Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 อยากทราบความแตกต่างแห่งความฝันค่ะ ท่านใครทราบความนัย ช่วยตอ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
chanpapha
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 05 เม.ย. 2005
ตอบ: 16

ตอบตอบเมื่อ: 06 ต.ค.2005, 9:10 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยากทราบความแตกต่างแห่งความฝันค่ะ ....ปกติเป็นคนนอนไม่ฝันอะไรเลยค่ะ แต่บางครั้งก็มีฝันบ้าง แต่ส่วนมากจำไม่ค่อยได้ค่ะ เท่าที่สังเกต เวลาฝัน มันจะเหมือนเราเห็นนู่น เห็นนี่ แต่ไม่เห็นตัวเราเอง แต่เราจะรู้ว่าเราอยู่ ณ ที่แห่งนั้นด้วย ลักษณะ คล้ายๆกับเรานั่งอยู่ในโรงหนังดูภาพยนต์อย่างนั้นละค่ะ เรารู้ว่าตัวเรานั่งอยู่ และ เห็นเหตุการณ์ต่างๆผ่านจอภาพยนต์ แต่ช่วงหลัง หลังจากที่ปฏิบัติธรรมมาได้ระยะหนึ่ง เมื่อเร็วๆนี้ เราฝันอีกแบบหนึ่ง คือรู้สึกตัวอยู่ตลอด ความรู้สึกตื่นเต้น เย็น ร้อน นี่รู้สึกหมด เหมือนตัวเองเป็นผู้แสดงหนังแทนที่จะเป็นผู้ดูเหมือนเดิมค่ะ ความแตกต่างแห่งลักษณะ ความฝันแบบนี้บอกสภาวะจิตอย่างไรรึเปล่าค่ะ ทราบทราบมากๆค่ะ รบกวนท่านผู้รู้ช่วยตอบด้วยค่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 08 ต.ค.2005, 10:35 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบสวัสดีคุณchanpapha



ความฝัน คืออารมณ์ที่ธรรมชาติสร้างมาเพื่อบูรณะความต้องการของคน ถ้าคนเราไม่ฝัน ก็จะมีความทุกข์มากกว่านี้ เหตุที่จะทำให้เกิดความฝัน มี 4 อย่างคือ



1. เพราะจิตคิดหยั่งถึงอดีต

2. เพราะจิตพะวงถึงเรื่องต่างๆ ทั้งอนาคตและปัจจุบัน

3. เพราะธาตุขันธ์ สังขารร่างกายไม่ดี ธาตุกำเริบ

4. เพราะเทวดาบันดาล (อือม..อันนี้คงว่าตามศรัทธา ความเชื่อไปก่อน)



ครูบาอาจารย์บางท่านได้ยึดเอานิมิตจากความฝันมาเป็นผู้นำ คือ ในระยะที่ร่างกายปกติไม่มีเวทนาใดๆในเรื่องสังขารร่างกาย และจิตใจก็สบายหายกังวลกับอารมณ์ต่างๆ จิตมันก็ว่าง วางเข้าสู่ทางแห่งความฝัน เอาความฝันมาเป็นผู้สอน ลองพิจารณาดูซิว่าที่ผ่านๆมาหากเรามีแต่ฝันดีตลอด จิตใจเราจะแจ่มใส ร่าเริง เบิกบาน กับอารมณ์ของนิมิตที่ประสบมาจากจิต จิตใจไม่มีทุกข์ ไม่คลุกอยู่กับเรื่องเก่าๆที่วุ่นวายกับหลายๆเรื่องที่ผ่านมา



ทำให้จิตหรรษา ร่าเริงเบิกบาน สังขารก็คลายเครียด ระบบประสาทที่ละเอียดของมันสมองมันจะส่งของดี คือสารสุขที่เรียกว่า ธาตุBeta endorphin อันเป็นฮอร์โมนที่มีประโยชน์ต่อระบบประสาท เข้าไปเลี้ยงสมองให้มากขึ้น และก็จะส่งสารสุขดังกล่าวไปเลี้ยงให้ทั่วสรรพางค์กาย



ก็เหมือนการฝึกฝนทางสมาธิจิต ในอิริยาบทต่างๆ ไม่ว่า ยืน เดิน นั่ง นอน เมื่อกำหนดสติในการนอน จิตมันรวมง่าย เพราะเป็นอิริยาบทที่สบาย เมื่อกายวิเวกสงบกาย จิตก็สงบไปด้วยเรียกจิตวิเวกสงบจิต และอุปธิวิเวกคือ จิตไม่ยึดติดอะไรทั้งนั้น มันวางว่างอยู่ในภาวะคืออยู่ระหว่างครึ่งฝันครึ่งตื่น สันตติคือการสืบต่อของจิตวิญญาณมันจะเกิดความรู้สึกว่าได้ลอยละล่องออกไปอย่างช้าๆ พาให้ได้รับรู้ รับเห็นเป็นฝันนั่นเอง ซึ่งจะรู้จะเห็นตามอารมณ์ของจิตวิเวกและอุปธิวิเวกชั่วขณะเท่านั้น



เจริญในธรรม



มณี ปัทมะ ตารา
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
chanpapha
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 05 เม.ย. 2005
ตอบ: 16

ตอบตอบเมื่อ: 09 ต.ค.2005, 1:02 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบขอบพระคุณคุณปุ๋ยมากนะค่ะที่ให้ความกระจ่างเรื่องความฝัน ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะค่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง