Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 พบอดีตพระสังฆราช โดย อ.กอบเกียรติ คุ่ยสมใจ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
TU
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 1589

ตอบตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2004, 11:06 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน







พบอดีตพระสังฆราช โดย อ.กอบเกียรติ คุ่ยสมใจ

เขียนขึ้นจากประสบการณ์ของ อ.กอบเกียรติ คุ่ยสมใจ

ขณะเป็นพระภิกษุสามเณรและเหตุการณ์ในปัจจุบัน

ซึ่งขณะนี้ได้ลาสิกขามานานนับสิบปีแล้ว






เรื่องนี้อันที่จริงคิดอยู่นานพอสมควรว่าควรจะเขียนดีไหม เพราะว่าเกี่ยวพันกับผู้ที่เป็นประธานสงฆ์ของประเทศไทยในอดีต อย่างน้อยเมื่อตอนท่านมีกายอยู่ในโลกมนุษย์นี้ท่านทำคุณไว้ไม่น้อย จึงตัดสินใจว่าจะนำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง โดยขอสงวนไม่เอ่ยนามท่าน เป็นอันรู้กันนะครับท่านทั้งหลาย



หลังจากได้ท่องไปในชมพูทวีปกับคุณกนกภรณ์ เป็นเวลากว่า ๕ เดือน ได้ไปกราบสังเวชนียสถาน มีที่ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ตามรอยพระบาทขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังความปลื้มปีติอย่างใหญ่หลวง ในการเดินทางไปด้วยตนเองนั้น ต้องขึ้นรถลงเรือแย่งชิงกับคนอินเดียซึ่งมีจำนวนมากเหลือเกิน มีทั้งยาจก วณิพก คนรวย คนจน ต่างแยกชั้นกันอย่างเห็นได้ชัด



ถ้าหากใครไม่ได้เคยสัมผัสคงไม่สามารถนึกภาพได้ว่า นรกบนดินนั้นเป็นอย่างไร เรื่องการท่องไปอย่างละเอียดไม่แน่อาจจะเล่าลงเป็นตอนๆ ในโอกาสต่อไป เผื่อมีผู้สนใจใคร่ลองเดินทางไป ซึ่งสามารถไปได้ถึง ๓ ประเทศ อินเดีย , เนปาล , ศรีลังกา ในระยะเวลา ๕ เดือน ทุกหัวเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ



เมื่อกลับมายังประเทศไทยก็เริ่มแสวงหางานทำตามอัตภาพ งานที่ทำเมื่อก่อนไปคือ ขายประกันชีวิตของบริษัทชั้นนำแห่งหนึ่ง แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับความเป็นอยู่ในขณะนั้นมากนัก ด้วยว่าลักษณะของนักขายที่ต้องเอาใจใส่ต่อลูกค้า และแวะเวียนไปหาบ่อยครั้งจึงจะต่อเนื่องจนลูกค้าทำได้ กับอุปนิสัยที่จะต้องทรงอารมณ์ภาวนาไว้ไม่ให้เสื่อมไปกว่านี้ ดูช่างขัดกันเสียนี่กระไร



อยู่มาวันหนึ่ง สังเกตดูท้องฟ้าสลัวอย่างไรบอกไม่ถูก ดูช่างอึมครึมแปลกพิกล เวลากลางวันเห็นอากาศดี จึงลงเดินจงกรมยังที่จงกรมที่จัดไว้ตามอัตภาพ วันนี้รู้สึกว่าการเดินจงกรมช่างลื่นดี คือรู้เห็นถึงการเหยียดคู้ของกายอย่างชัดเจน มองเห็นจิตที่คิดนึกได้เหมือนดูละครโรงใหญ่ที่ผลัดกันขึ้นแสดงแต่ละบทละฉาก ไม่ได้เคยซ้ำหน้ากันเลย เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงอยู่อย่างนี้นั่นเอง



ค่ำแล้ววันนี้อย่างไรพิกล ได้บอกคุณกนกภรณ์ว่า มีอะไรห้ามเรียกขานหรือมาสะกิด โดยปรกติได้แยกกันนอนอยู่แล้วและได้สั่งไว้ว่า ถ้านานแล้วไม่ตื่นห้ามมาโดนตัว เมื่อหลับตาลงยังคงกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกตามสบาย โดยทำสลับกับพิจารณากายในความเป็นธาตุสลับกัน และในความเป็นกระดูก ๓๐๐ ชิ้นที่มาประติดประต่อจนเป็นร่างนี้ ขณะเดียวกันยังคงวาดร่างกายในที่สูงขึ้นไปๆ จนความรู้สึกกายดับลง



มาปรากฏตัวว่าได้มายืนอยู่ที่ใดที่หนึ่ง เมื่อหันรีหันขวางอยู่ครู่หนึ่งนั้น พลันเหลือบเห็นวิหารแห่งหนึ่งคล้ายวิหารแบบไทยที่มีไว้ตั้งพระพุทธรูปหรือรูปหลวงปู่หลวงพ่อที่มรณะภาพแล้ว ภายในวัดเพื่อให้สาธุชนกราบไว้ พอนึกถึงหน้าวิหารนั้น กายทิพย์ได้เคลื่อนไปปรากฏอยู่ตรงหน้าวิหารนั้นทันที โดยรอบบริเวณดูสงบเงียบ ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน เมื่อมองโดยรอบไม่เห็นใคร จึงมองเข้าไปภายในวิหารเห็นสามเณรรูปหนึ่งหันหลังให้กำลังกุลีกุจอจัดเสนาสนะ โดยเฉพาะที่นั่งตรงกลางอย่างขมักเขม้น



เรายังคงยืนดูอยู่นั้น พลันสามเณรคงรู้สึกว่ามีใครมายืนดูอยู่หน้าวิหาร จึงหันมามองบ้างปรากฏว่าสามเณรท่านนั้นคือ อดีตพระสังฆราชที่มรณะภาพไปแล้ว ดูท่านหนุ่มขึ้นเมื่อท่านหันมาเห็นนั้น ดูเหมือนท่านเริ่มจะโมโหปนขวยอายหน่อยๆ จึงถามท่านไปว่า ไม่ทราบกำลังจัดอาสนะเพื่ออะไร และทำไมผมต้องมาดูด้วย ท่านตอบว่าจัดไว้ต้อนรับภิกษุที่เป็นอริยสงฆ์จากมนุษย์ ซึ่งกำลังจะมา



ทำไมท่านต้องมาจัดเองด้วย ท่านตอบว่าเมื่อครั้งเป็นมนุษย์นั้น ท่านไปในที่ใดมักมีคนสักการะมากมายจัดที่นั่งถวาย แต่ครั้นมาอยู่ที่นี่ท่านจะต้องทำหน้าที่คอยต้อนรับอาคันตุกะใหม่ที่กำลังจะมา เมื่อสนทนากับท่านเช่นนั้นแล้วจึงได้เวลากลับ มาตื่นขึ้นราวตีสี่เห็นจะได้ ยังสงสัยอยู่ว่าใครคือพระอริยสงฆ์เหล่านั้น ปรากฏว่าต่อมาเพียง ๒ วันเท่านั้นเอง หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี เป็นองค์แรก รองลงมาทั้งสิ้นรวม ๔ รูป มีภาคใต้ , ภาคอีสาน , ภาคตะวันตก มรณภาพตามกันภายในอาทิตย์นั้นนั่นเอง





ที่มา : http://www.geocities.com/gaytiplokvilyan/story1.htm









 

_________________
ศรัทธาในพระพุทธศาสนายิ่ง...ปรารถนาจะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวYahoo Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง