ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
teardrops
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
14 พ.ย.2005, 8:39 pm |
  |
โจทย์สั้นๆ แค่นี้ละ ว่าแต่ทำยังไง ใช้อุบายอะไรดี คือเวลาจิตตกขึ้นมา รู้ทั้งรู้ว่าควรทำอย่างไร แต่ก็พยายามทั้งดึง ทั้งรั้งไว้ แต่ก็ไมวายจิตตก..รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก เบื่อไปหมด ไม่ได้อยากเป็น แต่ก็เป็น.. รบกวนชี้แนะด้วยค่ะ
 |
|
|
|
|
 |
ปิงปอง ม.ราม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
14 พ.ย.2005, 10:44 pm |
  |
ความเหงาความเศร้าเกิดได้กับทุกๆคน แล้วแต่ใครจะเป็นในช่วงไหนของชีวิต แต่หากมีอาการหนักมากๆถึงขั้นเบื่อโลกเบื่อชีวิตก็ควรจะไปหาจิตแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาซึ่งเขาเรียนมาทางด้านจิตโดยเฉพาะ ในการไปหาจิตแพทย์นั้นไม่ควรจะกลัวคนอื่นว่า เพราะเมื่อเราไม่สบายทางกายเรายังต้องไปหาหมอเฉพาะทางเลย แต่ถ้าอาการเป็นไม่หนักก็ควรหากิจกรรมที่เราชอบ ทำแล้วมีความสุข ผูกมิตรกับคนในสังคม ลองสังเกตดูจะพบว่าคนที่มีงานอดิเรกที่ตนรักกับมีเพื่อนฝูงมักจะไม่ค่อยเหงา หรือไม่ก็ลองเปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่ตนอยู่ก็น่าจะช่วยได้ จะว่าไปอาการเบื่ออาการเหงามันเคยเกิดขึ้นกับทุกคนแต่เดี๋ยวมันก็ผ่านไปผมก็เคยเป็นอยู่พักหนึ่งพอได้เปลี่ยนสภาพแวดล้อมมีเพื่อนฝูงอาการนี้ก็เกิดขึ้นน้อยมากเกือบจะไม่มีเลย อีกทางหนึ่งก็หาความสุขจากการทำจิตใจให้สงบแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ลองทำดูนะครับ เพราะเป็นความสุขทางจิตใจที่ไม่ต้องซื้อหาด้วยเงินทองสักบาทเดียว |
|
|
|
|
 |
teardrops
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
14 พ.ย.2005, 10:59 pm |
  |
ขอบคุณค่ะ .. แผ่เมตตาอยู่ค่ะ เมตตาเจโตวิมุตติ.. เวลาสวดจะเย็นๆ เต็มๆ แต่ก็รู้ว่าพอความมืดครอบงำ จิตยังไม่นิ่ง คอยจะเบื่อๆ อยู่เรื่อย จริงๆ วิเคราะห็แล้ว อาจเป็นเพราะอ่านหนังสือไม่ทัน บวกกับตอนนี้จิตใจไม่แข็งแรง .. แต่เดี๋ยวคงดีขึ้น ดีขึ้น และดีขึ้น
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ.. |
|
|
|
|
 |
วรากร
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
15 พ.ย.2005, 11:34 am |
  |
โจทย์สั้นๆ แค่นี้ละ ว่าแต่ทำยังไง ใช้อุบายอะไรดี คือเวลาจิตตกขึ้นมา รู้ทั้งรู้ว่าควรทำอย่างไร แต่ก็พยายามทั้งดึง ทั้งรั้งไว้ แต่ก็ไมวายจิตตก..รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก เบื่อไปหมด ไม่ได้อยากเป็น แต่ก็เป็น.. รบกวนชี้แนะด้วยค่ะ
ตอบ
จิตเป็นสิ่งที่ไม่สามารถบีบ บังคมมันได้ โดยไม่มีการสอนให้เรียนรู้
บางคนเรียนรู้เร็ว บางคนช้า ต่างกันไป อย่ากังวล
เมื่อเรารู้ว่าจิตเราเป็นเช่น ก็อย่าได้บีบ บังคมมัน จงมองเฝ้าดูมันว่ามันอยู่ หรือเป็นอย่างไร
ไม่ต้องสนใจว่า ต้องไม่ให้มันตก ต้องรีบดึงขึ้น
สรรพสิ่งล้วนไม่เที่ยง เมื่อมันมีเกิด ก็ย่อมมีดับเป็นธรรมดาไม่ช้าก็เร็ว
หากเราเข้าใจตรงจุดนี้ หากจิตมันตก ก็ลองตามมองดูว่ามันจะเปลี่ยนไปไหม แต่อย่าได้บีบ บังคับ ว่าต้องภายในวัน เวลา เท่าไร แล้วไม่นาน มันก็ย้ายออกกไปเอง อย่างอื่นก็จะมาแทน
|
|
|
|
|
 |
เฟ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
15 พ.ย.2005, 12:45 pm |
  |
โยนนาฬากาทิ้ง จะได้ไม่เห็นว่าเราคอยนานขนาดไหน
ตอนกลางคืนถ้าเหงามากๆ เราอ่านหนังสือธรรมะ
แต่เคยเป็นหนักๆ กันมั๊ยค่ะ แบบว่าเศร้ามากๆ เบื่อจนไม่อยากทำอะไรเลยคะ ฟุ้งซ่านไปหมด กำลังใจก็ไม่มี ถ้าเข้าขั้นนี้แล้วจะทำยังงัยดีคะ ช่วยตอบที |
|
|
|
|
 |
แวะมาแจม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
15 พ.ย.2005, 1:40 pm |
  |
|
|
 |
ผู้เดินทาง
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
15 พ.ย.2005, 2:00 pm |
  |
มองให้เห็นธรรมดาของความคิดครับ
ไม่มีอะไรแน่นอนคงทนหรอกครับ ป่านนี้ความคิดที่คุณกำลังประสบอยู่หายไปแล้ว และความคิดใหม่ ๆ ก็เกิดมาแทน ความคิดมันเกิดๆ ดับ ๆ ครับ สุดแท้แต่ว่า ไปรับรู้เรื่องอะไรๆ ซึ่งผ่านมา ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ.
ดี, ไม่ดี หรือเฉย ๆ
เราหนีสิ่งเหล่านี้ไม่พ้น
ดีเราก็พอใจติดใจไม่อยากพรากจากสิ่งเหล่านั้น
ไม่ดี ก็เศร้าโศกโทมนัสใจ ฯลฯ
ดูมันครับ ไม่ว่า อะไรจะเกิด แล้วคุณจะเห็นความไม่จีรังของมัน
|
|
|
|
|
 |
ทิคัมพร
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
15 พ.ย.2005, 2:12 pm |
  |
จิตตก ปฎิบัติอย่างไรก็ไม่ได้
พิจารณาธรรมก็ไม่ได้
ทำสมาธิก็ไม่เป็นสมาธิ
ใจไม่สงบตลอด
สวดมนต์ครับ
สวดบทสั้นๆ เข่นนะโม...หรืออิติปิโส
สวดไปเรื่อยๆตลอดทั้งวัน
ใจนึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์
สวดได้เกือบทั้งวัน สามวันจิตจะมีสติดีขึ้นครับ |
|
|
|
|
 |
ลุงรินทร์
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
15 พ.ย.2005, 2:50 pm |
  |
คุณลองคิดถึงตอนที่คุณหัดถีบจักรยานใหม่ดูสิครับ เริ่มต้นนั้นมันช่างยาก ขี่ไปแล้วก็ล้ม เมื่อล้มแล้วถ้าเรามัวแต่ไปร้องไห้คร่ำครวญแล้วไม่มีทางที่จะขี่จักรยานเป็น แต่ถ้าเราจับมันขึ้นมาอีกครั้งแล้วลองหัดขี่อีก ไม่ว่าจะล้มสักกี่ครั้งก็ลุกขึ้นมาสู้กับมันอีกอย่างนี้รับรองถีบจักรยานเป็นอย่างแน่นอน นี้เป็นการเปรียบเทียบ
อดีตนั้น เป็นสิ่งที่ไม่สามารถที่จะแก้ไขได้ต้องปล่อยไป เช่นที่คุณกล่าวว่าจิตล้มนั้นคุณก็ต้องปล่อยไปแล้วเริ่มใหม่กับมัน
เช่น ถ้าคุณพิจารณารูปนามโดยความเป็นของไม่เที่ยงอยู่นั้น เกิดมีเหตุทำให้จิตใจคุณออกนอกทางไป เราก็ควรที่จะเริ่มใหม่ โดยการที่ค่อยๆนำจิตกลับเข้าไปสู่อารมณ์ของการพิจารณาอีกครั้ง
ขอความเจริญในธรรมจงมีแก่teardropsครับ
ลุงรินทร์ |
|
|
|
|
 |
teardrops
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
15 พ.ย.2005, 3:17 pm |
  |
ขอบคุณมากค่ะ .. จะนำคำแนะนำนี้ไปปฎิบัติ แล้วผลเป็นอย่างไร จะรายงานให้ทราบใน MBlog ของผู้จัดการออนไลน์ค่ะ จริงๆ ก็รู้ว่าไร้สาระ แต่ก็เป็นอุบายอย่างหนึ่งที่ใช้เพื่อบรรเทาความไม่สบายใจในปัจจุบัน .. แต่อย่างที่ท่านผู้รู้แนะนำ ตอนนี้ จิตก็เปลี่ยนไป.. เรื่อยๆ ..ก็จะพยายามพิจารณา ให้รู้เท่าทัน.. ไม่รู้จะทำได้ไหม แต่จะลองดูค่ะ..
ขอกุศลที่ทุกท่านได้ชี้แนะข้าพเจ้า จงดลบันดาลให้ทุกท่านมีความสุข .. และสมปรารถนาค่ะ
ขอบคุณอีกครั้ง  |
|
|
|
|
 |
tanawat30
บัวบาน

เข้าร่วม: 15 พ.ย. 2005
ตอบ: 256
|
ตอบเมื่อ:
15 พ.ย.2005, 5:48 pm |
  |
มารู้จักจิตกันสักนิดนะครับ คนที่ปฏิบัติสมาธิภาวนาจนชำนาญแล้ว ทั้งจิตและตัวสามารถบังคับซึ่งกันและกันได้อย่างมีเอกภาพ ทั้งนี้เพื่อถ่วงดุลย์อำนาจระหว่างจิตกับตัว คืออย่าให้ความชั่วเข้าครอบงำได้ ส่วนความเหงาสามารถใช้สมาธิบำบัดได้เช่นกัน เพราะคนที่เซ็งเหงา คือคนที่ไม่รู้จะทำอะไรครับ |
|
|
|
    |
 |
siam
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 01 มี.ค. 2005
ตอบ: 19
|
ตอบเมื่อ:
15 พ.ย.2005, 8:28 pm |
  |
เป็นกำลังใจให้นะครับ |
|
|
|
   |
 |
bigtrees
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
16 พ.ย.2005, 8:45 pm |
  |
เวลาเหงา ให้อยู่กับตัวเอง พยายามโน้มใจเข้ามาพิจารณาหาสาเหตุ
ทำจิต ใจ ความคิด ให้สงบ ด้วยการ ภาวนา หรือ สวดมนต์ หรือจับลมหายใจเข้าออก
คือ หาทุ่นให้ใจมีสิ่งยึด ไม่ส่งใจไปยึดหรือเกาะกับสิ่งต่างๆ พยายามเข้า เมื่อจิตนิ่ง
แล้วจิตจะมีพลัง อยู่กับตัวเองได้ |
|
|
|
|
 |
|