Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ผิดศีลข้อ 3 อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ออย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 10 ก.พ.2006, 9:54 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถ้าเราคบอยู่กับคนที่มีครอบครัวแล้ว แต่เขาก็เป็นคนเจ้าชู้เขาไม่ได้หยุดที่ภรรยาของเขา หรือเราแต่เขาก็ยังมีคนอื่นอีก แต่เราคบเขาเหมือนเป็นแฟนกัน(แต่ไม่ได้มีอะไรกัน) เรารู้สึกไม่ดีทุกครั้งที่อยู่กับกลัวว่าจะทำผิดศีล ข้อ 3 แต่ตอนนี้เราไม่ไหวแล้วเราตัดสินใจเลิกกับเขาแล้วโดยไม่บอกและไม่พูดอะไร เพราะเรารู้ว่าเขากำลังไปคบผู้หญิงคนอื่นอีก เราคิดว่าเราไม่ควรที่คบกับคนแบบนี้อีกต่อไปไม่มีประโยชน์อะไร แล้วสิ่งที่เราทำกับเขาที่เคยคบกันมันจะเป็นบาปมั้ย แต่ตอนนี้เราตัดสินใจเลิกกับเขาแล้ว มันจะลบล้างสิ่งที่เราทำไม่ดีไว้ได้หรือไม่ สงสัย
 
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 10 ก.พ.2006, 11:20 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

นำมาให้อ่าน คิดว่าน่าจะเป็นอุทาหรณ์สอนและเตือนใจดีน่ะ
จากกระทู้ http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=176

...................................
ผมยอมรับอย่างไม่กระดากเลยว่า ผมเป็นคนเลว คนบาป ทำแต่กรรมชั่วมามากมาย ศีลทั้ง 5 ข้อ ไม่เคยอยู่ในจิตใจผมเลยแม้แต่ข้อเดียว



ผมจะไม่โยนความผิดหรือบาปนั้นไปให้กับเหตุการณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะทุกสิ่งที่ผมได้กระทำลงไปแล้วนั้น มันเป็นเพราะจิตที่ใฝ่ต่ำของผมเอง ทั้ง ๆ ที่ผมมีทางที่จะหลีกเลี่ยง ไม่ให้มันเกิดเหตุการณ์เหล่านั้นขึ้นมาก็ได้



ย้อนหลังไปเมื่อปี 2506 ตอนนั้นผมกำลังอยู่ในวัยเบญจเพศพอดี

ผมไปหากินอยู่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยอาศัยอยู่กับครอบครัวของคนบ้านเดียวกันซึ่งผมเรียกเขาว่าพี่ทั้งสามีและภรรยา ครอบครัวของเขาอยู่ด้วยกัน 3 คน คือ สามี ภรรยาและลูกชายอายุไม่ถึง 6 ขวบ



ภรรยาของเขาค้าขายในตลอดเก่า ส่วนสามีนั้นเป็นช่างและเป็นเจ้าของร้านถ่ายรูป ผมอยู่กับเขานานเข้า ความใกล้ชิดสนิทสนมถือกันเป็นญาติพี่น้องก็เป็นของธรรมดา



เหตุการณ์เกิดขึ้นในคืนหนึ่ง คืนนั้นพี่ผู้ชายไปธุระในจังหวัดและค้างคืน ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ ไม่เกิน 22.00 นาฬิกา ลูกชายก็หลับไปแล้ว เวลาดังกล่าวผมกำลังนอนอ่านหนังสือนิยายอยู่ จู่ ๆ ผมก็สะดุ้งสุดตัว เพราะพี่ผู้หญิงแกย่องมานั่งลงข้างเตียงนอนของผม เธออยู่ในชุดนอนที่บางมาก บางจนมองเห็นอะไรต่อมิอะไรทะลุปรุโปร่งไปหมด



มิหนำช้ำ เธอยังส่งยิ้มอันแสนจะยั่วยวนให้อีกด้วย เมื่อสายตาของผมกราดไปเห็นอะไรต่อมิอะไรเข้า ใจมันก็เกิดความปรารถนาขึ้นมา



ผมพยายามหักห้ามใจตนเองด้วยการพูกกับเธอว่า "พี่ลงมาทำไม กลับขึ้นไปนอนเสียไป๊ ใครมาเห็นเข้ามันจะไม่ดีไม่งาม"



แทนที่จะเธอจะพูดตอบและกลับขึ้นไปยังชั้นบนซึ่งเป็นห้องนอนของเธอ เธอกลับขยับเข้ามาชิดผมมากเข้าไปอีก ทำให้ส่วนท้ายของเธอเบียดกับขาผมพร้อมกับเลื่อนมือมาจับขาผมไว้



ผลที่สุด ผมก็ทนแก่ความต้องการไม่ไหว ก็ได้ล่วงละเมิดศีล ข้อ 3 ตั้งแต่บัดนั้นมา และเป็นมาอยู่เรื่อย ๆ



วันหนึ่ง เธอมาพูกกับผมว่าเธอจะขอแยกทางกับสามีของเธอแล้วจะอยู่กับผมอย่างออกหน้าออกตา ผมรีบปฏิเสธทันที และยังเตือนเธอว่าอย่าได้กระทำอย่างนั้น แค่นี้ผมก็ละอายแก่ใจเต็มทีแล้ว



แต่เธอก็ไม่ยอม ผมจึงหาโอกาสหนีจากเธอโดยที่เธอไม่รู้ว่าผมไปอยู่ที่ไหน



เวลาผ่านไปได้ไม่ถึง 2 เดือน เธอก็ตามมาพบผมที่ลำปาง เธอนัดให้ผมไปพบ เมื่อตกลงกันที่โรงแรมที่เธอพักอยู่ ความจริงตอนนี้ถ้าผมจะหลีกเลี่ยงหรือหลบหน้าเธอไปเสีย ก็คงจะสิ้นเรื่องราวกันไปแล้ว แต่ตัณหาครับ ความอยากเพราะความเคยได้ ทำให้ผมก้าวลงอเวจีไปอีกจนได้ กว่าจะสลัดจากเธอได้ก็กินเวลาหลายวันทีเดียว



ผมมาทราบทีหลังว่า เธอแยกกับสามีเธอจริง ๆ สามีเธอปวดร้าวมากเพราะเธอทิ้งลูกน้อยไว้ให้และไม่ทราบว่าไปอยู่แห่งหนตำบลใด สามีเธอได้รับความลำบาก ไม่เป็นอันทำมาหากิน จนเป็นบ้าไปพักหนึ่ง



พอผมหนีจากเธอได้ ผมก็รีบแต่งงานทันที ผมอยู่กับภรรยาจนมีลูก 1 คน ลูกกำลังไม่ถึงขวบ ผมก็บังเอิญพบกับหญิงสาวคนใหม่



ภรรยาใหม่ของผมอยู่ในฐานะค่อนข้างมีอันจะกิน อาชีพค้าขายและมีพี่สาวที่แต่งงานแล้วแต่ยังสวยไม่สร่างอยู่คนหนึ่ง เป็นเจ้าของร้านอาหาร



ผมกับภรรยามักจะมาช่วยพี่สาวขายกับข้าวอยู่เสมอ วันไหนผมไม่ว่างก็ให้ภรรยามาช่วย ผมกับพี่สาวอายุใล่ ๆ กัน ความใกล้ชิดสนิทสนมฉันญาติก็ทำให้ไม่ถือสาอะไร นานวันเข้า พี่สาวของภรรยากับผมก็ถลำลึกลงไปถึงอเวจีด้วยกันอีก



เหตุการณ์แห่งความชั่วช้าเป็นมาอย่างราบรื่น สนุกสนานตามความคิดของคนเลวxxx โดยที่ภรรยาของผมและสามีของพี่สาวไม่ระแคะระคายเลย จนกระทั่งผลของกรรม ตามมาทันเข้า



เย็นวันหนึ่งผมได้ไปนั่งดื่มเหล้ากับพรรคพวกที่ร้านอาหารอีกแห่งหนึ่ง พรรคพวกซึ่งแกคงทนไม่ได้ที่เห็นเพื่อนเป็นควายมานาน จึงได้เล่าพฤติการณ์ของภรรยาของผมให้ผมฟังว่า "เฮ้ย เมื่อกี้ข้าเห็นเมียเอ็งเข้าโรงแรมม่านรูดกับเจ้าตำรวจที่เคยมากินอาหารที่ร้านเอ็งบ่อย ๆ ด้วย"



พอผมทราบเท่านั้นแหละ ผมโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลยทีเดียว ผมขับรถกลับบ้านด้วยความเร็วมาก เพราะความโมโห แต่แล้ว "โครม" รถผมเสยท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ ที่กำลังจะชิดซ้ายจอดข้างทางอย่างจัง แถบซ้ายทั้งแถบของรถผมพังยับเยิน ส่วนรถบรรทุกไม่เสียหายอะไร จึงไม่มีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล



จิตใจของผมตอนนั้นไพล่ไปคิดว่าเป็นเพราะเมียมีชู้จึงทำให้ซวย โดยไม่คิดถึง กรรม ที่ตนเองได้กระทำมาแม้แต่น้อย



ผมกลับถึงบ้านก็พอดีกับที่ภรรยาผมลงจากรถนายตำรวจที่เพื่อนพูดถึงพอดี ผมปวดร้าวมาก ปวดหัวใจเหลือที่จะกล่าว



ผมเพิ่งจะทราบว่าพิษของการถูกแย่งของที่ตนรักนั้นเป็นอย่างไร ผมแยกทางกับภรรยาและเริ่มเอาเหล้าเป็นที่พึ่ง สำมะเลเทเมาจนเกือบจะเสียผู้เสียคน



ดีแต่ว่าหัวหน้างานท่านคงจะสังเวชหรือทุเรศก็ไม่ทราบ ท่านจึงพาออกท้องที่เสียนาน และพาไปเกลี้ยกล่อมจนสงบสติอารมณ์ลงได้บ้าง ความรัก ความแค้น จึงจางลง



ทว่ามันก็ไม่ได้ลบรอยขาดหายไป มันยังเป็นรอยขีดข่วนอยู่อย่างนั้น



บัดนี้ ผมปลงตกแล้ว เพราะผมได้พบกับทางสงบ ทางสว่างอันแท้จริง



นี่แหละ กรรมใดใครก่อไว้อย่างไร ย่อมได้รับผลกรรมนั้นไม่ช้าก็เร็ว





................................................

จากหนังสือเงากรรม (โลกทิพย์)


http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=176

ตกใจ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
บัวเบลอ
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 18 ต.ค. 2005
ตอบ: 86

ตอบตอบเมื่อ: 10 ก.พ.2006, 2:38 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ กับความตั้งใจดีของคุณออยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

โดยส่วนตัวแล้ว บัวเบลอคิดว่าถ้าเราทำความดีมากๆทำแต้มสะสมคะแนนความดี
ไปเรื่อยๆ ไม่ท้อไม่ถอยไม่เลิกไม่หยุด ผลของกรรมไม่ดีมันคงไล่ไม่ทันกรรมดีนะ

แต่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสรุปเข้าข้างตัวตามประสาคนกิเลสหนาปัญญาทึบไปหรือเปล่า

อย่างไงคุณออยลองอ่าน พระธรรมเทศนาของสมเด็จญาณฯ สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน
ที่คัดลอกบางส่วนมาเล็กน้อยดูนะคะ

สำหรับหนังสือต้นฉบับ คุณลูกโป่งได้กรุณาโพสเต็มๆตามนี้ค่ะ

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=2821

คิดว่าคงพอเป็นกำลังใจ ให้ตั้งอยู่ในการละชั่วทำดีนะคะ
.....................................................................................

ธรรมจักร ธรรมจักร ธรรมจักร


ทุกคนกำลังมีผลของกรรมดีและกรรมไม่ดีติดตามมา เป็นผลของเหตุที่ได้ทำกันไว้ในอดีตชาติที่สลับซับซ้อนนับไม่ได้ ลองนึกถึงภาพของรถบรรทุกขนาดใหญ่กำลังแล่นไล่ทับเราอยู่ ขณะเดียวกันก็มีรถบรรทุกแก้วแหวนเงินทองคันใหญ่กำลังแล่นตามเพื่อจะยกแก้วแหวนเงินทองเหล่านั้นให้เราด้วย รถทั้งสองคันนั้นกำลังขับแซงกันอย่างรวดเร็ว ผลัดกันนำผลัดกันตาม นึกภาพนี้ แล้วก็นึกถึงตนเอง ว่ายังมีใจที่จะต้องการแก้วแหวนเงินทองหรือ ยังมีใจอยากได้อะไรอีกหรือ ในเมื่อรถล่าชีวิตกำลังขับตะบึงติดตามมาอย่างมุ่งมาดปรารถนาตัวเราเป็นเป้าหมาย

กรรมไม่ดีกำลังตามส่งผลแก่เราทุกคนแน่นอน เปรียบผลไม่ดีนั้นดังรถบรรทุกที่กำลังตะบึงไล่กวดเราอยู่จริง ๆ ที่ยังไม่บดขยี้เราก็เพราะกรรมปัจจุบันของเราที่เรากำลังกระทำกันอยู่ อาจจะมีแรงพาเราหนีไปได้ทัน จะอย่างหวุดหวิดน่าเสียวไส้เพียงไรเราผู้ไม่มีตาพิเศษก็หารู้ไม่ กรรมดีเท่านั้นที่เป็นแรงพาเราวิ่งหนีกรรมไม่ดีที่กำลังส่งผลติดตามเราอยู่ในขณะนี้

เปรียบกรรมไม่ดีดั่งมือมารที่ใหญ่โตมโหฬารทรงพลังมากมาย มือนั้นกำลังเอื้อมมาจะตะปบเราเพื่อลากเข้าไปขยี้ให้แหลกเหลว หวุดหวิดจะจับปลายผมเราได้ไม่รู้กี่ครั้งกี่หน แต่เราก็ยังพ้นอยู่ได้เพราะความบังเอิญ คือ เพราะบังเอิญได้ทำกรรมดีไว้มากพอเป็นกำลังพาให้หลบหลีกพ้นมือมารไปได้ มีความสวัสดีอยู่ชั่วครั้งชั่วคราว แต่ใช่ว่ามือมารนั้นจะหยุดตามตะครุบเราก็หาไม่ กี่วันกี่เดือนกี่ปีกี่ภพกี่ชาติ มือมารจะติดตามตะครุบเราอย่างไม่ท้อแท้เหน็ดเหนื่อย คว้าผิดคว้าถูกก็จะตามคว้าไม่ลดละ ถ้าปรากฏเป็นภาพก็จะเป็นภาพที่น่ากลัวที่สุด
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เกิด
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 13 ก.พ.2006, 9:36 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
นี่คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้

สมุทัยหรือตัณหา มี 3 คือ (กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา) คิดยินดีในภาวะอย่างนั้น ก็เป็นทุกข์
นึกคิดติดอยู่ในภาวะที่ตนเคยชินก็เป็นทุกข์

ไม่อยากไม่ต้องการภาวะอย่างนั้นอยากจะพ้นไปก็ทุกข์

มนุษย์คิดอยู่กับเหตุแห่งทุกข์ คือสมุทัย ตลอดเวลาทุกลมหายใจเข้าออก
แต่ก็มองไม่เห็น หรือ มองข้ามไปเพราะอัตตา ฯลฯ

พระพุทธเจ้าจึงรำพึงว่า ธรรมะ หรือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ที่ท่านรู้นี่ลึกซึ้งเกินปัญญาของคน
 
neoman
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 26 ก.พ. 2006
ตอบ: 64

ตอบตอบเมื่อ: 26 ก.พ.2006, 9:55 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ... ไม่บาปแล้ว รอดปากเหยี่ยวปากกามาได้อย่างหวุดหวิด

ผู้ชายโสดๆ และนิสัยดีๆ ยังมีอีกเยอะครับ ... ไปเอาทำไมคนมีเมียแล้ว เจ้าชู้อีกต่างหาก นรกจะถามหานะครับ

คุณตัดสินใจถูกแล้ว ดีแล้วที่เลิกกับเขา และอย่าไปคบกับเขาอีกเด็ดขาด (ถ้าเขามาตื๊อก็บอกว่ารอชาติหน้าก็แล้วกัน) เหอะๆ
อดีตที่ผ่านมา คุณก็บาปนิดหน่อย แต่ก็ไม่บาปอะไรมาก เพราะยังไม่มีอะไรกัน
แต่ตอนนี้เลิกกันแล้วก็พ้นจากบาปนั้นมาแล้ว ทำใจให้สบาย หาคนดีๆ ดีกว่าครับ

แต่ถ้าหาคนดีไม่เจอ อยู่เป็นโสดแบบผมดีกว่าครับ เชื่อผมเหอะ ยิ้ม
 

_________________
ความสุขหรือความทุกข์ อยู่ใจเราจะคิดเอา ถ้าคิดว่าสุขก็สุข ถ้าคิดว่าทุกข์ก็ทุกข์.
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
รณจักร
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 28 ก.พ.2006, 2:36 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เรียนคุณออยน่ะครับ ในความเห็นของผมสิ่งที่คุณได้กระทำมาเป็นบาปผิดศีลข้อ 3 แน่นอนครับ(ไม่จำเป็นต้องมีอะไรกัน) แต่ผมยินดีกับคุณน่ะที่คุณคิดได้ และถอยออกมาจากนรก(ในขณะมีชีวิตอยู่) ประเสริฐมากครับที่คุณถอยมาได้แต่กรรมดีกรรมชั่วแยกกันไม่มีใครจะหลีกหนีพ้นจากกรรมเวรได้แม้แต่พระอรหันต์(ผมเคยอ่านหนังสือน่ะครับแต่จำไม่ได้ว่าหนังสืออะไร จำไม่ได้ด้วยว่าพระอรหันต์ท่านดังกล่าวชื่อว่าอะไร แต่ท่านก็ยินดีที่จะยอมรับกรรมเวรที่ท่านได้ทำไว้) หากท่านผู้ใดมีความรู้ในเรื่องของพุทธประวัติเป็นอย่างดีได้โปรด นำมาไห้อ่านกันน่ะครับ จะได้เป็นวิทยาทาน
ผมขออวยพรให้คุณได้มีโอกาสทำความดีให้มากๆน่ะครับ และได้พบเจอผู้ชายที่ดีด้วยครับ ที่รักคุณน่ะครับ
 
neoman
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 26 ก.พ. 2006
ตอบ: 64

ตอบตอบเมื่อ: 02 มี.ค.2006, 10:13 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ยังไม่ผิดศีลข้อ 3 ครับ...

เพราะการผิดศีล หมายถึง อวัยวะเพศจดถึงกัน ครับ.. (ไปอ่านดูได้ในหนังสือธรรมศึกษา วิชาปัญจศีล ปัญจธรรม)

ขำ
 

_________________
ความสุขหรือความทุกข์ อยู่ใจเราจะคิดเอา ถ้าคิดว่าสุขก็สุข ถ้าคิดว่าทุกข์ก็ทุกข์.
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง