Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
พุทโธ.. พุทโธ.. พุทโธ..
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 10 มี.ค.2006, 8:39 am
...การอัญเชิญพระพุทโธไว้ในหัวใจให้สม่ำเสมอเป็นมหามงคล วิธีทำได้ไม่ลำบากยากเย็น และมีผลประเสริฐเลิศล้ำแน่นอนที่สุด เปรียบการท่องพระพุทโธเหมือนการร้องให้มีผู้ช่วยขณะต้องเผชิญกับอันตรายยิ่งใหญ่ก็ได้ ก็ไม่ผิด
ความจริงก็เป็นเช่นนั้น เสียงพระพุทโธ พระพุทโธ ที่กึกก้องอยู่ในหัวใจจริง ไม่แตกต่างกับเสียงร้องช่วยด้วย ช่วยด้วย ของผู้กำลังหวาดกลัวภัยร้ายที่กำลังต้องเผชิญอยู่
ผู้ได้ยินเสียงร้องนั้นต้องเข้าช่วยสุดความสามารถ เพื่อให้พ้นจากอันตราย อันพระผู้ที่จะได้ยินเสียงพระพุทโธ พระพุทโธของพวกเรา ผู้กลัวอันตรายยิ่งใหญ่แห่งกรรม คือสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธะ
ใจที่หวังพึ่งพระมหากรุณาให้พ้นมือแห่งกรรมร้าย ด้วยเสียงของใจที่กึกก้องร้องร่ำเป็นคำพระพุทโธ พระพุทโธ เปรียบได้กับเสียงร้อง ช่วยด้วย ช่วยด้วย นั่นเอง
พระมหากรุณาของสมเด็จพระบรมศาสดามีหรือจะไม่เกิดเป็นผลแก่ผู้กำลังหวาดกลัวอันตรายยิ่งใหญ่หาใดเปรียบมิได้ อันเป็นอันตรายที่เกิดกรรม กรรมที่น่ากลัวที่สุด
สำหรับทุกชีวิต ไม่มีอะไรน่ากลัวเสมอด้วยกรรม เมื่อเสียงขอรับพระเมตตาช่วยให้พ้นภัยกรรมดังกึกก้องเมื่อไร ก็เมื่อนั้นจะทรงบรรเทาไฟร้ายแห่งกรรมโปรดประทาน เป็นการแผ่พระพุทธเมตตาที่มีความเย็นยิ่งเย็นใด ยังจิตใจที่กำลังร้อนเร่าสงบเย็นลงได้แน่นอน...
: แสงส่องใจ ๒๕๔๙
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ต้นหญ้า
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 10 มี.ค.2006, 9:18 am
ภาวนาว่าพุทโธ การภาวนาเป็นการนึกถึงคำพูด คำหนึ่งคือ พุทโธ ภาวนาพุทโธแล้ว ลมหายใจควรคู่กับพุทโธเป็นเหมาะที่สุด เพราะว่าเมื่อภาวนา พุท พร้อมลมหายใจเข้า โธ พร้อมลมออก โดยปกตินักภาวนาเมื่อจิตสงบลงไปบ้างแล้ว คำภาวนาจะหาย เมื่อคำภาวนาหายไปแล้วจิตจะไปยึดลมหายใจเป็นเครื่องรู้ จะได้ตามลมเข้าไปสู่ความสงบอย่างละเอียดนิ่ง จนถึงอัปปนาสมาธิ จะใช้ลมหายใจพร้อมกับนึกกำหนดอานาปานสติก็ได้ ลมปราณ คือ ลมหายใจ อานาปานสติก็คือลมหายใจเป็นอันเดียวกัน
ธรรมมะจากหลวงพ่อพุธ ฐานิโย ค่ะ
สาธุค่ะสำหรับข้อธรรมดีๆ ในทุกวันท่าน I am
สวัสดีในวันสุดท้ายของการทำงานในสัปดาห์นี้ค่ะทุกท่าน สวัสดีค่ะคุณบัวใต้ขอบคุณค่ะที่ชม
อิ อิ คิดเอาเองค่ะ แหม.......คนเราต้องมีการพัฒนาค่ะมนุษย์คือผู้ฝึกได้ไม่ใช่หรือค่ะ แอบอ่านมานานแล้วขอร่วมแสดงด้วยนะคะ คุณบัวใต้มีธรรมมะดีๆนำมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะค่ะ ต้นหญ้าความรู้ทางธรรมน้อย การฝึกปฎิบัติก็ไม่ถึงใหน ต้องอาศัยการอ่านการสอบถามท่านผู้รู้ใน เวปธรรมมะต่างๆค่ะ
บัวใต้
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 10 มี.ค.2006, 2:29 pm
504 อานาปานสติกับสติปัฏฐาน ๔
ปัญหา การเจริญอานาปานสติเกี่ยวข้องกับสติปัฏฐาน ๔ อย่างไร ?
พุทธดำรัสตอบ ดูก่อนอานนท์ สมัยใดภิกษุหายใจออกยาว รู้ชัดว่าหายใจออกยาว หรือเมื่อหายใจเข้ายาว รู้ชัดว่าหายใจเข้ายาว สมัยนั้นภิกษุชื่อว่าเห็นภายในกายอยู่ มีความเพียร มีสัปชัญญะ มีสติ พึงกำจัดอภิชฌาและโทมนัสเสียได้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเรากล่าวว่าลมหายใจเข้าออกนี้เป็นกายประเภทหนึ่ง
ดูก่อนอานนท์ สมัยใดภิกษุย่อมตั้งใจสำเหนียกว่าเราจักกำหนดรู้ปีติหายใจเข้า-ออก เราจักกำหนดรู้สุขหายใจเข้า-ออก สมัยนั้นภิกษุย่อมพิจารณาเห็นเวทนาในเวลาอยู่เพราะเหตุไร เพราะเรากล่าวว่า การใส่ใจด้วยดีในลมหายใจเข้า-ออกเป็นเวทนาอย่างหนึ่ง
ดูก่อนอานนท์ สมัยใดภิกษุย่อมสำเหนียกว่าเราจักกำหนดรู้จิตหายใจเข้า-ออก เราจักทำให้จิตบันเทิงหายใจเข้า-ออก เราจักตั้งจิตมั่นหายใจเข้า-ออก สมัยนั้นภิกษุย่อมพิจารณาเห็นจิตในจิต...ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? เพราะเรากล่าวว่า การเจริญอานาปานสติสมาธิ จะมีได้แก่ผู้มีสติหลงลืมและขาดสติสัมปชัญญะ
ดูก่อนอานนท์ สมัยใดภิกษุตั้งใจศึกษาว่าเราจักพิจารณาเห็นความไม่เที่ยงหายใจเข้า-ออก...เราจักพิจารณาเห็นวิราคธรรมหายใจเข้า-ออก...เราจักพิจารณาเห็นนิโรธหายใจเข้า-ออก...สมัยนั้น ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่....
กิมิลสูตร มหา. สํ. (๑๓๕๘-๑๓๖๑ )
ตบ. ๑๙ : ๔๐๙-๔๑๑ ตท. ๑๙ : ๓๗๔-๓๗๖
ตอ. K.S. ๕ : ๒๘๗-๒๘๘
จาก
http://www.84000.org/true/504.html
อนุโมทนาค่ะ คุณ i am และ คุณต้นหญ้า
ช่วยกันค่ะ ไม่มีใครรู้มากรู้น้อยหรอกค่ะ
I am
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 10 มี.ค.2006, 2:36 pm
สาธุครับ...คุณต้นหญ้า คุณบัวใต้
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th