ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
oyomri
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
02 ธ.ค.2005, 2:21 pm |
  |
เหตุใดเชิงเทียนที่ตั้งไว้ ณ ที่บูชาพระ จึงไม่มีเทียน |
|
|
|
|
 |
tanawat30
บัวบาน

เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256
|
ตอบเมื่อ:
02 ธ.ค.2005, 2:35 pm |
  |
คำตอบคือ ทำไมคนที่ทำบุญมาก ทำบุญชั่วชีวิตเมื่อตายไปจึงไม่ได้ขึ้นสู่สุคติ มาเวียนว่ายตายเกิดกันอยู่ทำไม |
|
|
|
    |
 |
สายลม
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245
|
ตอบเมื่อ:
02 ธ.ค.2005, 5:53 pm |
  |
เพราะเทียนได้เผาละลายไปหมดแล้ว จึงมีแต่เชิงเทียนเปล่า
 |
|
|
|
    |
 |
เขม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
02 ธ.ค.2005, 7:00 pm |
  |
เพราะเหตุที่ไม่มีเทียน เทียนจึงไม่มี คำว่าเทียนเป็นเพียงสิ่งสมมุติขึ้นเพื่อใช้เรียกขานกันเท่านั้น |
|
|
|
|
 |
บัวเบลอ
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 18 ต.ค. 2005
ตอบ: 86
|
ตอบเมื่อ:
02 ธ.ค.2005, 7:08 pm |
  |
เพราะไม่เห็น ห้องมันมืด ไม่ได้จุดเทียน
|
|
|
|
  |
 |
m
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
02 ธ.ค.2005, 11:34 pm |
  |
ปัจจัยยังไม่พร้อม.. ..
ทำไงถึงจะมีเทียน เทียนต้องมีด้วยหรือ
 |
|
|
|
|
 |
m
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
02 ธ.ค.2005, 11:38 pm |
  |
ไม่มีห้องพระ ไม่มีเชิงเทียน ..ไม่ต้องหาเทียน
 |
|
|
|
|
 |
ขอมั่วหน่อยแล้วกัน
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
03 ธ.ค.2005, 7:24 am |
  |
เพราะมีแต่คนตั้งเชิงเทียนแต่ไม่มีคนบูชาพระหรือเปล่าครับแต่ผมก็ชอบกราบพระด้วยใจไม่ใช้ธูปเทียนเสียด้วย หรือจะมองในแง่ปริศนาดีว่าแสงเทียนอันหมายถึงปัญญาไม่มีเชิงเทียนไม่ให้แสงสว่างจึงไม่มีประโยชน์เท่าไหร่แต่คนเราก็อุตส่าห์หารากฐานมาวางกันไว้ตามลำดับเริ่มตั้งแต่เชิงเทียนก่อนแล้วก็ตามมาด้วยเทียนแล้วก็ไม้ขีดไฟหรือไฟแช็ค สุดท้ายวันหนึ่งก็สว่างไสวขึ้นมาเหมือนปัญญาต้องเริ่มจากการปฏิบัติแต่รากฐานปลูกฝังกันยาวนานจนได้เห็นความจริงในที่สุดเมื่อสำเร็จ ไม่รู้เหมือนกันจะมีโอกาสได้เห็นในชาตินี้หรือเปล่า แต่ปัจจุบันหากปัญญาเหมือนแสงเทียนคงไม่สว่างและยาวนานเท่าไหร่ถ้าใช้หลอดไฟ1000วัตต์แทนได้ก็คงจะดี  |
|
|
|
|
 |
tanawat30
บัวบาน

เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256
|
ตอบเมื่อ:
03 ธ.ค.2005, 1:32 pm |
  |
ความเห็นที่ 8 ตอบถูกครับ คนถามเขาถามอย่างมีปริศนา คำตอบของผมก็ตอบแบบปริศนาเหมือนกัน คือคนเราต้องบูชาพระด้วยคุณธรรมและความดี คนจุดธูปไหว้พระก็ไม่ใช่คนที่บูชาพระเสมอไป หรือคนที่ไม่เคยจุดธูปไหว้พระก็ไม่ใดหมายความว่าเขาไม่บูชาพระเสมอไป แต่ทุกอย่างออกจากใจ หรือออกจากเจตนาเป็นสำคัญ |
|
|
|
    |
 |
บัวเบลอ
บัวพ้นดิน

เข้าร่วม: 18 ต.ค. 2005
ตอบ: 86
|
ตอบเมื่อ:
03 ธ.ค.2005, 3:01 pm |
  |
จิ๊บ จิ๊บ .. กลัวคำตอบไม่จ๊าบ
เจ้าของคำถามถ้าไม่ได้ตั้งใจถามเชิงเซ็น อย่าหงุดหงิดน้อยใจเลยนะคะ
ล้อกันเล่นหนุกๆ แบบเป็นมิตรในทางธรรมอารมณ์ดี |
|
|
|
  |
 |
ภัส_ธรรมจักร
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 30 ส.ค. 2005
ตอบ: 11
|
ตอบเมื่อ:
05 ธ.ค.2005, 7:44 pm |
  |
แสงแห่งธรรมเป็นแสงที่ประเสริฐที่สุด แม้ว่าเมื่อเราไหว้พระบนหิ้งไม่ได้จุดเทียนไว้แต่ใจของเราไหว้ด้วยความศรัทธาและมีธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นหลักปฏิบัติในชีวิต เป็นที่พึ่งในจิตใจ เท่ากับว่าเราได้จุดแสงเทียนแสงธรรมในใจของเราให้
สว่างไสว ไปถึงดวงจิตวิญญาณของเรา ไม่มีแสงที่จะสว่างไปกว่าแสงแห่งธรรมของ
พระพุทธเจ้า และจิตใจของเราเข้าถึงธรรมเหล่านั้น เชิงเทียนเปรียบเสมือนความรู้และหลักความจริงแห่งชีวิต แท่งเทียนเปรียบเสมือนปัญญาอันหลักแหลมที่จะทำให้รู้แจ้งแทงตลอดแห่งธรรมะ เพราะฉะนั้นเหตุใดเชิงเทียนที่ตั้งไว้ ณ ที่บูชาพระ จึงไม่มีเทียน ก็คือ ผู้ที่มีปัญญามีความรู้แต่ก็ยังมิสามารถที่จะรู้ถึงหลักธรรมที่เป็นแก่นแท้ได้ ขอให้ท่านทั้งหลายได้โปรดปฏิบัติสมาธิภาวนา เพื่อให้รู้แจ้งเห็นจริงสรรพสิ่งต่างๆ แห่งชีวิตตามความเป็นจริง
ให้ปัญญาของเราฉลาดหลักแหลมและสว่างไสงเสมือนแท่งเทียน
แสงแห่งธรรมเป็นแสงที่ประเสริฐที่สุด  |
|
|
|
  |
 |
oyomri
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
06 ธ.ค.2005, 8:09 am |
  |
ขอบคุณค่ะที่มาตอบ ที่มาของคำถามคือบนหิ้งพระที่ห้องจะจัดกระถางธูปและเชิงเทียนเพื่อจุดบูชาพระรัตนตรัย แต่เรามีเหตุจำเป็นว่า ไม่สามารถจุดเทียนได้เนื่องจากความจำกัดของพื้นที่ จึงคิดอย่างนี้ว่า เชิงเทียนมันมีหน้าที่เป็นที่ตั้งของเทียน ซึ่งแสงเทียนเปรียบเสมือนปัญญา หากเราตั้งแต่เชิงเทียนไว้ แต่ไม่มีเทียนที่จะจุดให้เกิดแสง ก็เหมือนการปฏิบัติบูชาที่สักแต่ว่าปฏิบัติไป ไม่ได้ใช้ปัญญา.....
แต่อยากรู้ว่าคนอื่นคิดกันงัย ซึ่งก็ไม่มีใครตอบผิดแม้พูดไม่เหมือนกันจริงมั้ย แสดงถึงยังไรเสียธรรมะก็คือความจริง ถูกต้องดีแล้วทุกประกัน
วันหลังขอนำคำถามประมาณนี้มาถามให้ตอบกันอีกได้มั้ยคะ แค่เชิงเทียนเปล่าๆ ยังได้ธรรมะดีๆ ตั้งหลายข้อ สิ่งเดียวกันตาสองตาเห็นได้ 1 แต่หลายตาเห็นกลับได้เพิ่มอีกหลายอย่าง ดีใจค่ะ  |
|
|
|
|
 |
tanawat30
บัวบาน

เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256
|
ตอบเมื่อ:
06 ธ.ค.2005, 9:34 am |
  |
ดูก่อนความเห็นที่ 12 ผู้เจริญ
การปฏิบัติทุกอย่างอยู่ที่ใจของเรา ดีหรือชั่ว ทำผิดศีลหรือไม่ เกิดและรู้ เพียงตัวเราเท่านั้น คนอื่นตัดสินให้เราไม่ได้ เพราะความเจตนาเกิดขึ้นจากตัวเรา เราคิดอย่างไร ผลที่เกิดขึ้นกับเราก็เป็นเช่นนั้น ถ้าเราเจตนาไม่บริสุทธิ์ คนอื่นเห็นว่าเราดี เป็นคนน่าเลื่อมใส มีคนสรรเสริญ ยกย่อง เช่นนี้แล้วผลดีก็ไม่เกิดกับตัวเราเช่นกัน นอกจากนี้แล้วเรายังบาปมากขึ้นกว่าเดิมจากความไม่รู้ของผู้อื่น การทำดีก็เช่นกัน ถ้าเราเจตนาบริสุทธิ์ คนอื่นเห็นว่าเราไม่ดี ถึงแม้ว่าคนอื่นจะว่าอย่างไรก็ตาม เช่นระวังสติวิปลาส หรืออะไรก็สุดแล้วแต่ ผลเสียเช่นนั้นย่อมไม่เกิดขึ้นกับเรา แต่กลับแปลเปลี่ยนเป็นบารมีที่เราจะได้รับมากขึ้น แล้วผลเสียนั้นจะตกไปยังคนที่พูดหรือให้ร้ายเรา ถ้าเขาเจตนาไม่บริสุทธิ์กับเราด้วย |
|
|
|
    |
 |
|