ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
new
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532
|
ตอบเมื่อ:
04 ก.พ.2006, 3:19 am |
  |
คนบางคนไม่เคยกินเหล้าสูบบุหรี่ กลับเป็นมะเร็ง คนบางคนกินเหล้า สูบบุหรี่เป็นประจำ แต่ไม่เป็นอะไร อย่างดีเจโจ้ ที่เป็นมะเร็ง โดยที่เจ้าตัวบอกว่าไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ แต่กะอาผมกินเหล้าสูบบุหรี่ตลอด ทำไมมันถึงให้ผลต่างกัน นั่นเป็นเพราะกรรม(วิบากกรรม) ใช่ไหมครับ
อย่างบางคนไปเที่ยวมาแล้วติดโรคทางเพศสัมพันธ์ก็ล้วนแต่เป็นวิบากกรรมใช่ไหม บางคนเที่ยวมาตลอดแต่ไม่ยักกะติดโรค เฮ้ออออออออออออออออ |
|
|
|
  |
 |
กาจ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
04 ก.พ.2006, 10:37 am |
  |
นั่นสิน่ะ ผมก็สงสัยเหมือนกัน ผู้ที่เป็นผัวเมียกัน เกิดทะเลาะ เตะต่อยกัน ก็ว่าเป็นกรรม ฯลฯ อะไรๆก็กรรม
อยากรู้จักกรรมมันอะไร ช่วยกันอธิบายขยายคำว่า "กรรม" กันหน่อยครับ ได้ยินได้ฟังกันมานานแร้ว
ดังปัญหาของเจ้าของกระทู้นี้ เริ่มจะเคลีอบแคลงแล้ว |
|
|
|
|
 |
ความเห็น
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
04 ก.พ.2006, 10:42 am |
  |
ความเห็นส่วนตัว ว่าใช่เลยไม่ผิดครับ แม้นแต่ร่างของพระอริยะก็ยังเจ็บไข้ได้ป่วยเพราะกรรมเก่าได้เพียงแต่จิตท่านไม่รู้สึกหวั่นไหวต่อความทุกข์เท่านั้น หรือบางคนไม่เคยเล่นการพนันแต่วันหนึ่งเกิดต้องซื้อล๊อตเตอรี่เพียงเพราะต้องการช่วยเหลือคนพิการก็ยังมีสิทธิถูกรางวัลที่หนึ่งเพราะกรรมดีในอดีตก็ยังได้ แต่ประเด็นสำคัญเลยเชื่อว่า ศาสนาพุทธไม่ได้สอนให้คนมานั่งทำใจรอกรรมที่ตนจะต้องรับแล้วร้องเฮ้ออออออออ ไปเรื่อยครับ จะหนักจะเบาจะทุกข์จะสุขไม่เห็นคำสอนใดบอกให้ละเว้นหยุดปฏิบัติธรรมซักโอกาสเลย มีแต่คนส่วนใหญ่พอสุขจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการปฏิบัติธรรมพอทุกข์ถึงจะเริ่มต้นไขว่คว้าหาสิ่งที่จะมาปลดเปลื้องทุกข์ให้กับตนเอง หลายคนจึงเกิดความรู้สึกว่าทำไมหนอเราปฏิบัติแล้วยังเป็นทุกข์กับกรรมอยู่อีก ก็เพราะไม่เคยฝึกฝนจิตแต่เนิ่นเนิ่น สิ่งสำคัญคือคำสอนสุดท้ายของพระองค์ครับ อย่าประมาท ไม่ว่าเราจะอยู่สภาพใดหมั่นศึกษาปฏิบัติจิตตนให้มีกำลังอยู่เสมอ ธรรมมะในพุทธศาสนาไม่ได้มีไว้เพียงเพื่อจดจำเช่นหนังสือวิชาการครับแต่มีไว้เพื่อให้ผู้ศึกษานำไปปฏิบัติจนเห็นผลด้วยตนเอง หากไม่เห็นก็ต้องค้นคว้าใฝ่หาแนวทางต่อไป |
|
|
|
|
 |
copyma
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
04 ก.พ.2006, 11:11 am |
  |
|
|
 |
copyma
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
04 ก.พ.2006, 11:24 am |
  |
|
|
 |
บัวเบลอ
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 18 ต.ค. 2005
ตอบ: 86
|
ตอบเมื่อ:
04 ก.พ.2006, 1:15 pm |
  |
คนทั่วไปคิดเรื่องกรรมไป ไม่มีวันรู้กระมังคะ ท่านว่ามันเป็นอจินไตยอ่ะค่ะ
ทางที่ดีอย่าประมาท และเลือกในสิ่งที่ลดความเป็นไปได้เชิงสถิติ จะดีกว่าไหมคะ
อย่างเช่นเลิกสูบเพราะมันเสี่ยงเป็นมะเร็งปอด
ไม่เที่ยวผู้หญิงเพราะมันเสี่ยงเป็นเอดส์ อะไรอย่างงี้อ่ะ |
|
|
|
  |
 |
sanitdew
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 04 ก.พ. 2006
ตอบ: 11
|
ตอบเมื่อ:
04 ก.พ.2006, 7:30 pm |
  |
โรคในสมัยพุทธการ
แบ่งออกเป็น 3 ทาง
โรคที่รักษาหาย ไม่รักษาตาย
โรคที่ไม่รักษาหาย รักษาตาย
โรคที่รักษาหาย ไม่รักษาก็หาย
โรคกรรมเกิดเพราะเหตุ จึงทำให้ได้ผลอย่างนั้น เหตุดับ ผลก็ดับ โรคที่รักษาหาย แต่คนเราเองไม่ยอมรักษา
ปัจจุบัน มีโรครักษาตาย ไม่รักาหาย โรคเกิดเพราะยา เกิดเพราะหมอ โรคที่หนักที่สุด โรคอุปทานเอง เอย! |
|
_________________ วันนี้ไม่รุ้ เมื่อวานนี้ไม่รู้ พรุ่งนี้รู้ไปใย |
|
    |
 |
กำ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
13 ก.พ.2006, 9:44 am |
  |
โรคมาจากกรรมในอดีตก็มี
มาจากกรรมในปัจจุบันชาตินี้ก็มี
ต้องดูเป็นกรณีๆไป
เช่นโรคเอดส์นี้มาจากกรรมในปัจจุบันของตนคือกายกรรมที่ตนไปมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน เป็น |
|
|
|
|
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
13 ก.พ.2006, 9:50 am |
  |
กำ พิมพ์ว่า: |
โรคมาจากกรรมในอดีตก็มี
มาจากกรรมในปัจจุบันชาตินี้ก็มี
ต้องดูเป็นกรณีๆไป
เช่นโรคเอดส์นี้มาจากกรรมในปัจจุบันของตนคือกายกรรมที่ตนไปมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน เป็นต้น |
|
|
|
|
|
 |
|