ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
new
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532
|
ตอบเมื่อ:
08 ธ.ค.2005, 7:51 pm |
  |
วันนี้มีคำถาม มาถามเพื่อนๆ สมาชิกครับ
มีคนทำผิด สองคน ได้ไปฆ่า คนตาย คนนึง รู้ว่า ฆ่าคน เป็นบาป อีกคน ไม่รู้ว่าฆ่าคนเป็นบาป
ถามว่า คนสองคนนี้ เมื่อฆ่าคนแล้ว ใครบาปกว่ากัน  |
|
|
|
  |
 |
new
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532
|
ตอบเมื่อ:
08 ธ.ค.2005, 7:54 pm |
  |
และทำไมคนที่บาปมากกว่า จึงบาปมากกว่า มีเหตุผลอะไร  |
|
|
|
  |
 |
บัวเบลอ
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 18 ต.ค. 2005
ตอบ: 86
|
ตอบเมื่อ:
08 ธ.ค.2005, 8:00 pm |
  |
บาปที่ถามหา ชั่งด้วยอะไร
|
|
|
|
  |
 |
tanawat30
บัวบาน

เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256
|
ตอบเมื่อ:
08 ธ.ค.2005, 8:00 pm |
  |
ดูก่อนคุณ new ผู้เจริญ กรรมมีเหตุจากความเจตนา ดังนั้นผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด แต่ผู้รู้ที่จะผิดมาก หรือผิดน้อยขึ้นอยู่กับเจตนา เช่นคนฆ่าคนเป็นหารเพื่อความอยู่นอด จะบาปน้อยกว่าคนฆ่าคนเพื่อเป็นการแข่งขันทางกีฬา และคนจะบาปมากที่สุดเมื่อฆ่าผู้อื่นด้วยความอาฆาตมาตรร้าย |
|
|
|
    |
 |
new
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532
|
ตอบเมื่อ:
08 ธ.ค.2005, 8:05 pm |
  |
ใช่ครับ เจตนา เป็นสำคัญ แต่ทั้งสองก็มีเจตนาฆ่าเหมือนกัน นะครับ มีเจตนาเหมือนกัน อีกคนรู้ว่าฆ่าเป็นบาป อีกคนไม่รู้ว่าฆ่าแล้วเป็นบาป แต่เจตนาฆ่ายังคงเหมือนกันนะ |
|
|
|
  |
 |
new
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532
|
ตอบเมื่อ:
08 ธ.ค.2005, 8:09 pm |
  |
คุณธะนะวัติให้เหตุผลได้ดีนะ ตรงประโยคนี้น่ะครับ
ผิดน้อยขึ้นอยู่กับเจตนา เช่นคนฆ่าคนเป็นหารเพื่อความอยู่นอด จะบาปน้อยกว่าคนฆ่าคนเพื่อเป็นการแข่งขันทางกีฬา และคนจะบาปมากที่สุดเมื่อฆ่าผู้อื่นด้วยความอาฆาตมาตรร้าย
เพราะว่าเจตนานั้นสำคัญ
แต่ที่ผมถามนั้น ทั้งสองมีคน มีเจตนาฆ่าเหมือนกัน อยากให้ตายเหมือนกัน ด้วยเหตุผลที่เท่ากัน
แต่ คนนึงรู้ว่าฆ่าแล้วเป็นบาป อีกคน ไม่รู้ว่าฆ่าไปแล้วเป็นบาป |
|
|
|
  |
 |
บัวเบลอ
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 18 ต.ค. 2005
ตอบ: 86
|
ตอบเมื่อ:
08 ธ.ค.2005, 8:17 pm |
  |
ท่านเปาฯ จะแบ่งให้ใครไปอยู่ขุมไหนล่ะ
แล้วอย่างผู้มีอาชีพเป็นเพชฌฆาตประหารนักโทษ จะว่าอย่างไร  |
|
|
|
  |
 |
new
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532
|
ตอบเมื่อ:
08 ธ.ค.2005, 8:30 pm |
  |
อืมน่าคิดครับ ผู้มีอาชีพเป็นเพชฌฆาตประหารนักโทษ ก็อย่างที่ผมบอก ฆ่าเหมือนกัน ถ้าเกิดมีเพชฌฆาตสองคน (เหตุผลเหมือนกัน) เจตนาเหมือนกัน คนนึงรู้ อีก คนไม่รู้
ประเด็นสำคัญ อยู่ที่รู้ว่าบาป กะไม่รู้ ว่าบาป เพราะเจตนา ฆ่าเหมือนกัน เหตุผลเดียวกัน เป็นเพชฌฆาตเหมือนกัน |
|
|
|
  |
 |
ปิงปองม.ราม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
09 ธ.ค.2005, 12:49 am |
  |
ผมคิดว่าคนที่ไม่รู้นั้นบาปมากกว่าเปรียบเทียบได้ว่า ชายคนหนึ่งไม่รู้ว่าไฟร้อนเวลาเขาจับไฟเขาก็จะจับอย่างเต็มที่ไม่มีการระมัดระวัง ส่วนชายอีกคนหนึ่งรู้ว่าไฟเป็นสิ่งที่ร้อนจะไหม้มือเขา เวลาจับก็จะใช้ความระมัดระวัง คนที่ฆ่าคนโดยที่รู้ว่าเป็นบาปเขาก็อาจจะฆ่าโดยไม่ทำให้ผู้ถูกฆ่าได้รับความเจ็บปวดเช่นฉีดยาพิษที่ทำให้เขาหมดสติและตายไปเอง ส่วนคนที่ไม่รู้ว่าฆ่าคนเป็นบาปนั้นเขาอาจจะทำด้วยความสนุกสนานสะใจและอาจจะทำให้ผู้ถูกฆ่าได้รับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส นอกจากนี้เขามีแนวโน้มที่จะฆ่าคนไปเรื่อยๆ เนื่องจากความไม่รู้ ส่วนคนที่ฆ่าโดยที่รู้ว่าเป็นบาปก็จะฆ่าเพียงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น |
|
|
|
|
 |
new
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532
|
ตอบเมื่อ:
09 ธ.ค.2005, 7:43 am |
  |
คุณธะนะวัติ ครับ คุณเห็นด้วยกะ คุณ ปิงปอง ม.ราม หรือ เปล่าครับ คุณปิงปอง ม.รามให้เหตุผลไว้ดีเลยนะ  |
|
|
|
  |
 |
tanawat
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
09 ธ.ค.2005, 8:24 am |
  |
ความเห็นที่ 9 ผู้เจริญ
ไม่เห็นด้วยครับ ผิดหลักคำสอนในพุทธศาสนา เพราะคนจะดีจะชั่วอยู่ที่เจตนาของตนเป็นหลัก หลักการนี้ใช้ได้กับศีลทุกข้อ มิเช่นนั้นคนจะรับกรรมอันเป็นบาปได้อย่างไรกัน อีกทั้งถ้าเป็นเช่นนี้จริง ถ้าใช้สำหรับการฆ่าคนแล้ว ถือว่าเป็นการบาปที่สุดอีก เพราะคนที่ตายไม่รู้ก่อนที่จะตายว่าเราฆ่าเขา เช่นการเอายาพิษให้กิน นัยของการทำผิดศีลไม่สามารถเอาไปเปรียบเทียบกับธรรมชาติในเรื่องอื่นได้ มันเหมือนกับเรากำลังเปรียบเทียบ เรื่องของโต๊ะ กับรถยนต์ เอาของสองสวิ่งนี้มาเปรียบเทียบกันได้หรือไม่ ถ้าได้จะเปรียบเทียบอย่างไร |
|
|
|
|
 |
new
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532
|
ตอบเมื่อ:
09 ธ.ค.2005, 8:53 am |
  |
ถ้าอย่างนั้น การไม่รู้ บาปน้อยกว่า ที่คุณธะนะวัติว่า งั้นผมก็ไม่ต้องรู้ว่าฆ่าคน เป็นบาป ดีกว่าน่ะซิครับ ไม่ต้องรู้ว่าทำแบบนี้ผิดศีลเป็นบาป ใช่ไหม  |
|
|
|
  |
 |
tanawat30
บัวบาน

เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256
|
ตอบเมื่อ:
09 ธ.ค.2005, 9:12 am |
  |
ดูก่อนความเห็นที่ 11 ผู้เจริญ
ในทางทฤษฎีและในทางปฏิบัติเป็นเช่นนั้นจริง แต่ในทางโลกที่มนุษย์ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมานับเป็นพันๆ ปี การฆ่าผู้อื่นเป็นที่ยอมรับว่าไม่ดีสืบทอดกันมาอยู่แล้ว หรือมนุษย์เองต้องคิดเองได้อยู่แล้วว่าดีหรือไม่ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ท่านทรงสอนเอาไว้ และเป็นสิ่งที่อยู่เหนือตำราใดๆ ทั้งสิ้น เพราะถ้าคนอ่านตำรามาก แต่คิดหาเหตุและผลที่มาของคำสอนนั้น ว่ามีที่มาอย่าไร แล้วจะไปอย่างไร ไปอย่างไร เช่นปฏิบัติตามคำสอนนี้ดีหรือไม่ ปฏิบัติแล้วได้ผลตามนั้นจริงหรือเปล่า ตำรานั้นไม่ถือว่าเป็นประโยชน์แก่ผู้ศึกษา อันนี้ผมพูดในนัยของพุทธศาสนานะครับ ว่าแล้ว แต่งต่ออีกเรื่องดีกว่า |
|
|
|
    |
 |
๛ วรากร ๛
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
09 ธ.ค.2005, 9:56 am |
  |
ความเห็น คุณ ปิงปอง ม.ราม ถูกต้องนะครับ
ผู้ที่ไม่รู้บาป ยอมได้รับผลแห่งบาปมากกว่า ทั้งๆที่บาปเท่ากัน
เพราะผู้ที่รู้เขาย่อมระวังในการทำบาป
แต่การฆ่า คนตาย โดย คนนึง รู้ว่า ฆ่าคน เป็นบาป อีกคน ไม่รู้ว่าฆ่าคนเป็นบาป
บาปทั้งคู่ครับ คือหนักเท่ากัน
เหมือนคุณปิงปองบอก
หินมันร้อน หากเรารู้ว่ามันร้อนเราจะรีบจับแล้วปล่อย แต่หากเราไม่รู้เราจะจับมันและกำมันแน่นเลย (อย่าคิดเข้าข้างตัวเองว่าจับแล้วรู้ว่าร้อนทำไม่รีบว่าง) ก็เพราะเขาคิดว่ามันไม่ร้อนหลอกจับเต็มเลย
อย่าลืมนะครับ ว่าหินนะร้อนเท่ากัน คนจับต้องผิวบางเท่ากัน มีกำลังเท่ากัน
จริงแล้วเรื่องของผลของบาปกรรมเป็นเรื่องไม่ควรคิดเพราะมันคิดไม่ได้ เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลของบาปกรรม
ส่วนมาก การสอนของเกือบทุกศาสนาก็จะเริ่มสอนให้รักษาศีลก่อน เพราะศีลเป็นการละเว้นการทำบาป และสอนให้รู้ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ทำดีได้ไปสวรรค์ ทำชั่วไปนรก
ทำไมต้องสอนเรื่องเหล่านี้ก่อนก็เพราะว่า เราไม่มีกำลังพอที่จะรับเหมือนพระบางรูป
เพียงแค่พระพุทธเจ้าพูด เห็นสักแต่ว่าเห็น ได้ยินสักแต่ว่าได้ยิน ก็บรรลุธรรมเลย
แต่บางคนต้องค่อยๆเป็นค่อยไป สอนแบบก้าวกระโดดไม่ได้
แต่เมื่อใดเราถึงนิพพาน เราก็จะไม่มีความแตกต่างกันเลยในการปฏิบัติ เพื่อถึงนิพพาน |
|
|
|
|
 |
tanawat30
บัวบาน

เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256
|
ตอบเมื่อ:
09 ธ.ค.2005, 10:24 am |
  |
ดูก่อนความคิดเห็นที่ 13 ผู้เจริญ
ถ้าผู้ที่ไม่รู้ผลแห่งการทำบาปได้รับบาปกรรมมากกว่า คนที่รู้การทำบาปเช่นนั้นจริง มันย่อมขัดกับหลักการที่บอกว่า ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด เวลาขึ้นศาล โษของการฆ่าคนตายโดยเจตนา ยังมีโทษน้อยกว่าการฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา
แล้วคนที่รู้ว่าการทำสิ่งนั้นว่าเป็นบาปแล้วยังทำบาปทั้งๆ ที่รู้ เช่นการข่มขืนกระทำชำเรา การดื่มสุรา คนก็รู้ว่าไม่ดี แต่ไม่เห็นคนเลิกดื่มกัน
ทุกศาสนา สอนให้คนรักษาศีล การทำดีได้ขึ้นสวรรค์ ทำชั่วลงนรกจริงครับ แต่ต้องบอกว่ามาจากเจตนาของผู้ปฏิบัติด้วย เช่นศาสนาอิสลามบอกว่า เจตนาคือตัวกรรม ศาสนาพุทธบอกว่า กรรมเป็นเครื่องแสดงเจตนา
ส่วนเรื่องกำลังได้แก่ พละ 5 ได้แก่ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และปัญญา นั้น ถ้าใครมีสิ่งนี้อยู่ในตนก็มีกำลังทั้งนั้น เพราะพระกับฆราวาส มีรูปร่างทางกายภาพเหมือนกัน จึงไม่ควรแยกพระกับฆราวาสออกจากกัน ซึ่งผิดหลักพุทธศาสนาในเรื่องของความเป็นธรรม หรือหลักการเสมอภาค
ผู้ถึงนิพพานแล้ว จึงรู้และเข้าใจความเป็นอยู่ของสภาวะนิพพานที่ตนมี ไม่ว่าจะปฏิบัติอย่างไรก็ตาม บทความของคุณวรากร ทำให้ผมได้อีกบทนะครับ วันนี้ขอ 5 บทเลย เดี๋ยวไปธุระก่อนค่อยกลับมาแต่ง |
|
|
|
    |
 |
๛ วรากร ๛
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
09 ธ.ค.2005, 10:38 am |
  |
คนบางคนฆ่าคนตายโดยเจตนา ก็ดี ไม่เจตนาก็ดี การพิจารณาของแต่ละที่ในโลกก็ไม่เหมือนกัน เอามาอ้างไม่ได้ครับ
สำหรับเรื่อง มีคนทำผิด สองคน ได้ไปฆ่า คนตาย คนนึง รู้ว่า ฆ่าคน เป็นบาป อีกคน ไม่รู้ว่าฆ่าคนเป็นบาป
ตอบ บาปทั้งคู่ครับ เพราะมีเจตนาทั้งคู่ แต่ผลแห่งบาปส่งผลต่อ คนที่ไม่รู้ว่าบาปมากกว่าครับ
ไม่รู้ว่าทำแล้วบาป กับ ทำโดยไม่เจตนา คนละเรื่องครับทุกท่าน |
|
|
|
|
 |
บัวเบลอ
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 18 ต.ค. 2005
ตอบ: 86
|
ตอบเมื่อ:
09 ธ.ค.2005, 11:35 am |
  |
เอามาตราฐานโลกไปตัดสินทางธรรมไม่ได้หรอก
เหมือนจะพยายามสนเชือกฟางเข้ารูเข็ม ทำได้งัยล่ะ
...........................................................................................................
หืออ ... มาทีเดียว 5 บทเลยล๋อ ใครอ่านก็เตรียมมึนเลยคับท่านผู้ชม
คุณวรากรต้องรับผิดชอบๆๆๆๆๆๆ ..... ล้อเล่นนะคะ  |
|
|
|
  |
 |
เฟ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
09 ธ.ค.2005, 12:22 pm |
  |
เราว่าที่ คุณวรากรบอกว่าบาปเท่ากันน่ะถูกแล้ว จะฆ่ามด ฆ่าคน ก็บาปเท่ากันหมดทั้งนั้น แต่จะได้รับผลกรรมต่างกันไป
คำพูดแต่ละคนฟังดูก็น่าจะมีความหมายไปทางเดียวกันนี่นา เลยไม่รู้จาให้ความเห็นเพิ่มว่ายังงัย มองดูนกกระดาษที่พับตัวหนึ่งประนีตสวยงาม อีกตัวยับยู่ยี่บิดเบียว แต่แท้จริงก็ไม่ใช่นก เป็นกระดาษต่างหาก  |
|
|
|
|
 |
new
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532
|
ตอบเมื่อ:
09 ธ.ค.2005, 6:59 pm |
  |
ขำ ขำ
คุณบัวเบลอ พูดผมขำคุณบัวเบลอพูดอะครับ มาทีเดียว 5 บทเลยเหรอ |
|
|
|
  |
 |
เฮ้อ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
09 ธ.ค.2005, 10:05 pm |
  |
บังเอิญคนที่รู้ว่าฆ่าคนเป็นบาป แกเป็นพระ และแกบันดาลโทสะต้องฆ่า เมื่อแกเป็นพระและรู้ผิดชอบชั่วดีแล้วไปฆ่าคน บาปของแกถึงขั้นปาราชิกทีเดียว ส่วนอีกคนเป็นคนเป็นคนธรรมดาจึงบาปน้อยกว่า |
|
|
|
|
 |
|