Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 เพิ่งรู้ว่าเรา "กลัวตาย" อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
711
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 16 ก.ย. 2006, 9:54 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เพิ่งรู้ว่าเรา "กลัวตาย"

เคยได้ยิน คนพูดบ่อยๆว่า "ผมไม่กลัวหรอกไอ้เรื่องความตาย, โถ่ คนเราเกิดมาก็ต้องตายกันทุกคนไม่ว่าช้าหรือเร็ว" แต่จะมีสักกี่คนที่เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความนัยของมัน และผมก็เช่นกัน
ผมเคยบอกกับตัวเองว่า ผมไม่กลัวตายหรอก ขอให้ได้ทำอะไร ที่เราอยากทำก่อนจะตาย ไม่ประพฤติผิดต่อใคร ทำหน้าที่ของบุตรที่มีต่อบิดามารดาอย่างดีทึ่สุดเท่าที่จะทำได้ ก็นับว่าไม่เสียชาติเกิด
ทุกๆวันผมจะปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน และหน้าที่การงาน เหมือนเคยเกือบทุกวัน คือวันนี้ต้องทำอะไร วันนั้นต้องทำอะไร ไม่ค่อยจะขาดตกบกพร่องเลย ดังนั้นบางครั้งมันก็ทำให้ผมรู้สึกเบื่อหน่ายที่จะทำอะไรที่ซ้ำๆ หรือบางครั้งก็ขี้เกียจ แต่ก็ต้องทำ ซึ่งบางอย่างมันเป็นหน้าที่ บางอย่างก็ต้องทำ บางอย่างทำเพราะติดที่ต้องทำ หรือกลัวถ้าไม่ทำแล้วจะมีผลกระทบ อย่างเช่น ถ้าไม่ออกกำลังกายแล้วจะ... ถ้าไม่สวดมนต์แล้วจะ... ก็ดุเหมือนจะราบรื่นดี ชีวิตไม่มีปัญหามากนัก ก็คิดในใจว่า ถ้าเผอิญพรุ่งนี้เกิดมีเหตุไม่คาดฝัน ทำให้ผมมีอันเป็นไป ก็ไม่กลัวหรอก เราก็ไม่ได้ประพฤติผิดต่อใคร ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว ถึงแม้จะยังไม่ได้ทำอะไรที่อยากจะทำก็ตาม
เมื่อไม่นานมานี้มีปากเสียงกับแม่นิดหน่อยเรื่องการงานที่บ้านคือมันต้องทำร่วมกัน เลยคิดจะแยกไปทำเอง แต่มาคิดดูเราก็กลัวไปไม่รอด คิดอีกทีถึงเราไปรอดก็กลัวแม่ทำเองไม่ได้ แล้วอีกงานที่บ้านอีกล่ะ ไม่มีใครทำ ไม่มีใครดูแลแม่ คือผมอยู่กับแม่2คนที่บ้านตอนนี้ พ่อและพี่น้อง ช่วยดูแลการงานอยู่อีกที่หนึ่ง ไม่ได้มีปัญหากัน พ่ออาทิตย์สองอาทิตย์กลับมาที น้องสาวคนเล็กเรียนอยู่มหาวิทยาลัย แต่อยู่หอ อาทิตย์หนึ่งกลับมาที เลยภาระรับผิดชอบส่วนมากที่บ้านนี้ค่อนข้าง จะอยู่ที่ผมซะส่วนใหญ่ จากเรื่องที่มีปากเสียงกับแม่นิดหน่อยนั้น ก็ทำให้ผมมานั่งคิดว่าทำมัยนะถึงเป็นอย่างนี้ ....
เมื่อไม่นานมานี้เช่นกัน คิดว่าทุกคนคงได้ยินได้ฟังข่าวจากสื่อต่างๆ ว่า มีหญิงสาวผู้หนึ่งมีเนื้องอกที่ใบหน้า เป็นภาพที่... หลายคนบอกว่า เป็นอย่างนี้ยอมตายซะดีกว่า ก็รวมถึงผมด้วย ฮึ เราคิดว่าเราไม่กลัวตาย ก็มานั่งคิดอีก
แล้วผมก็ไปมีเรื่องกระทบกระทั่งแบบมีปากเสียงกับคนๆหนึ่ง "เฮ้ย ตรงนั้นๆ ที่ของมึงฮะ วิ่งไม่เป็นที่" "คุณก็วิ่งของคุณไปซิครับ" หลังจากออกกำลังกายเรียบร้อยรู้สึกไม่สบายใจนิดๆ ทันใดนั้น...
เรื่องที่มีปากเสียงกับแม่ ข่าวที่ทำให้นึกสงสารจากหญิงคนนั้น และเรื่องต่างๆรู้สึกวิตก กังวล วิ่งเข้ามาในสมอง ก็เลยรู้เลยว่า "เรากลัวตาย"
ไอ้การที่เราวิตกเรื่องนั้น กังวลเรื่องนี้ กลัวนั่น กลัวนี่ ไม่อยากเป็นอย่างนั้น ไม่อยากเป็นอย่างนี้ ทั้งๆที่เราบอกว่าเป็นอย่างนี้ ขอตายซะดีกว่า นั้นแหละ เรากลัวตาย
ถ้าไม่กลัวตายจริงๆต้องไม่มีเงื่อนไข ในชีวิต ปล่อยใจอิสระ คือต้องไม่มีคำว่า ถ้าอย่างนั้น ถ้าอย่างนี้หรืออย่างที่พระท่านว่า ไม่ยึดมั่นถือมั่น นั่นแหละ คือไม่กลัวตาย ที่แท้จริง ตายเสียก่อนจะตาย นี่แท้จริง


กราบขอบพระคุณครับ สาธุ
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง