Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ควรแก้ยังไงดี
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ทรมาน
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 16 ก.ย. 2005, 7:05 pm
เป็นคนขี้อาย มากจนทำอะไรไม่ค่อยถนัดใจ ขี้กังวล กระวนกระวายใจลึกๆอยู่ตลอดเวลา เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็ก จนป่านนี้อายุ27แล้ว ทีแรกตอนรู้ว่าเป็นอย่างนี้ก็พยายามจะแก้ไขแต่ก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรปล่อยมาเรื่อยๆ จนทุกวันนี้กลายเป็นคนไม่ค่อยอยากสังคมกับใคร ไม่อยากเป็นอย่างนี้อึกต่อไปแล้ว มันอึดอัดและทรมานมาก มันเหมือนอยู่คนเดียวในโลกจริงๆ ไม่รู้ว่าจะทนกับสภาพนี้ได้อีกแค่ไหน กรุณาช่วยแนะนำด้วย
bingo
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 16 ก.ย. 2005, 7:57 pm
เคยตกอยู่ในสภาพคล้ายๆกันค่ะ มันเป็นความร้อนรุ่มอยู่ข้างในและกระวนกระวาย มีคำพูดมากมายอยู่ในหัว ...
สำหรับตัวเองนะคะ ใช้วิธีนี้แล้วได้ผลค่ะ
ตอนแรก คือ ไม่ต้องพยายามหลบความคิดนะคะ แค่ทำตัวรู้อยู่ เช่น ถ้ามีความคิดมากๆ (รวมถึงความรู้สึกกระวนกระวายอื่นๆด้วย) ไม่ไปหลบว่า ไม่อยากคิดแล้ว อยากจะหนีแล้ว ทำนองนั้น เพียงแต่รู้สึกว่า อ๋อ... มันมีความคิดขึ้นมา มันมีความรู้สึกประหม่า กระวนกระวายใจอยู่
ต่อมา ก็แผ่เมตตาค่ะ .. ขอให้เป็นสุข ขอให้ตนเองมีความสุขค่ะ โดยใส่ใจไปที่กลางหน้าอกบริเวณลิ้นปี่ค่ะ (อาจมีความรู้สึกเต้นตุ้บๆอยู่ สังเกตตรงนั้นล่ะค่ะ) แล้วก็บอกเข้าไปข้างในว่า ให้เป็นสุขๆ
ทำไปเรื่อยๆ เนืองๆค่ะ
ซักพักนึง ก็จะเห็นว่า เอ... อาการนี้มันเป็นแค่ความคิดที่วนไปวนมา เหมือนดูหนังเลย เสียงที่เราเหมือนกับพูดกับตัวเอง ... มันก็หายไปเป็นธรรมดา เดี๋ยวมา เดี๋ยวหาย ... ส่วนอาการที่รู้สึกเหมือนร้อนรุ่มอยู่ มันก็จะวนๆ อยู่แถวหน้าอกเรา มันเป็นแค่คลื่นความร้อนที่วนๆอยู่ก็แค่นั้นเองค่ะ ...
ทำบ่อยๆนะคะ จากที่ใช้เวลานานมาก กว่ามันจะรู้สึกตัวได้ทัน ก็จะเร็วขึ้นเรื่อยๆนะคะ
ปิงปอง ม.ราม
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 18 ก.ย. 2005, 6:26 pm
ผมรู้สึกเห็นใจคุณมาก อยากให้คุณได้ลองอ่านหนังสือเรื่อง คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก ของบริษัทซีเอ็ด เพราะหนังสือเล่มนี้จะพูดถึงเทคนิคในการคิด ผมนำมาใช้ก็ได้ผล เมื่อก่อนผมก็เป็นคนไม่มีความมั่นใจในตนเองมีเพื่อนน้อยมากแต่พอได้เปลี่ยนวิธีคิดและทัศนคติแล้ว วิถีชีวิตก็เปลี่ยนไปปัจจุบันเป็นคนที่ชอบเข้าสังคมมีเพื่อนมากมายทั้งผู้หญิงและผู้ชายก็เพราะหนังสือเล่มนี้แหละครับ ลองให้คุณมองคนอื่นในภาพที่เท่าเทียมกับเรา หมายความว่าไม่ต้องคิดว่าคนอื่นสูงกว่าหรือต่ำกว่าเราให้คิดว่าเท่าเทียมกันเพราะไม่ว่าคนอื่นจะมีตำแหน่งหรือฐานะยังไงเขาก็เป็นคนๆหนึ่งที่มีกิเลส ต้องการความสุข อยากมีเพื่อนชอบกินอาหารอร่อยๆ อยากไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจเหมือนกับเราหรือคนทั่วไป ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องไปกลัวเขา ให้คิดว่าเขาเป็นคนสำคัญ แต่เราก็เป็นคนสำคัญเช่นเดียวกัน จะว่าไปทักษะทางสังคมหรือมนุษยสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาสั่งสมประสปการณ์แต่นานไปคุณจะทำได้เป็นอย่างดีเหมือนการขี่จักรยานตอนแรกอาจจะล้มบ้างชนบ้างแต่พอฝึกบ่อยๆ คุณก็จะขี่ได้คล่อง ขอให้คุณสามารถเปลี่ยนชีวิตของคุณให้มีความสุขขึ้นไม่มีอะไรยากเกินไปถ้าเราตั้งใจ
อ
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 29 ก.ย. 2005, 4:48 pm
ความขี้อายเกิดจากกรรมเวรอย่างหนึ่ง ไม่ควรรักษากับนักจิตวิทยา แต่ควรทำบุญให้มาก เมื่อทำบุญมากพอแล้วความขี้อายก็ค่อยๆหมดไปเอง และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขด้วยบุญนั้น
อย่างที่คุณบิงโกเป็นและแก้ไขเช่นนั้นเป็นวิธีที่ถูกต้อง
ป้าพร
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 29 ก.ย. 2005, 5:09 pm
เรื่องอายเป็นธรรมชาติของหญิงทุกคนแหละลูก แต่ชาวเอเซียมักจะเป็นมากกว่าทวีปอื่น อาจเป็นเพราะเราถูกสั่งสมด้วยวัฒนธรรมและศาสนาที่มีแต่ความสงบ เย็น แต่ปัจจุบันหญิงต้องออกทำงานพบปะผู้คนเข้าสมาคมมากขึ้น ความอายบางครั้งก็ทำให้เราเสียบุคลิกภาพไป วิธีแก้ขั้นต้นอยู่ที่ตัวเราก่อน ต้องมีความมั่นใจในตนเอง ไม่ว่าจะพูด เดิน ยืนต่อหน้าผู้คน ต้องคิดเสมอว่าเรามีดีกล้าที่จะเดินผ่านกลุ่มคนโดยไม่ก้มหน้า ทำสัก 3-4 ครั้ง จะรู้สึกดีขึ้น หัดแสดงออกเล็ก ๆ เช่น ยืนพูดต่อหน้ากลุ่มเพื่อนที่นั่งอยู่ ทำบ่อย ๆ ต่อไปจะเริ่มพัฒนาเช่นกล้าที่จะร้องเพลงกับกลุ่มเพื่อนก่อน ต่อไปก็ร้องคนเดียวให้เพื่อนฟังบ้าง แต่อย่ากล้าเกินไปจนลืมอายนะลูก เพราะป้าว่าความอายหากมีอยู่กับใครบ้าง ก็คงทำให้สังคมนี้ดีขึ้นบ้างแหละ..
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th