ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
ต้นข้าวต้นข้าว
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
05 ธ.ค.2005, 12:49 pm |
  |
อุโบสถศีล - ศีลแปด
อุโบสถศีล เป็นศีลสำหรับ
1. ฆราวาสผู้ครองเรือน ซึ่งปรารถนาความสุขอันยอดเยี่ยมในกาลปัจจุบันและอนาคต
2. ผู้สะสมบารมี เพื่อรู้ธรรมเห็นธรรม และบรรลุมรรคผลนิพพาน
ความมหัศจรรย์แห่ง "อุโบสถศีล"
..........นางเอกุโปสติกาภิกษุณี ออกบวชเมื่ออายุได้ 7 ปี บวชแล้วไม่ทันถึงครึ่งเดือน นางก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ หมดสิ้นอาสวะกิเลส ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป
หลายคนสงสัยว่า เหตุใดนางจึงได้บรรลุธรรมรวดเร็วอย่างนั้น
นางจึงเล่าประวัติ การเวียนว่ายตายเกิดของนางว่า เมื่อ 91 กัปป์ที่ผ่านมา มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลกมาแล้ว 7 พระองค์ คือ พระวิปัสสีพุทธเจ้า พระสิขีพุทธเจ้า พระกกุสันโธพุทธเจ้า พระโกนาคมโนพุทธเจ้า พระกัสสปะพุทธเจ้า และพระโคตมะพุทธเจ้า ของเราในสมัยนี้
ในสมัยพระเจ้าวิปัสสีพุทธเจ้า นางเอกุโปสติกาภิกษุณี เกิดเป็นหญิงรับใช้ของพระเจ้าพันธุมมะ ผู้ครองนครพันธุมดี นางได้เห็นพระเจ้าพันธุมมะ พร้อมด้วยอำมาตย์ ข้าราชบริพาร ทรงสละราชกิจมาสมาทานรักษาอุโบสถศีลในวันพระ นางคิดว่า อุโบสถศีลนี้น่าจะเป็นของดีวิเศษ เจ้าฟ้ามหากษัตริย์จึงสนใจสมาทานรักษาเป็นประจำ นางคิดได้ดังนี้ จึงศึกษา และทำใจร่าเริงสมาทานรักษาอุโบสถศีลเป็นประจำทุกวันพระ
ผลของการรักษาอุโบสถศีล ทำให้นางได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานอันสวยงาม มีนางฟ้าแสนนางเป็นบริวาร มีผิวพรรณผุดผ่องดั่งทองคำ มีความงามยิ่งกว่านางฟ้าอื่นๆ ระหว่างที่นางยังท่องเที่ยวเวียนว่ายตายเกิดอยู่ ไม่ว่าจะเกิดในภพใดชาติใด นางจะเป็นผู้ประเสริฐในที่ทุกสถานทุกภพทุกชาติ ได้ที่อยู่อาศัยเป็นเรือนยอดปราสาทมณฑป ได้ดอกไม้ เครื่องหอม เครื่องลูบไล้ ของกินของใช้ไม่เคยอดอยาก ภาชนะเครื่องใช้ทำด้วยเงินทอง แก้วผลึก แก้วปทุมราช ผ้าไหมผ้าฝ้ายผ้าเปลือกไม้ล้วนแต่งามวิจิตรมีราคาสูง พาหนะช้าง ม้า รถ มีครบบริบูรณ์ ทุกอย่างเป็นผลบุญที่เกิดขึ้นจากการรักษาอุโบสถศีลในวันพระของนาง ตลอดเวลา 91 กัปป์นางมิได้ไปเกิดในทุคติภูมิเลย
พระพุทธองค์ตรัสว่า "ดูกร ภิกษุทั้งหลาย อุโบสถศีลประกอบด้วยองค์แปดที่บุคคลสมาทานรักษาแล้วย่อมมีผลยิ่งใหญ่ มีอานิสงส์มหาศาล มีความเจริญรุ่งเรืองยิ่งนัก มีผลอานิสงส์แผ่ไพศาลมาก"
อุโบสถศีล เลิศกว่าสมบัติพระเจ้าจักรพรรดิ์
บรรดาคนร่ำรวยที่สุดในโลก มหาเศรษฐี มีทรัพย์สินเงินทองมากมายมหาศาลเพียงใดก็ตาม ความร่ำรวยเหล่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับทรัพย์สมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ์แล้ว ย่อมเป็นของเล็กน้อย ทรัพย์สมบัติของเศรษฐีทุกคนในโลกรวมกัน ก็ไม่เท่าทรัพย์สมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ์
ทรัพย์สมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ์ เมื่อเปรียบเทียบกับผลของการรักษาอุโบสถศีล ย่อมเป็นของเล็กน้อย คือ ไม่ถึงเสี้ยวที่ 16 ของผลบุญที่เกิดจากการรักษาอุโบสถศีล เพราะสมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ์เป็นสมบัติมนุษย์ เป็นสมบัติหยาบ เป็นความสุขหยาบ ใช้เวลาเสวยอย่างมากไม่เกินร้อยปี แต่ผลของอุโบสถศีล เป็นเหตุให้ได้สมบัติทิพย์ ความสุขก็เป็นทิพย์ด้วย การเสวยสมบัติทิพย์ กินเวลายาวนานเป็นกัปป์เป็นกัลป์ บางทีเป็นนิรันดร์ (นิพพานสมบัติ)
ดังนั้น ชายหญิงทั้งหลาย ผู้ได้สมาทานรักษาอุโบสถศีลย่อมได้ชื่อว่า ทำความดีอันมีความสุข เป็นกำไร ไม่มีคนดีที่ไหนจะติเตียนได้ เมื่อสิ้นชีพไปแล้วย่อมเข้าถึงสวรรค์หกชั้น ชั้นใดชั้นหนึ่ง
วิธีการรักษาอุโบสถศีล
เมื่อวันพระเวียนมาถึง ให้ทำความตั้งใจว่า วันนี้เราจะรักษาอุโบสถศีล เป็นเวลาสิ้นวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง คือตั้งแต่เช้าวันพระจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น เจตนาละเว้นจากความชั่วทางกายวาจานั้นแลคือตัวศีล
โดยปกติวันพระ อุบาสก อุบาสิกา จะพากันไปสมาทานอุโบสถศีลที่วัด พักอาศัยอยู่ที่วัดวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ถ้าไม่ได้ไปวัดก็ให้ทำสมาทานวิรัติ หรือเจตนาวิรัติอุโบสถศีลเอาเอง
สมาทานวิรัติ คือ ตั้งใจสมาทานศีลด้วยตนเอง จะรักษากี่วันกำหนดเอง เว้นจากข้อห้ามของศีลเสียเอง
เจตนาวิรัติ คือ เพียงแต่มีเจตนาเว้นจากข้อห้ามที่ใจเท่านั้น ก็เป็นศีลแล้ว ไม่ต้องใช้เสียงก็ได้
สมาทานวิรัติ ดังนี้
เจตนาหัง ภิกขะเว สีลังวันทามิ สาธุ สาธุ สาธุ คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระอริยสงฆ์ ตั้งแต่เวลานี้ไปจนถึง... ข้าฯ จะตั้งใจรักษาอุโบสถศีล อันประกอบไปด้วยองค์แปดประการ คือ
1. ปานาติปาตา เวรมณี ข้าฯ จะเว้นจากการฆ่าสัตว์ คือ ไมทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป เป็นการลดการเบียดเบียนซึ่งกันและกัน
2. อทินนาทานา เวรมณี ข้าฯ จะเว้นจากการลักทรัพย์ คือ ไม่ถือเอาสิ่งของที่เขาไม่ได้ให้ เป็นการลดการเบียดเบียนทรัพย์สินของผู้อื่น
3. อพรหมจริยา เวรมณี ข้าฯ จะเว้นจากการประพฤติอันเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์ คือ ไม่เสพเมถุนล่วงมรรคใดมรรคหนึ่ง (ถ้าไม่แตะต้องกายเพศตรงข้าม และไม่จับของต่อมือกัน จะช่วยให้การฝึกสติสัมปชัญญะดียิ่งขึ้น)
4. มุสาวาทา เวรมณี ข้าฯ จะเว้นจากการพูดปด คือ พูดไม่ตรงกับความจริง
5. สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวรมณี ข้าฯ จะเว้นจากการดื่มสุราเมรัยของมึนเมาเสียสติ อันเป็นเหตุของความประมาทมัวเมา
6. วิกาลโภชนา เวรมณี ข้าฯ จะเว้นจากการดื่มกินอาหารในเวลาหลังเที่ยงไปแล้วจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น เป็นการลดราคะกำหนัด และลดความง่วงเหงาหาวนอน
7. นัจจคีตวา ทิตตะวิสูกะทัสสะนะ มาลาคันธวิเลปานะ ธารณะ มัณฑะนะ วิภูสะนัฏฐานา เวรมณี ข้าฯ จะเว้นจากการดูละครฟ้อนรำขับร้องประโคมดนตรี ทัดทรงดอกไม้ลูบไล้ของหอม เครื่องย้อมเครื่องทา เครื่องประดับตกแต่งต่างๆ อันปลุกเร้าราคะกำหนัดให้กำเริบ
8. อุจจา สะยะนะ มะหาสะยะนา เวรมณี ข้าฯ จะเว้นจากการนั่งนอนเครื่องปูลาดอันสูงใหญ่ ภายในยัดด้วยนุ่นหรือสำลี และวิจิตรงดงามต่างๆ เป็นการลดการสัมผัสอันอ่อนนุ่มน่าหลงไหล อดความติดอกติดใจสิ่งสวยงาม มีกิริยาอันสำรวมระวังอยู่เสมอ
ข้าฯ สมาทานวิรัติ ซึ่งอุโบสถศีล อันประกอบด้วยองค์แปดประการนี้ เพื่อจะรักษาไว้ให้ดีมิให้ขาด มิให้ทำลาย สิ้นวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ณ เพลาวันนี้ ขอกุศลส่วนนี้ จงเป็นอุปนิสัยเป็นปัจจัยแก่พระนิพพานในอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้นเทอญ สาธุ
เมื่อวิรัติศีลแล้ว พึงรักษากาย วาจา เว้นการกระทำตามที่ได้ตั้งสัตย์ปฏิญาณไว้จนสิ้นกำหนดเวลา พยายามรักษากาย วาจา มั่นอยู่ในศีล อย่าให้ศีลข้อใดข้อหนึ่งขาด หรือทะลุด่างพร้อยมัวหมอง ถ้ากระทำบ่อยๆ และต่อเนื่องยาวนาน ศีลจะอบรมจิตใจให้ตั้งมั่นเป็นสมาธิ สมาธิจะอบรมปัญญาให้แก่กล้า สามารถรู้ธรรมเห็นธรรม บรรลุมรรคผลนิพพานได้
ปัญหาในการรักษาศีล 8
คือ กลัวไม่ได้กินอาหารเย็น กลัวหิว กลัวเป็นโรคกระเพาะ กลัวรักษาศีลไม่ได้แล้วจะยิ่งบาป
ที่จริงแล้วผู้รักษาศีล 8 สามารถรับประทาน น้ำปานะ คือ น้ำที่ทำจากผลไม้ขนาดเล็กเท่าเล็บเหยี่ยว ขนาดใหญ่ไม่เกินส้มโอตำ หรือคั้นผสมน้ำกรองด้วยผ้าขาวบางให้ดี 8 ครั้ง ผสมเกลือและน้ำตาลพอได้รส หรือรับประทาน เภสัช 5 อย่าง คือ เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย (น้ำตาล)
นอกจากนี้ ยังรับประทานสิ่งที่เป็นยาวชีวิกได้โดยไม่จำกัดกาล คือ รับประทานเป็นยา ได้แก่ รากไม้ เช่น ขมิ้น ขิง ข่า ตะใคร้ ว่านน้ำ แฝก แห้วหมู น้ำฝาด เช่น น้ำฝาดสะเดา ใบมูกมัน ใบกระดอม ใบกะเพราหรือแมงลัก ใบฝ้าย ใบชะพลู ใบบัวบก ใบส้มลม ผลไม้ เช่น ลูกพิลังกาสา ดีปลี พริก สมอไทย สมอพิเภก มะขามป้อม ผลแห่งโกฐ รวมยางไม้จากต้นหิงค์ และเกลือต่างๆ
คัดลอกเนื้อหามาจาก
http://larndham.net/index.php?showtopic=13827&st=12
น้ำแบบไหน คือ “น้ำปานะ” : พระมหาอดิเดช สติวโร
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=44859
รวมกระทู้ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับ “วันโกน-วันพระ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=45496 |
|
|
|
|
 |
เขมิกา
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
09 ธ.ค.2005, 9:12 am |
  |
การรักษาศีลอุโบสถมีเป้าหมายอย่างไรหรอค่ะ |
|
|
|
|
 |
new
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 532
|
ตอบเมื่อ:
09 ธ.ค.2005, 9:48 am |
  |
อนุโมทนา คุณต้นข้าวที่นำมาให้ได้อ่านกันครับ  |
|
|
|
  |
 |
เฟ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
09 ธ.ค.2005, 12:32 pm |
  |
อันนี้รึเปล่าค่ะเป้าหมาย
1. ฆราวาสผู้ครองเรือน ซึ่งปรารถนาความสุขอันยอดเยี่ยมในกาลปัจจุบันและอนาคต
2. ผู้สะสมบารมี เพื่อรู้ธรรมเห็นธรรมและบรรลุมรรคผลนิพพาน
ดีจังไม่ต้องหาโอกาสไปวัดก็ได้แล้ว ชอบจริงๆ เลย ทำแล้วรู้สึกสงบสุขดี แต่ว่าสมัยนี้วันพระไม่ค่อยสะดวกค่ะ ทำงานยิ่งเป็นเราด้วยละกิเลสไม่ค่อยได้สงสัยวันธรรมดา ถ้าไม่หยุดอยู่กะบ้านนี้ทำบากแน่  |
|
|
|
|
 |
วรากร
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
09 ธ.ค.2005, 12:35 pm |
  |
|
|
 |
นิพพาน
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 30 ต.ค. 2006
ตอบ: 34
|
ตอบเมื่อ:
03 พ.ย.2006, 12:10 am |
  |
|
  |
 |
อำนวยยาลา
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 30 ต.ค. 2006
ตอบ: 15
ที่อยู่ (จังหวัด): 259หมู่6ตำบลนาเกลืออำเภอพระสมุทรเจดีย์จังหวัดสมุทรปราการ
|
ตอบเมื่อ:
04 พ.ย.2006, 9:53 am |
  |
ศีลอุโบสถเป็นศีลพ่วงขาดข้อใดข้อหนึ่งก็ถือว่าขาดทุกข้อเคยเห็นโยมบางท่านมาถือศีลอุโบสถที่วัดประจำวันพระเข้ามาอยู่ในวัดมาเห้นกิริยาพระหนุ่มเณรน้อยทำกิยาไม่ดีไม่งามแทนที่จะไปบอกกล่าวครุบาอาจารณ์ให้ตักเตือนกับไปดุด่าว่ากล่าวเสียเองอย่างนี้ก็อาจจะทำให้สีลของตนไม่บริสุทธ์ก็ได้เพราะฉะนั้นในความคิดเห็นบุคคลผู้ถือศีลไม่ว่าศีลใดๆก็ช่างนับตั้งแต่ศีลห้าถึงศีล227ไม่ควรไปหวั่นไหวกับสิ่งที่มากระทบคือพูดง่ายๆให้สำรวมอินทรีย์นั่นเองเคยได้พบกับตัวเองมามีพระภิกษุรูปหนึ่งยืนต่อล้อต่อเถียงกับขี้เมาดุกล่าวขี้เมาว่า(ขออนุญาตใช้คำหยาบคายตามที่ได้ยินมา)ไอ้ฉิบหายมึงเป็นใครมาหาว่าพระว่าเจ้าเดียวนรกจะกินหัวเดี๋ยวกูเอาด้ามจอบตีหัวแตกในฐานะที่ผมเองก็เป็นภิกษุรูปหนึ่งฟังแล้วก็ไม่สบายใจคิดว่าบุคคลที่เรียกตัวเองว่าเป็นไม่ควรไปพูดเช่นนั้นถ้าไปพูดวาจาเช่นนั้นยังจะกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นพระอีกหรือจากพระไทยรูปหนึ่งขอฝากไว้กับผู้ถือศีลและปฏิบัติธรรมทุกท่าน |
|
_________________ ศรัทธาพระพุทธศาสนาเป็นเลิส |
|
  |
 |
แมวขาวมณี
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307
|
ตอบเมื่อ:
04 พ.ย.2006, 8:05 pm |
  |
อนุโมทนา คุณต้นข้าวที่นำมาให้ได้อ่านกันค่ะ |
|
_________________ พฤษภกาสร อีกกุญชร อันปลดปลง
โททนต์ เสน่งคง สำคัญหมาย ในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตย์ทั่ว แต่ชั่วดี ประดับไว้ ในโลกา |
|
   |
 |
|