Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 เล่าเรื่องเปรต อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
Iam
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 08 มี.ค.2006, 8:17 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทุกคนยังมีโอกาส ที่จะเตรียมภพชาติข้างหน้า ให้ดีงามเพียงใดก็ได้ แม้ทำเหตุให้เพียงพอกับผลที่ปรารถนา ซึ่งไม่ควรประมาทในเรื่องการเตรียมภพชาติข้างหน้าอย่างยิ่ง

เพราะแม้ประมาทไม่รอบคอบในการเตรียมภพชาติที่ตนจะต้องไปเกิดแน่นอน ไม่วันใดก็วันหนึ่งเมื่อวันนั้นมาถึงอาจจะต้องเสียใจอย่างสุดซึ่ง เพราะอาจจะตกอยู่ในสภาพของภพภูมิที่ร้ายกาจเกินกว่าจะรับได้ โดยไม่ทุกข์ทรมานและตระหนกตกใจขวัญหนีดีฝ่อ

เคยได้ฟังญาติโยมผู้หนึ่งเล่าว่า วันหนึ่งได้พบพระอาจารย์สำคัญองค์หนึ่ง ท่านชื่อหลวงพ่อเมือง อยู่วัดทางเหนือ ขณะนั้นญาติโยมหญิงชายสนทนาอยู่กับท่านหลายคน ท่านพูดกับญาติโยมผู้หญิงคนหนึ่งว่า มีเปรตตัวหนึ่งอยู่ใกล้ตัวเธอ กำลังร้องไห้คร่ำครวญด้วยความทุกข์หนักหนา

หลวงพ่อท่านอธิบายด้วยว่า เปรตตนนั้นเป็นผู้หญิง ติดตามญาติโยมผู้นั้นอยู่ วิ่งบ้างเดินบ้าง ไม่รู้หยุด ถ้าเปรตตนนั้นทุกข์มาก เร่าร้อนมาก ญาติโยมผู้นั้นก็จะได้รับความร้อนนั้นด้วย จะทำให้ใจเร่าร้อนด้วย

เมื่อทุกคนในที่นั้นแสดงความสงสัยว่า เปรตมีจริงหรือ และทำไมต้องมีเปรตมาคอยร้องไห้วิ่งตามญาติโยมผู้นั้นด้วย หลวงพ่อท่านก็อธิบายให้เหตุผลอย่างชัดเจนพอที่ทุกคนจะเข้าใจได้ ท่านบอกว่าเปรตนั้นเป็นผู้หญิง เขาบอกว่าได้ขอยืมเงินญาติโยมผู้นั้นไป ๑,๐๐๐ บาทถ้วนๆ และไม่ได้ใช่ จึงต้องมาเป็นเปรต

เมื่อหลวงพ่อบอกเช่นนี้ ญาติโยมผู้นั้นก็นึกได้ทันที เป็นจริงตามที่หลวงพ่อท่านบอก เมื่อหลายปีมาแล้ว ได้รู้จักกับสุภาพสตรีผู้จัดท่องเที่ยวทางภาคเหนือผู้หนึ่ง โดยได้ใช้บริการของเธอ ต่อมาวันหนึ่งเธอได้มาขอยืมเงิน ๑,๐๐๐ บาท โดยบอกว่ากำลังจะไปซื้อของ ลืมกระเป๋าเงินไว้ที่บ้าน ได้ให้ยืมไป แต่ไม่เคยนำเงินมาใช้คืน

จนเมื่ออีกหลายปีต่อมาได้ทราบข่าวทางหนังสือพิมพ์ ถึงการเสียชีวิตแล้วของเธอผู้นั้น ก็ตั้งใจอโหสิกรรมจริงๆ เมื่อสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน แต่ใจที่อโหสิคงไม่เก่งพอ และเธอผู้นั้นคงไม่ได้รับรู้ถึงความตั้งใจยกหนี้ให้เธอแล้ว จึงต้องมาเป็นเปรต เร่าร้อนด้วยแรงใจที่รู้ตัวอยู่ว่า เป็นหนี้แล้วไม่ได้ใช้ แต่เธอยังโชคดี ยังมีบุญที่ทำมาพอช่วยได้

หลวงพ่อเมืองท่านจึงได้พบเธอ และได้ช่วยทำพิธีอโหสิกรรมด้วยความเต็มใจยินยอมของเจ้าของเงิน เธอจึงพ้นแล้วจากภพภูมิที่น่าสลดสังเวชทนทุกข์ทรมานที่สุด...


: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
: มาฆบูชา ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙
 
pongsakorn28287
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 23 พ.ย. 2004
ตอบ: 42
ที่อยู่ (จังหวัด): จ.เชียงใหม่

ตอบตอบเมื่อ: 15 มี.ค.2006, 9:39 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ
 

_________________
ยัง กัมมัง กะริสสันติ ใครทำกรรมใดไว้
กัลละยานัง วา ปาปะกัง วา ดีหรือชั่วก็ตาม
ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ ย่อมได้รับผลของกรรมนั้นๆ ต่อไป
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง