Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
สอบโควต้าทั้งที ต้องทำให้ดีที่สุด
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ผู้ตั้ง
ข้อความ
พระมหาสุรศักดิ์ สุรเมธี
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 11 ก.ย. 2006, 10:53 pm
สอบโควต้าทั้งที ต้องทำให้ดีที่สุด
โดย พระมหาสุรศักดิ์ สุรเมธี (ชะมารัมย์)
นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครราชสีมา
3 rd Year Student of Dhammakaya Open University, California, USA
..
ช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาของการเตรียมความพร้อมก่อนการสอบโควต้า เพื่อเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษากัน ตามสาขาวิชาหรือคณะที่เลือกเอาไว้ ซึ่งเป็นช่วงที่นักเรียนโดยเฉพาะนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 6 พากัน อ่านหนังสือ ทบทวนตำราเรียน หรือไม่ก็เข้าคอร์สติวพิเศษกันอย่างหน้าดำคร่ำเครียด เพื่อให้เกิดความมั่นใจ สามารถที่จะพิชิตข้อสอบเข้าเรียนต่อได้ ทั้งนี้วิธีการของแต่ละคนอาจมีไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆด้าน อาทิ
- ปัจจัยด้านการเงิน ปัจจัยด้านนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หากว่ามีเงินไม่พอ ก็ไม่สามารถเข้าเรียนพิเศษได้ เพราะค่าเล่าเรียนพิเศษนั้นสูงมากๆ ทั้งๆที่เรียนเพียงไม่กี่ชั่วโมง บางคนสู้ราคาไม่ได้ก็ไม่เรียน แต่บางคนที่พอสู้ราคาได้ก็ขวนขวายเข้าเรียนในที่สุด เพียงแค่ให้สอบเข้าได้เรียนในมหาวิทยาลัยเท่านั้นเอง ก็สามารถทำได้ทุกวิถีทาง
- ปัจจัยด้านครอบครัว บางครอบครัวก็ให้กำลังใจแก่ลูกหลานของตนเองในการเตรียมตัวสอบ แต่บางครอบครัวไม่เคยเอาใส่ใจหรือสนใจลูกหลานของตนเองเลย แถมซ้ำยังกล่าวต่อว่าลูกหลานของตนอีกต่างหาก เช่น กล่าวว่าเรียนไปทำไม? เรียนแล้วได้อะไร? เรียนไปก็เปลืองเงินไปเปล่าๆ ไม่เห็นได้อะไรเลย? ฯลฯ ครอบครัวเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าไม่รู้จักคุณค่าของการศึกษาของลูกหลาน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะทำให้ลูกหลานเสียกำลังใจไป อาจคิดสั้นก็ได้ ส่วนครอบครัวที่เห็นคุณค่าการศึกษาของลูกหลานก็จะคอยยืนอยู่ใกล้ชิดกับลูกหลาน คอยให้กำลัง คอยปลอบใจ ลูกหลานอยู่เสมอๆ ก็จะเป็นผลทำให้ลูกหลานมีกำลังใจสามารถสอบผ่านได้ในที่สุด
ฯลฯ
ปัจจัยข้างต้นนั้นจะเป็นทั้งสิ่งที่บั่นทอนความสามารถของเราและสิ่งที่เสริมความสามารถของเราในช่วงก่อนการสอบโควต้า หากเรารู้จักแยกแยะปัจจัยดังกล่าวนี้ว่าปัจจัยไหนบ้างที่เป็นตัวเสริมความสามารถ เช่น กำลังจากครอบครัว การได้เรียนพิเศษเพิ่มเติม เป็นต้น ก็ให้เก็บเอามาไว้ในใจ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ตนเอง ส่วนปัจจัยไหนที่เป็นตัวที่คอยบั่นทอนความสามารถของเราเช่น ไม่มีเงินเพียงพอที่จะเข้าเรียนพิเศษเหมือนเพื่อนๆ ครอบครัวไม่สนับสนุนการเรียน เป็นต้น ก็ให้ละทิ้งจากความคิดก่อน ให้เราคิดเพียงว่า เราต้องทำได้ เราต้องสอบให้ผ่าน ถึงแม้ว่าอุปสรรคดังกล่าวนี้จะหนักหนาสาหัสกับเราก็ตาม เมื่อเราสามารถแยกแยะปัจจัยเหล่านี้ได้ก็จะทำให้เราสามารถเข้าใจตนเอง เมื่อเราเข้าใจตนเองแล้วก็จะทำให้ปฏิบัติตน หรือเตรียมตัวได้อย่างถูกต้องก่อนการสอบในที่สุด
ในช่วงก่อนการสอบโควต้านี้ ซึ่งเป็นเวลาเตรียมตัวของพวกเราหลายๆคน ก็อยากจะฝากวิธีการเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อให้พวกเรามีความมั่นใจในการสอบโควตาที่จะมาถึงอันไม่ไกลมากนักจากนี้ วิธีการนี้ คือ
1. อ่านหนังสือให้มากๆ ในการอ่านหนังสือนั้นก็อยากจะแนะนำให้อ่านหลายๆรอบ ไม่ควรต่ำกว่าสองรอบ ค่อยๆอ่านอย่างช้าๆ กวาดสายตาทุกตัวอักษร พยายามอย่ากระโดดข้ามคำยาก ให้ค่อยๆทำความเข้าใจทีละบรรทัดไป เมื่ออ่านแต่ละเรื่องหรือแต่ละบทเสร็จก็อยากจะให้ลองปิดหนังสือ เสร็จแล้วก็ให้หลับตานึกถึงเรื่องราวนั้นๆ แล้วลองอธิบายให้ตนเองฟังดู หากว่าอธิบายแล้วตนเองเข้าใจก็แสดงว่า เราอ่านเรื่องนั้นๆเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะข้ามไปยังบทต่อไปก็อยากให้เราทำ Mind Mapping (แผนผังความคิดของแต่ละเรื่องที่อ่าน) สรุปให้ให้ได้ความที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือไม่ก็คัดเอาเฉพาะคำที่สำคัญๆ สร้างเป็น Mind Mapping ออกมา พอสร้างเสร็จก็ค่อยกระโดดข้ามไปอ่านเรื่องต่อไป ให้ทำเช่นนี้อยู่เรื่อยๆทุกครั้งที่อ่านหนังสือไป
2. ฝึกทำข้อสอบบ่อยๆ วิธีการนี้ก็มีความสำคัญไม่แพ้วิธีการแรก เพราะหากเรามัวแต่อ่านหนังสืออย่างเดียวแต่ไม่เคยฝึกทำข้อสอบเลย ก็จะทำให้เราไม่ต่างอะไรกับคนที่เรียนรู้แต่ทฤษฎีแต่ไม่เคยนำเอาทฤษฎีนั้นมาปฏิบัติเลย พอถึงเวลาปฏิบัติเข้าจริงๆก็จะทำให้เกิดความประหม่าหรือเกิดความไม่มั่นใจไป ฉะนั้นเราก็เช่นเดียวกันต้องมั่นฝึกตะลุยโจทย์ข้อสอบอยู่ตลอดเวลา ฝึกทำอยู่เรื่อยๆ เพื่อกำจัดความประหม่าหรือความไม่มั่นใจออกไป และอีกอย่างการฝึกทำข้อสอบบ่อยๆนั้น จะทำให้เราได้ทบทวนเนื้อหาวิชาที่เราอ่านอยู่ในตัวอีกด้วย แถมยังช่วยเพิ่มความเข้าใจมากขึ้นให้แก่เราอีกด้วย
3. เมื่อเกิดความสงสัยควรถามผู้รู้ ข้อนี้ก็สำคัญ เวลาที่เราอ่านหนังสือหรือ ฝึกทำข้อสอบแล้วเกิดข้อสงสัยขึ้น ให้เรารีบจดลงสมุดบันทึกของเรา แล้วให้รีบถามผู้รู้ทันที เพื่อจะได้ช่วยให้เราคลายข้อสงสัย จะได้เข้าใจ และจะได้ข้ามไปอ่านหรือทำข้อสอบในเรื่องตัวไปได้ อย่างไม่เสียเวลามาก
4. หาความรู้พิเศษเพิ่มเติมอยู่เป็นประจำ การหาความรูพิเศษมีหลายอย่าง เช่น การเข้าเรียนพิเศษ การข้อคำปรึกษาจากผู้รู้ การคันคว้าเอกสารตำราที่เกี่ยวข้องตามห้องสมุด การฟังบรรยายพิเศษ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่เราจะต้องทำ เพื่อให้ได้ความรู้ที่อยู่นอกเหนือจากหนังสือที่เราเรียน เพราะการออกข้อสอบบางครั้งก็จะถามเรื่องความรู้เสริมด้วยคือ ความรู้ที่ไม่ได้อยู่แต่ในเพียงตำราอย่างเดียว เพื่อฝึกให้ผู้เข้าสอบรู้จักคิดวิเคราะห์ หรือเข้าใจในเนื้อหาที่อยู่นอกตำราอีกด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เราจึงควรที่จะเสาะแสวงหาความรู้พิเศษที่อยู่นอกเหนือจากหนังสือเรียนของเราอยู่เป็นประจำ
5. ปรึกษาผู้มีประสบการณ์ในการสอบ ก่อนการสอบเราก็ควรปรึกษาผู้ที่มีประสบการณ์เคยสอบมาแล้ว เพื่อขอคำปรึกษาจากท่าน ลดภาวะการสุ่มเดาเอาโดยที่ไม่รู้ว่าตนเองต้องทำอย่างไรบ้างก่อนการสอบหรือเวลาสอบ ผู้มีประสบการณ์ก็จะช่วยเราในส่วนนี้ได้ จะเป็นผลทำให้เราได้เรียนรู้เทคนิคหลายๆอย่างจากเขาอีกด้วย
6. หมั่นรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เป็นปกติก่อนการสอบ ให้คอยระมัดระวังตัวในช่วงก่อนการสอบ หมั่นทำใจให้ร่าเริง หมั่นทำใจให้สบายอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าอาจจะเครียดหรือวิตกกังวลบ้างจากการอ่านหนังสือทบทวนเนื้อหา แต่ก็ไม่ควรทรมานร่างกาย ควรเดินออกกำลังกาย หรือหาสิ่งอื่นมาทำในช่วงที่พักจากการอ่านหนังสือ เพื่อผ่อนคลายความเครียด ความวิตกกังวล อันจะเป็นผลทำให้ร่างกายของเราแข็งแรง สดชื่น เบิกบาน ตื่นตัวอยู่เสมอ พร้อมที่จะตะลุยข้อสอบได้ตลอดเวลา
ฯลฯ
วิธีการข้างต้นนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งในหลายๆวิธีการที่ผู้รู้ได้นำเสนอเอาไว้ เพื่อเป็นแบบแผนปฏิบัติสำหรับพวกเราก่อนการสอบในแต่ละครั้ง ไม่ว่าการสอบนั้นจะเป็นการสอบวัดผล หรือวัดความรู้อะไรก็ตาม ก็จะมีลักษณะเช่นเดียวกันนี้ จะไม่แตกต่างกันมากนัก ก็อยากจะฝากให้ลองปฏิบัติตามดู เผื่อจะพอมีประโยชน์สำหรับพวกเราบ้างในการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการสอบโควตาอันจะมาถึงนี้ และการสอบนี้เป็นการสอบวัดผลเพื่อเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาก็อยากจะให้พวกเราทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ให้หมั่นฝึกฝนตนเองอยู่เป็นประจำ หมั่นปฏิบัติตามคำเสนอแนะข้างต้นให้ครบทุกข้อ เมื่อปฏิบัติตามครบทุกข้อแล้ว ก็คิดว่าข้อสอบโควตายังง่ายไปสำหรับพกเรา เพราะต่อให้ออกมาแนวไหนเราก็สามารถทำได้ เพราะว่าเราตื่นตัว ฝึกฝน เตรียมความพร้อมอยู่เป็นประจำนั่นเอง และในที่สุดก็จะทำให้เราได้ที่นั่งในสาขาวิชา คณะ มหาวิทยาลัยที่เราเลือกไว้นั้นได้อย่างภาคภูมิใจ....
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th