Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 มีความเห็นอย่างไร ? อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ผ่านพบมา
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 20 ม.ค. 2006, 8:38 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ิิเจริญพร

การฝึกอบรมครั้งนี้ จะเน้นทั้งการบรรยายและการปฏิบัติ โดยในช่วงเช้าจะเน้นความรู้ความเข้าใจในการเจริญสติ และการพัฒนาสติเพื่อให้เกิดความรู้สึกตัวทั่วพร้อมและสำนึกรู้ จึงเหมาะสำหรับนักปฏิบัติหลายๆ ท่านทั้งที่เพิ่งเริ่มฝึกและฝึกมานานแล้ว แต่ไม่ก้าวหน้า อันมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสภาวะธรรมในขณะนั่งภาวนา ว่าอะไรเป็นอะไร จึงไม่รู้แนวทางในการพัฒนาสติในขณะภาวนา ซึ่งเป็นปัญหาของหลายๆ ท่าน ที่มุ่งเน้นการเจริญสมถะหรือการทำสมาธิ โดยไม่รู้วิธีว่าจะเจริญสติและสมาธิให้ควบคู่กันไปได้อย่างไร รวมทั้งผู้ที่เจริญวิปัสสนากรรมฐาน แต่ก็ไม่สามารถแยกได้ออกว่า อย่างไรเป็นวิปัสสนา และอย่างไรเป็นสมถะ ทั้งนี้ เพราะไม่เข้าใจว่าอะไรเป็นตัวภาวนา มัวแต่เนิ่นช้ากับการยึดลมหายใจบ้าง พอง-ยุบบ้าง คำภาวนาบ้าง โดยไม่เฉลียวใจว่า นั่นเป็นเพียงเครื่องมือให้จิตมีที่เกาะอาศัย และผู้ปฏิบัติจะได้สามารถพัฒนาสติในขณะภาวนา ให้มีพละกำลัง และ มีความละเอียดยิ่งๆ ขึ้นไป จึงเป็นเหตุให้สติของนักปฏิบัติหลายๆ ท่าน ไม่พัฒนา และในที่สุดก็ตกภวังค์กัน ทั้งรู้ตัวว่าตกบ้างและไม่รู้ตัวว่าตกภวังค์บ้าง การฝึกอบรมต่อเนื่องทั้งวันจึงเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ปฏิบัติจะได้ทบทวนการปฏิบัติของตนว่าได้เดินทางเข้าสู่มรรคได้อย่างถูกต้อง เพราะการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องสลับกับการฟังบรรยาย ผู้ปฏิบัติจะได้มีความรู้และมีสัมมาทิฏฐิที่ถูกต้องในการปฏิบัติ ไม่ใช่หลับหูหลับตากันฝึกอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ และในที่สุดก็ตกภวังค์กันเสียส่วนใหญ่โดยไม่รู้ตัว

อนึ่ง สำหรับผู้ที่เคยฝึกกับอาตมาแล้วครั้งสองครั้ง หรือขาดความต่อเนื่อง ก็ควรจะมาร่วมฝึกปฏิบัติทั้งวันในครั้งนี้ด้วย เพราะในการอบรมครั้งนี้ นอกจากจะเน้นเรื่องปัญญา หรือสัมมาทิฏฐิในการปฏิบัติที่ถูกต้องแล้ว หลวงพ่อจะให้อุบายในการนั่งสมาธิให้สามารถนั่งได้นาน โดยไม่ได้ไปทนนั่ง และรวมทั้งให้อุบายในการเข้าสมาธิได้เร็วด้วย และในช่วงตอนท้ายของการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อก็จะแนะนำพร้อมกับให้อุบายในการปรับการฝึกภาวนานี้ให้กลมกลืนกับชีวิตประจำวัน

ผู้ที่กำลังตัดสินใจดูว่า ตนเองควรจะมาร่วมฝึกปฏิบัติครั้งนี้หรือไม่ ให้ท่านพิจารณาตนเองดูว่า ตนเข้าใจและสามารถสัมผัสสำนึกรู้ได้หรือยัง ? หรือแม้จะเกิดสำนึกรู้แล้ว แต่สำนึกรู้ที่เกิดนั้นยังไม่ต่อเนื่อง และเป็นไปเองโดยธรรมชาติ ก็ควรจะมาเข้ารับการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องทั้งวันในครั้งนี้ด้วย ส่วนผู้ที่มาเข้าฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องกับหลวงพ่อจนเข้าใจและสามารถสัมผัสสภาวะต่างๆ ตามที่หลวงพ่อได้ให้คำแนะนำไปแล้วนั้น ก็อาจจะมาฝึกอบรมในรอบบ่ายได้เลย แต่ถ้าหากอยากจะทบทวนความรู้ความเข้าใจต่างๆ ก็อาจจะมาร่วมฝึกทั้งวันพร้อมๆกับคนใหม่ได้ด้วย เพราะการมาฝึกกันเป็นหมู่คณะ ย่อมจะเกิดผลดีกับทุกๆ คน เพราะต่างก็จะช่วยเสริมซึ่งกันและกัน แต่การที่เราจะพิจารณาว่าเราฝึกได้ไปไกลมากน้อยแค่ไหนนั้น ให้ลองพิจารณาคำสอนของปรมาจารย์จีนที่ว่า เมื่อฝึกวิทยายุทธชั้นสูงจนเจนจบและมีความชำนาญนั้น เมื่อสูงสุดก็ต้องรู้จักการปรับหรือกลับคืนสู่สามัญ หรืออีกนัยหนึ่ง ไม่ยึดติดรูปแบบ และเจริญสมาธิและวิปัสสนาได้ทุกๆ สถานการณ์ กลมกลืนกับชีวิตประจำวันจริงๆ สบายๆ เป็นธรรมชาติ ที่เรียกว่ากลับคืนสู่สามัญนั่นเอง


วิโมกข์
 
คนไทย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 ม.ค. 2006, 8:13 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ฝึกที่วัดใหนคะหลวงพ่อ
 
nan
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 ม.ค. 2006, 11:51 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การปฏิบัติคล้ายวัดพิศโสมาราม อุบลเลย ใช่หรือเปล่าคะ
 
Noname
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 23 ม.ค. 2006, 9:27 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

http://www.vimokkhadhamma.com



 
อิๆ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 24 ม.ค. 2006, 6:52 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ท่านกล่าวอย่างนี้ การมีภวังค์จิตก็เป็นสิ่งที่ผิดน่ะซี มีตอนไหนบ้างที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าไม่ควรให้มีภวังค์จิต
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง