Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ขอถามหน่อยน่ะคะว่า วัดในจังหวัดนนทบุรีมีวัดไหนที่ติดแม่น้ำ?? อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
สุนทรี
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 18 พ.ค.2006, 6:04 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

วัดไหนที่ติดแม่น้ำบ้างคะ เอาฝั่งนนทบุรีไม่ต้องข้ามไปอ่ะค่ะ เช่นเส้นสนามบินน้ำ
วัดที่ เริ่มจะบูรณะอ่ะค่ะ จะไปทำบุญ
และเลี้ยงพระเอาบุฟเฟ่ต์ไปเลี้ยงพระเพล อ่ะค่ะ
ช่วยแนะนำด้วยน่ะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 19 พ.ค.2006, 8:46 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ไม่เห็นมีคนตอบเลย
 
นนท์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 19 พ.ค.2006, 9:04 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

วัดเขมาภิรตารามราชวรวิหาร

ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตตำบลสวนใหญ่ ห่างจากตัวเมืองมาทาง
ด้านใต้ประมาณ 2 กิโลเมตร ด้านหน้าของวัดติดริมฝั่งแม่น้ำ ส่วนด้านหลังติดต่อกับถนน
พิบูลสงคราม พื้นที่ทั้งวัด มีประมาณ 26 ไร่เศษ เป็นพระอารามหลวงชั้นโทชนิดราชวรวิหาร
เป็นวัดโบราณ

สันนิษฐานว่า สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาหรือก่อนหน้านั้นปรากฏว่าเคยเป็นวัดหลวง
มาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์เป็นวัดที่อยู่ในสังกัดบัญชีกฐินหลวง
ของกรมพระราชวังบวรฯ ถึงสมัยรัชกาลที่ 2 สมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ พระบรมราชินี
ทรงขอมาอยู่ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และทรงปฏิสังขรณ์ใหม่เรียกว่า วัดเขมา ยังไม่มีสร้อย
ต่อท้ายต่อมาสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ทรงปฏิสังขรณ์ใหม่ทั้งพระอาราม และพระราชทานสร้อยนาม
ต่อท้ายว่า "วัดเขมาภิรตาราม" ภายในวัดมีพระมหาเจดีย์ ตั้งอยู่ด้านหลังของโบสถ์ สูง 30 เมตร

ภายในบรรจุพระบรม-สารีริกธาตุ พระประธานเป็นพระพุทธรูปหล่อเก่าแก่ ศิลปสมัยอยุธยา
อัญเชิญมาจากพระราชวังจันทร์เกษม ภายในวัดมีพระตำหนักแดงและพระที่นั่งมณเฑียรตั้ง
อยู่ด้วย การเดินทาง สามารถเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 184 หรือรถโดยสารสองแถวสายเรวดี-วัดปากน้ำ
หรือทางเรือด่วนเจ้าพระยา โดยลงที่ท่าน้ำนนท์ แล้วต่อรถโดยสารประจำทางสาย 203
และสามารถโดยสารเรือข้ามฟากจากท่าน้ำ บางศรีเมือง ไปฝั่งท่าน้ำนนท์แล้วต่อด้วย
รถโดยสารประจำทางสาย 203

วัดสังฆทาน

สันนิษฐานว่าเดิมชื่อวัดศาริโข สร้างขึ้นในราวสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย มีหลวงพ่อโต
พระพุทธรูปปางมารวิชัยเป็นพระประธาน ต่อมาได้กลายเป็นวัดร้าง ชาวบ้านในละแวก
ใกล้เคียงและที่อื่น ๆ ยังคงมาเคารพสักการะบูชาองค์หลวงพ่อโตมิได้เสื่อมคลาย เพราะถือ
เป็นสิ่งศักดิ์ สิทธิ์สำคัญ ด้วยเหตุที่ เป็นวัดร้างไม่มีพระภิกษุจำพรรษา ชาวบ้านจึงต้องนิมนต์
พระจากละแวกใกล้เคียงมาเพื่อถวายสังฆทานจนถูกเรียกขานกันติดปากว่า "วัดสังฆทาน"


ซึ่งมีลักษณะแบบสำนักป่ามีธรรมชาติรอบข้างร่มรื่น เหมาะแก่ ผู้ประสงค์จะเจริญภาวนา
ที่มีเวลาจำกัดทางวัดได้จัดโครงการ"อบรมธรรมปฏิบัติ" ขึ้นเป็นกรณีพิเศษโดยไม่ต้อง
เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่วัดสังฆทาน อำเภอเมือง
จังหวัดนนทบุรี 11000 โทร. 424-6157, 433-0839

การเดินทางสามารถเดินทางโดยรถยนต์วิ่งไปตามถนนรัตนาธิเบศร์ข้ามสะพานพระนั่งเกล้า
แล้วตรงไปเลี้ยวแยกซ้ายมือ ประมาณ 12 กิโลเมตร และเช่าเรือโดยสารหรือจะนั่งเรือ
โดยสารประจำทางจากท่าน้ำนนท์ข้ามฟากไปท่าน้ำบางศรีเมือง แล้วนั่งรถสองแถวเข้าไป
ยังวัดสังฆทาน

วัดโชติการาม

ตั้งอยู่ที่ตำบลบางไผ่ เดิมชื่อวัดสามจีน สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 2350 สิ่งที่น่าสนใจภายใน
วัดนี้คือ พระอุโบสถ ฐานอ่อนโค้งทรงสำเภา ด้านหน้ามีภาไล ซุ้มประตูหน้าต่างเป็นลวดลาย
ปูนปั้นประดับเครื่องถ้วยลายคราม และเบญจรงค์ มีวิหารเป็นอาคารทรงโรงขนาด 3 ห้อง
ฝาผนังทั้ง 4 ด้าน มีจิตรกรรมตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ลายหน้าบัน ประตูเป็นไม้จำหลักรูป
เสี้ยวกางสวยงาม มาก ภาพหลังบานประตูเป็นภาพเขียนสีรูปแจกัน ดอกไม้บนพื้นแดง
เพดานเป็นลายดอกไม้ แทรกภาพสัตว์ปีก การเดินทางใช้เส้นทางเดียวกับทางไป
วัดสังฆทาน โดยมีป้ายชี้บอกตลอดทาง

วัดปราสาท

ตั้งอยู่ริมถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตำบลบางกร่าง เป็นวัดที่มีลายสลักหน้าบัน และซุ้มประตู
พระอุโบสถศิลปอยุธยา ฝีมือการก่อสร้างประณีตบรรจง ภายในโบสถ์มีพระประธาน
และพระสาวกอายุตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น ถึงตอนปลาย และมีธรรมมาสน์ที่สวยงามมาก
หลังหนึ่ง ซึ่งมีอายุพร้อมกับโบสถ์ตั้งอยู่บนศาลาการเปรียญ


นอกจากนั้นยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเขียนขึ้นในสมัย อยุธยาตอนปลายโดยมีฝีมือของ
สกุลช่างชั้นสูงนนทบุรี ซึ่งนับว่าเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เก่าแก่ที่สุดในขณะนี้ของจังหวัด
วัดปราสาทถือว่าเป็นวัดหนึ่งที่ดำเนิน การอนุรักษ์โบสถ์ และศิลปกรรมได้อย่างถูกวิธี
จึงทำให้เป็นแหล่งวิทยาการที่น่าสนใจยิ่งของทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ
การเดินทางสามารถเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางสายบางใหญ่-ท่าน้ำนนท์

วัดชมภูเวก

ตั้งอยู่ในเขตตำบลท่าทราย ริมถนนสายสนามบินน้ำ-นนทบุรี สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ. 2300
โดยชาวมอญ ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายเป็นผู้สร้าง ภายในวัดมีอาคารเสนาสนะต่าง ๆ
พระอุโบสถสวยงาม สร้างเมื่อ พ.ศ.2520 ลักษณะทรงไทยใต้ถุนสูง 2 ชั้น มีช่อฟ้าใบระกา
หางหงส์หลังคาลด 3 ชั้น หน้าบัน ซุ้มประตู หน้าต่าง ปิดทองปิดกระจก ฝาผนังภายในอุโบสถ
หลังเก่ามีภาพจิตรกรรมฝาผนังพุทธประวัติและทศชาติ

สำหรับปูชนียวัตถุมีพระประธานในอุโบสถสมัยสุโขทัย พระพุทธรูปยืน 2 องค์ นอกจากนี้
ภายในบริเวณวัดยังมีพระเจดีย์รามัญ เรียกว่า "พระมุเตา" สร้างโดยพระสงฆ์จากเมืองมอญ
เมื่อ พ.ศ.2460 สันนิษฐานว่า ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ การเดินทางสามารถเดินทาง
โดยรถโดยสารประจำทาง

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 184 หรือรถโดยสารประจำทาง
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 184 หรือรถสองแถวเล็กจากท่าสะพาน
พระนั่งเกล้า

วัดตำหนักใต้

ตั้งอยู่บนถนนสนามบินน้ำ หมู่ที่ 4 ตำบลท่าทราย เป็นวัดเก่าแก่สมัยโบราณ จากประวัติ
กล่าวไว้ว่า ก่อนที่จะ สร้างวัดในพื้นที่นี้เคยสร้างเป็นพลับพลาที่ประทับชั่วคราวของพระเจ้า
แผ่นดินในสมัยกรุงธนบุรีเป็นราชธานี และจากหลักฐานที่ยังคงเหลืออยู่ สันนิษฐานว่า
วิหารและหอระฆังสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2367 ในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 3 ฝาผนังภายในมีภาพจิตรกรรมเกี่ยวกับพระพุทธประวัติ ตามบานประตู
และหน้าต่างลงรักปิดทองเขียนด้วยลายไทยอย่างงดงาม

นอกจากนั้นยังมีพระประธานปางมารวิชัยสมัยสุโขทัยและพระพุทธรูปต่าง ๆ ประดิษฐาน
อยู่ภายในอุโบสถวิหารศาลาการเปรียญและกุฏิสงฆ์

วัดกู้

ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลบางพูด ห่างจากอำเภอปากเกร็ดไปทางด้านทิศเหนือ
ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นบริเวณที่เรือพระที่นั่งของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์
พระมเหสีในรัชกาลที่ 5 ได้ประสบอุบัติเหตุ เรือล่มสิ้นพระชนม์ วัดนี้สร้างในสมัยพระยาเจ่ง
อพยพครอบครัวมอญเข้ามาในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี

เป็นวัดที่สร้างด้วยศิลปแบบมอญ มีพระตำหนักสร้างเป็นอนุสรณ์สถานที่สมเด็จพระนางเจ้า
สุนันทากุมารีรัตน์สิ้นพระชนม์เพราะเรือล่ม แล้วอัญเชิญพระศพมาไว้ที่วัดนี้ชั่วคราว
มีพระพุทธไสยาสน์ที่เป็นพระนอน ขนาดใหญ่ ความยาว 21 วา 2 ศอก มีศาลพระนางเรือล่ม
(พระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์) ซึ่งจำลองแบบจากศาลาจตุรมุขของพระราชวังบางปะอิน
มีพระบรมรูปเท่าพระองค์จริงประทับยืน

นอกจากนั้นยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบมอญ เป็นภาพเขียนสีน้ำมันอยู่ด้านในของ
พระอุโบสถหลังเก่า ซึ่งเขียนเคียงคู่กับพระอุโบสถหลังใหม่ เป็นเรื่องราวพุทธประวัติ
และที่ด้านหลังของพระนอนองค์ใหญ่นี้ เป็นที่เก็บเรือพระที่นั่งของพระนางเจ้าสุนันทา
กุมารีรัตน์ที่อัปปาง ซึ่งชาวบ้านได้กู้เรือมาเก็บไว้ที่วัดกู้แห่งนี้

การเดินทางสามารถเดินทางโดยรถยนต์ จากท่าน้ำอำเภอปากเกร็ดเลี้ยวซ้ายซอยวัดกู้
มาตามถนนสุขาประชาสรรค์ ผ่านวัดบางพูดนอก สวนทิพย์ ห้องอาหารศรีไทยเดิม
รวมระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร จะเห็นวัดกู้อยู่ด้านซ้ายมือ และจะเช่าเรือจากท่าน้ำ
อำเภอปากเกร็ดแล่นมาทางเหนือใช้เวลาประมาณ 10 นาที จะเห็นท่าน้ำวัดกู้อยู่ทางขวามือ

วัดชลประทานรังสฤษดิ์

ตั้งอยู่ที่ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด ริมถนนสายนนทบุรี- ห้าแยกปากเกร็ด เป็นวัด
ใหม่ที่มีศิลปการสร้าง อย่างงดงาม ภายในวัดมีความกว้างขวางร่มรื่น ภายใต้หมู่ไม้
นานาพันธุ์ที่ปลูกไว้ทั่วบริเวณ จึงเป็นสถานเผยแพร่และเหมาะแก่การศึกษาพระธรรม
อย่างยิ่ง นอกจากนั้นยังมีลานไผ่เอนกประสงค์ ซึ่งชาวพุทธโดยทั่วไป จะมารวมกันเป็น
จำนวนมาก เพื่อประกอบ พิธีกรรมทางศาสนา และฟังธรรมจากพระเทพวิสุทธิเมธี
(ปัญญานันทภิกขุ) เจ้าอาวาส ในทุกวันอาทิตย์และวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

วัดปรมัยยิกาวาส

ตั้งอยู่ตำบลเกาะเกร็ด เยื้องท่าเรือสุขาภิบาลปากเกร็ดไปทางใต้ประมาณ 1 กิโลเมตร
และอยู่ตรงข้ามกับท่าเรือ วัดสนามเหนือเป็นพระอารามหลวงชั้นโทชนิดราชวรวิหาร
สร้างแบบรามัญ เดิมวัดนี้เป็นวัดเก่าชื่อวัดปากอ่าว ในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ
ให้ปฏิสังขรณ์ใหม่ทั้งวัดและโปรดให้สร้างพระเจดีย์รามัญ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
และพระราชทานนามวัดปรมัยยิกาวาส เนื่องจากศิลปการสร้างมีลักษณะแบบมอญ
พระเจดีย์ทุกองค์สร้างแบบมอญ และพระพุทธรูปพระประธานในโบสถ์สลักด้วยหินอ่อน
แบบมอญด้วย จึงเรียกกันว่า "วัดมอญ" ภายในวัดมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง
และบานประตูหน้าต่างโบสถ์ประดับลายปูนปั้นสวยงาม

วัดเสาธงทอง

ตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะเกร็ด เป็นวัดโบราณเดิมชื่อ วัดสวนหมาก ศิลปสมัยอยุธยา ที่มีเจดีย์
ย่อมุมสิบสองขนาดใหญ่อยู่หลังโบสถ์ เป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในเขตอำเภอปากเกร็ด
ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ มีเจดีย์องค์เล็กเป็นเจดีย์ บริวารโดยรอบอีก 2 ชั้น
ด้านข้างโบสถ์มีเจดีย์องค์ใหญ่อีก 2 องค์ องค์หนึ่งเป็นเจดีย์ทรงระฆังกลมอีกองค์หนึ่งมีรูป
แปลกมีฐานเหลี่ยม องค์ระฆังทำเป็นทรงกลมสูง ภายในโบสถ์มีลายเพดานสวยงามมาก
เป็นลายทองเขียนลาย กรวยเชิงอย่างงามพระประธานเป็นพระปางมารวิชัย ปูนปั้น
ขนาดใหญ่องค์หนึ่งในจังหวัดนนทบุรี คนมอญเรียก วัดนี้ว่า "เพ๊ยะอาล๊าต"

วัดฉิมพลี

ตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะเกร็ด มีโบสถ์ขนาดเล็กงดงามมาก และยังมีสภาพสมบูรณ์แบบเดิมเป็น
ส่วนใหญ่ หน้าบันจำหลักไม้เป็นรูปเทพทรงราชรถล้อมรอบด้วยลายดอกไม้ ซุ้มประตูยอด
มณฑป ซุ้มหน้าต่างแบบหน้านาง ยังคงให้เห็นความงามอยู่ ฐานโบสถ์โค้งแบบเรือสำเภา

วัดไผ่ล้อม

เป็นวัดที่สร้างสมัยอยุธยาตอนปลาย ตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะเกร็ด มีโบสถ์ที่งดงามมาก
ลายหน้าบันจำหลักไม้เป็นลายดอกไม้ มีคันทวยและบัวหัวเสาที่งดงามเช่นกัน หน้าโบสถ์
มีเจดีย์ ขนาดย่อมสององค์ รูปทรงแปลก ฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมสิบสอง แต่องค์ระฆังทำเป็น
รูปบาตรคว่ำ มียอดทรงกลม ประดับลายปูนปั้นอย่างสวยงามมาก คนมอญเรียกวัดนี้ว่า
"เพ๊ยะโต้"

วัดโพธิ์บางโอ

ตั้งอยู่ตำบลวัดชลอ อำเภอบางกรวย เป็นวัดโบราณสร้างขึ้นในสมัยรัชกาล ที่ 3
โดยกรมหลวงเสนีบริรักษ์ (ต้นสกุล เสนีวงศ์) พระโอรสในกรมพระราชวังหลัง บนฝาผนัง
ซึ่งอยู่ระหว่างหน้าต่าง 10 หน้าต่าง มีภาพเขียนสี ที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะเป็นภาพเขียน
เกี่ยวกับปริศนาธรรมฝีมืองานจิตรกรรมของสกุลช่างชั้นสูงนนทบุรี

นอกจากนี้ที่หน้าบันพระอุโบสถยังทำเป็นเครื่องไม้จำหลักลวดลายงดงาม และที่ประตูด้าน
นอกมีตุ๊กตาหินพวกเซีนและตัวละครตั้งอยู่จำนวนหนึ่ง

วัดอัมพวัน

วัดอัมพวัน เดิมชื่อ วัดบางม่วง เป็นวัดสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลายประมาณรัชกาล
พระเจ้าปราสาททอง ตั้งอยู่ริมคลองแม่น้ำอ้อม ตำบลบางม่วง สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้คือ
หอไตรกลาง-น้ำ เป็นสถาปัตยกรรมไทยที่สมบูรณ์ที่สุด เป็นเรือนไม้ตั้งอยู่ในสระน้ำ
ขนาดเล็ก ตัวหอเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างโล่งไม่มีพื้นและฝา ชั้นบนเป็นตัวหอขนาด 2 ห้อง
ช่วงล่างเป็นลูกฟักกระดานดุน

ตอนบนเป็นซี่ลูกกรงไม้กลึงเสากรอบประตูเป็นเสาหัวเม็ด ประตูหูข้าง เครื่องลำยอง
เป็นไม้จำหลัก หลังคาซ้อน 2 ชั้น มีปีกนก 1 ชั้น มุงกระเบื้องดินเผาใต้เชิงชาย
และหน้าบันประดับไม้สลักลายรดน้ำ ฝาผนังด้านนอกทาสีลูกฟักด้วยสีแดง ขอบขาว
ตัวไม้เครื่องบันอื่นๆ ทาสีขาว ตัดเหลี่ยมสีแดง เสาลงพื้นสีขาวเขียนลายแดง หน้าบาน
ประตูเข้าในหอไตรเป็นบานไม้ลงรักปิดทองลายพุ่มข้าว-บิณฑ์ และประจำยามก้านแย่ง
อกเลาเป็นไม้จำหลักลายดอกพุดตานลูกฟัก เหนือประตูเป็นภาพนกข้างละตัว
เหนือขึ้นไปเป็นภาพพระอาทิตย์ พระจันทร์ ในห้องสะกัดท้ายหอไตรเป็นที่เก็บพาน
ตะลุ่ม และ ฐานพระพุทธรูปไม้จำหลักเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ยังมีมณฑปพระพุทธบาท ภายในมีพระพุทธบาทจำลองทำด้วยโลหะประดิษฐาน
อยู่บนฐานปูน และศาลาท่าน้ำที่งดงามมาก การเดินทางเข้าถึงวัดอัมพวัน สามารถเดินทาง
ได้ทั้งทางน้ำและทางบก ดังนี้ ทางน้ำ โดยนั่งเรือโดยสารเป็นเรือหางยาว จากท่าเรือบริเวณ
หน้าที่ว่าการอำเภอบางใหญ่ ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ค่าโดยสาร คนละ 5 บาท ทางรถ
โดยใช้เส้นทางถนนวงแหวนรอบนอกบางบัวทอง-ตลิ่งชัน แยกซ้ายมือที่ตำบลบางม่วง

http://www.hotelsthailand.com/central/nonburi/temple.html
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง