ไม่ค่อยสบายค่ะ เบื่อเพื่อนร่วมงาน มีอัตตา

ตอบเมื่อ: 24 พ.ย.2005, 9:36 pm

ถ้าใครเคยเจอปัญหานี้ ก็ให้นึกเสียว่า เราไม่สามารถบังคับจิตใจคนอื่นได้ แต่คนที่เราบังคับได้จึงอยู่ที่ตัวเราเท่านั้น ดังนั้นเมใอเป็นเช่นนี้แล้ว ถ้าเรานึกจะทำให้คนอื่นเป็นอย่างที่เราอยากให้เป็น ก็เหมือนกับเราอยากให้ร่างกายเราสะอาดโดยที่เราไม่อาบน้ำแหล่ะครับ

ดังนั้นการรับมือกับเหตุการณ์ใด ๆ หรือบุคคลใด ๆ อันดับแรกคือต้องเตรียมตัวให้พร้อม ธรรมชาติของมนุษย์มักจะทนไม่ได้กับสภาวะที่คนอื่นแสดงอารมณ์ขุ่นมัว เช่น ความโกรธ ความเห็นแก่ตัว ความริษยาใส่เรา ฉะนั้นแนวทางที่พระพุทธองค์ได้ทรงค้นพบ นั่นคือใช้กำลังสมาธิขจัดข้อบกพร่องของตนเองจึงเป็นหนทางออกของการแก้ปัญหาเหล่านี้ อย่างไรก็ตามการที่มนุษย์จะยอมรับข้อบกพร่องของตนเองนั้น เป็นเรื่องยาก ผมเคยบอกกับบรรดาสหายธรรมที่มาปฏิบัติธรรมเสมอว่า ถ้าอยากจะปฏิบัติสมาธิภาวนาให้ประสบความสำเร็จ ต้องด่าตัวเราเองให้เพื่อนฝูง ญาติพี่น้องฟัง วันละหลาย ๆ หน ถ้าเราสามารถทำเช่นนี้ได้อย่างมีความตรงไปตรงมา มีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง ผมว่าปฏิบัติสมาธิตามวิธีการของผมประสบความสำไรค็จได้ทุกคน

ถ้าพิจารณาตามคำพูดของผมจะรู้ว่าการปฏิบัติธรรมนั้นยากเพียงใด จะดี จะชั่วก็อยู่ที่เรา คนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ช่างเขา เราทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็ต้องทนอยู่แล้วถ้าคิดว่านั่นคือผลประโยชน์ของตนเอง เมื่อพิจารณาดังนี้แล้ว เราจะมีอารมณ์ขุ่นมัวอันเนื่องมาจากการกระทำของคนอื่นกันไปทำไม

ตอบเมื่อ: 25 พ.ย.2005, 2:43 am

กราบสวัสดีคุณtanawat30

มีสติ สัมปชัญญะ หมั่นชำระทุกขณะปัจจุบันให้สั่นที่สุด คราวละเล็กละน้อยไม่ท้อถอยปล่อยวางธุระ ไม่บำรุงมลทินไว้อวดกัน ไม่อาศัยมลทินประหัตประหารกัน มลทินส่วนไหนขจัดได้มากแล้ว ก็จงรักษาความสะอาดส่วนนั้นไว้ อย่าให้กลับมาแปดเปื้อนอีก สติคอยกำกับพิจารณาจนเบาบาง แม้จะไม่มีทางหมดจดโดยสิ้นเชิง ก็จะเจริญไปตามลำดับ

อิสระในความเป็นธรรม อย่าให้อคติความลำเอียงเข้ามาขวางบังคับใจและตกเป็นทาสกิเลสแห่งตนไปในที่สุด