Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 บทความแนะนำ1การใช้เวลากับการใช้เงิน อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
BLUESKY
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 ต.ค.2005, 12:50 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ลูกถามพ่อว่า "จะใช้เวลาอย่างไร" พ่อขอตอบว่าการใช้เวลาก็เหมือนกับการใช้เงินนั่นแหละ ถ้ารู้วิธีใช้เงินก็จะรู้วิธีใช้เวลา เงินกับเวลาสำหรับคนที่รู้จักใช้กับคนที่ไม่รู้จักใช้จะมีผลแตกต่างกันมาก คนที่รู้จักจัดการกับเงินจะสามารถใช้เงินที่มีอยู่จำกัดไปซื้อของที่จำเป็นหรือเอาเงินไปทำให้เกิดดอกผลงอกเงยขึ้นมาอีก ส่วนคนที่ไม่รู้จักจัดการกับเงินทอง อาจจะเอาไปใช้โดยไม่มีการวางแผน ซื้อโน่นซื้อนี่ ได้ของมาเยอะแยะแต่ของที่จำเป็นกลับไม่ได้ซื้อ ซื้อแต่ของที่ไม่ได้ใช้ ในทำนองเดียวกัน คนที่รู้จักใช้เวลา รู้วิธีจัดสรรเวลา รู้ว่าเรื่องไหนเร่งด่วน เรื่องไหนรอได้ ผลที่สุดก็ทำในสิ่งที่อยากทำได้สำเร็จและยังมีเวลาเหลืออีก แต่คนที่ไม่รู้จักใช้เวลา เดี๋ยวก็ไปทำโน่น เดี๋ยวก็ไปทำนี่ เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เวลาที่สูญเปล่ามีมากกว่าที่เอามาใช้จริงๆ เวลาที่หมดไปกับการโอ้เอ้ลังเลใจมีมากกว่าที่เอามาตัดสินใจ จึงไม่เคยมีเวลาพอ และก็ไม่มีวันทำงานให้สำเร็จได้ พูดอย่างนี้บางทีลูกอาจไม่เข้าใจ งั้นพ่อจะยกตัวอย่างให้ฟัง สมมุติว่าวันนี้พ่อเอาเงินให้ลูกสองสามพันดอลลาร์ ให้ออกไปใช้ชีวิตตามลำพัง ลูกจะเอาเงินนี้ไปทำอะไรบ้างล่ะ คงจะไม่เอาไปซื้อคอมพิวเตอร์หรือเอาไปดูหนังดูละครก่อน แต่คงจะเอาไปหาที่อยู่ ซื้อเสื้อผ้าอาหารแล้วเอาไปจ่ายค่าเรียนจิปาถะ จากนั้นจึงค่อยนึกถึงโทรทัศน์และการบันเทิงอย่างอื่น จริงไหม ถ้าลูกเอารายจ่ายมาทำบัญชีไว้ จะเห็นว่ามีรายจ่ายที่เป็นเงินก้อนใหญ่มีรายจ่ายเล็กๆน้อยๆ มีรายจ่ายที่จำเป็นต้องใช้ก่อนและรายจ่ายที่ไม่จำเป็นไว้ใช้ทีหลังก็ได้ เหตุผลทำนองเดียวกัน ตอนนี้มีเวลาที่พระเจ้ามอบให้ลูก ลูกคงไม่เอาไปเล่นเกมหรือดูหนังก่อน และก็คงไม่เอาไปจัดอัลบั้มภาพถ่าย อ่านนวนิยายหรือคิดอะไรเรื่อยเปื่อย แต่ควรจะจัดเวลานอน เวลาเรียน เวลาอ่านหนังสือและเรียนรู้อย่างอื่น เพราะหากนอนไม่พอ สภาพร่างกายก็คงไม่ไหว ถ้าไม่จัดเวลาเดินทางก็คงไปโรงเรียนไม่ทัน เรื่องการเรียนการอ่านถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับลูกในช่วงนี้ แน่นอน นอกจากนี้แล้วลูกยังต้องกิน ต้องคบเพื่อน ต้องมีเวลาพักผ่อนหย่อนใจ และต้องจัดการกับเรื่องจิปาถะในชีวิตประจำวัน ในการจัดสรรทั้งหมดนี้ต้องแบ่งเวลาให้กับเรื่องแรกๆเป็นส่วนใหญ่ ส่วนเรื่องหลังๆใช้เวลาเป็นส่วนน้อย ทำไมพ่อถึงเน้นการจัดสรรเป็นพิเศษ คำตอบง่ายๆก็คือ ถ้ามีเงินก้อนใหญ่ ลูกคงคิดถึงของที่แพงหน่อย ตรงกันข้าม ถ้ามีเงินน้อยก็ซื้อแต่ของเล็กๆ คนที่มีเงินมากแต่ซื้อของเล็ก ไม่ซื้อบ้าน ไม่ซื้อรถ อย่างนี้ไม่นับว่ารู้จักใช้เงิน ทำนองเดียวกัน ถ้าเอาเวลามาทำเรื่องเล็กน้อยหxxx็ไม่นับว่ารู้จักใช้เวลา ควรจะเอาเวลาส่วนใหญ่ไปใช้ทำงานใหญ่ และเอาเวลาเล็กๆน้อยมาทำเรื่องจิปาถะ TO BE CONTINUE
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง