซลล์ (เลเซอร์) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 27 ก.ย. 2006, 12:02 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

การถูหรือการแต่งเซลล์ (เลเซอร์)
โดย พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ


หลักการ

ความเจ็บปวด การอักเสบทีมีอาการหนัก หรืออยู่ลึกในข้อกระดูก เอ็น ต้องใช้ “พลังงาน” ทีมีความแหลมและคมจึงจะทำการรักษาได้รวดเร็ว ดังนั้น “พลังจิต” จึงต้องนำพลังงานที่จะมีลักษณะเป็นเส้นแสง หรือเปลี่ยนมวลพลังงานให้เป็นเส้นแสง และนำเข้าสู่ร่างกายเพื่อแต่งเซลล์ที่ถูกทำลายให้เป็นปกติ

พลังงานที่นำมาใช้เพื่อการถูหรือการแต่งเซลล์ (เลเซอร์) มีอยู่หลายชนิด ซึ่งจะเลือกใช้ให้เหมาะสมตามภาวะ การเปลี่ยนแปลงของชั้นบรรยากาศโลก ดังนั้นความรู้พื้นฐานของการถูหรือการแต่งเซลล์จะใช้พลังงานที่สำคัญอยู่ 2 ชนิด คือ เส้นแสงแสงกลางวันและเส้นแสงของสากลจักรวาล

เส้นแสงทั้ง 2 ชนิดนี้ ตลอดจนเส้นแสงอื่นๆ ซึ่งเป็นองค์ความรู้ของพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ สามารถนำมาแต่งเซลล์เพื่อรักษาและฟื้นฟูได้ทุกส่วนของร่างกาย แม้กระทั่งในส่วนที่เปราะบางที่สุด เช่น นัยน์ตา หรือสมอง และจะไม่ทำลายเซลล์ที่ดีอยู่แล้ว ฉะนั้นถ้าหากผู้ป่วยเป็นมะเร็งที่ปอด หรือตับ หรือมีอาการอักเสบโพรงจมูก ฯลฯ ผู้ฝึกไม่ต้องเครียดหรือกังวลว่าเส้นแสงที่นำเข้ามาถู-แต่งเซลล์ในส่วนที่บกพร่องเหล่านั้นจะพลาดไปถูกอวัยวะอื่นๆ และทำให้เป็นอันตราย ถ้าถู-แต่งเซลล์ที่ตับ ผู้ป่วยควรจะถู-แต่งเซลล์ให้ทั่วทั้งช่องท้อง หรือแต่งเซลล์ให้ทั่วทั้งปอดและหัวใจ หรือถู-แต่งเซลล์ให้ทั่วทั้งโพรงจมูก ตลอดจนเนื้อเยื่อในหูทั้งสองข้างและลำคอ


เส้นแสงแสงกลางวัน

แสงกลางวันเป็นพลังงานที่นำมาใช้ช่วยรักษาโรคได้ทุกโรคในครั้งนี้ ผู้ฝึก ผู้ป่วยสร้างจินตนาการเปลี่ยนมวลความสว่างของแสงกลางวันให้เป็นเส้นแสงที่มีความแหลมคมมีลักษณะเป็นเส้นตั้งขึ้นอยู่ในแนวดิ่ง


เส้นแสงของสากลจักรวาล

เส้นแสงชนิดนี้เกิดมาจาการอัดรวมตัวของธาตุศูนย์ในศูนย์กลางของกาแลคซี่ทางช้างเผือก ซึ่งเมื่อมีมากขึ้นๆ จะเกิดการระเบิดออกมาเป็นเส้นๆ ลอยเคว้งคว้างทั่วไปในสากลจักรวาล ซึ่งเส้นแสงเหล่านี้จะมีลักษณะที่เหมือนกับแสงกลางวัน คือมองไม่เห็นด้วยตา ไม่สามารถตรวจจับด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์ใดๆ ทั้งสิ้น สัมผัสได้ด้วยจินตนาการและความเชื่อว่ามีเส้นแสงนี้อยู่จริง ฉะนั้นถ้าผู้ฝึก ผู้ป่วยต้องการจะนำเส้นแสงชนิดนี้มาถู-แต่งเซลล์ ผู้ฝึก ผู้ป่วยต้องจินตนาการนึกแสงจากบรรยากาศรอบๆ ตัวเราให้มีลักษณะเป็นเส้นๆ ไม่ต้องมีสี หรือเห็นด้วยตาว่าเป็นเส้น เป็นเส้นแสงที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ


ลักษณะของเส้นแสง

1. เป็นแสงที่มีลักษณะเป็นเส้นตั้งในแนวดิ่งกับพื้นโลก ภาพประกอบของการนึกจินตนาการเป็นเส้นแสง ได้แก่ แสงฟ้าแลบ , น้ำฝักบัวที่ไหลมาเป็นสาย , เส้นลวด , แสงเลเซอร์ หรือเส้นฝอยๆ ของแปรงสีฟัน ฯลฯ

2. ลักษณะเป็นเส้นจะมีเพียงเส้นเดียว หรือจำนวนมากนับไม่ถ้วนขึ้นอยู่กับความสามารถในการจินตนาการ

3. ไม่ใช่แสงของดวงอาทิตย์


วิธีปฏิบัติ

1. ให้ผู้ฝึก ผู้ป่วย คลายอารมณ์เป็นความว่างสักระยะหนึ่ง สักเกตและจำให้ได้ว่าความรู้สึก (จิต) ถูกดูดไปอยู่ที่ส่วนใดของร่างกาย สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหนัก มีความเจ็บปวดมากให้ใช้ส่วนนั้นๆ ทีละส่วน เพื่อการทดลองแต่งเซลล์

2. ถ้าผู้ฝึก ผู้ป่วยจะใช้เส้นแสงแสงกลางวัน ให้ผู้ฝึกสร้างจินตนาการให้มวลความสว่างของแสงกลางวันมีลักษณะเป็นเส้นตรงตั้งขึ้นอยู่ในแนวดิ่ง จะนึกให้เป็นเส้นใหญ่หรือเส้นเล็กเพียงเส้นเดียว หรือนึกให้มีเส้นมากมายเป็นจำนวน 10 เส้น 100 เส้น หรือเป็นเส้นฝอยๆ นับจำนวนไม่ถ้วน

3. ถ้าผู้ฝึก ผู้ป่วยจะใช้เส้นแสงของสากลจักรวาล ให้ผู้ฝึกจินตนาการนึกเส้นแสงที่มีลักษณะเป็นเส้นตั้งลอยเคว้งคว้างอยู่ทั่วไปในบรรยากาศ หรือรอบๆ ตัวเรา นึกให้เส้นแสงเหล่านั้นมีจำนวนเส้นแสงมากหรือน้อย ตามความสามารถของพลังจิต

4. เมื่อผู้ฝึก ผู้ป่วย จินตนาการสร้างเส้นแสงได้ตามความต้องการแล้ว ให้ผู้ฝึก ผู้ป่วยนึกให้เส้นแสงเหล่านั้นไปปรากฏที่จุดเจ็บปวด หรือมีความบกพร่องภายในร่างกาย

5. ผู้ฝึกมีหน้าที่ทำให้เส้นแสงเหล่านั้นเกิดการเคลื่อนไหวเป็นการขยับขึ้นคือ การถูขึ้น โดยการนึกดึงเส้นแสงขึ้น จะทำให้ใบหน้า หรือศีรษะผงกขึ้นพร้อมๆ กับเส้นแสงถูกดึงขึ้นและเส้นแสงจะขยับลงหรือถูลง พร้อมๆ กับใบหน้าหรือศีรษะผงกลง (ก้มลง) ทำให้เส้นแสงถูกดึงลงมาด้วยเช่นกัน ฉะนั้นจังหวะของการถูขึ้น ดึงเส้นแสงขึ้น ใบหน้าหรือศีรษะจะเงยขึ้นและการถูลงดึงเส้นแสงลง ใบหน้าหรือศีรษะจะก้มลงมา

6. ตลอดระยะเวลาของการถูเพื่อแต่งเซลล์ให้เป็นปกติ ผู้ฝึกจะมีอาการเคลื่อนไหวของกาย คือการพยักใบหน้าขึ้น-ลง ๆ เป็นการให้จังหวะเพื่อช่วยให้เส้นแสงถูขึ้น-ถูลงได้คล่องขึ้น ถ้าผู้ฝึก ผู้ป่วยฝึกจนคล่องดีแล้ว อาการถูขึ้น-ถูลงจะเร็วเป็นปกติเท่ากับ 1 วินาที

7. อาการถูขึ้น-ถูลง เป็นการใช้ความรู้สึก (จิต) ทำงานไม่ใช่การสูดลมหายใจเข้า-ออก เพื่อทำให้เส้นแสงขยับขึ้น และลงเพราะการทำเช่นนั้นจะทำให้ผู้ฝึกรู้สึกเหนื่อยมาก และไม่เกิดประโยชน์

8. ถ้าผู้ฝึก ผู้ป่วย มีการอักเสบ หรือเจ็บปวดในหลายๆ ส่วน ให้ถูเพื่อแต่งเซลล์ทีละส่วนให้นานพอสมควร จะเกิดความร้อนและเจ็บปวดมากขึ้นกว่าเดิม อาการอักเสบ น้ำเหลือง เลือดเสีย รวมทั้งสารตกค้างจะถูกขับออกมาเป็นเสมหะ น้ำลาย ตลอดจนปัสสาวะ อุจจาระ


คุณประโยชน์

1. ใช้รักษาโรคได้ทุกชนิดเหมือนกับการใช้แสงกลางวัน มีข้อแตกต่างกันที่ลักษณะการทำงาน คือ แสงกลางวันทำงานรักษาร่างกายโดยการเผาหรือละลาย ส่วนเส้นแสงรักษาร่างกายโดยการถูขึ้นและถูลง

2. เส้นแสงไม่มีโทษ มีแต่ประโยชน์ ไม่ทำลายเซลล์ที่ดี เพราะเป็นการใช้พลังจิตรักษาร่างกายของตนเอง

3. สำหรับผู้ป่วยมะเร็ง เนื้องอกในสมอง หรือการอักเสบในทุกส่วนของร่างกายแม้ในส่วนที่เล็กที่สุด เช่น ในไขกระดูกการใช้เส้นแสงถูขึ้น ถูลง คือ การใช้พลังจิตทำการเลเซอร์ แต่งเซลล์ที่ผิดปกติเหล่านั้นให้เป็นปกติเร็วขึ้น


อุปสรรค

1. ผู้ฝึก ผู้ป่วยอาจจะดึงเส้นแสงไม่ได้ เพราะคลายอารมณ์ไม่หมด

2. สร้างจินตนาการ นึกแสงเป็นเส้นๆ ไม่เป็น

3. ไม่เชื่อในสิ่งที่ครู อาจารย์ นำมาสอน

Image

http://www.geocities.com/healthmeditation/healthmeditation/health.html
 

_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง