Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ถนอมตาหน้าคอมฯ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 07 ก.ย. 2005, 2:17 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

จักษุแพทย์รัตนิน เผยเคล็ดลับการถนอมดวงตาระหว่างใช้คอมพิวเตอร์



จักษุแพทย์จากโรงพยาบาลจักษุ รัตนินแนะวิธีดูแลดวงตาระหว่างใช้คอมพิวเตอร์ ควรกะพริบตาให้บ่อยขึ้น และจัดวางหน้าจอคอมพิวเตอร์ในตำแหน่งที่เหมาะสม ระยะห่าง 20-28 นิ้ว และให้ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 4-9 นิ้ว ขณะที่แสงสว่าง ต้องไม่จ้าจนเกินไป พร้อมแนะให้ลุกยืดเส้นยืดสายทุกชั่วโมง เสริมด้วยการตรวจเช็คสายตาทุกปี



แพทย์หญิงภัทรมน บรรณประดิษฐ์ จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านกระจกตาและการผ่าตัดแก้ไขสายตา โรงพยาบาลจักษุ รัตนิน แนะนำว่า "ปัจจุบันกลุ่มอาการทางสายตาที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์มีเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการใช้คอมพิวเตอร์อย่างแพร่หลายในสำนักงานต่างๆ จากสถิติพบว่าผู้ใช้คอมพิวเตอร์จำนวนมากกว่า 50% มีอาการทางสายตา ได้แก่ ปวดตา ตามัว ตาแห้ง สายตาล้า และปวดศีรษะ รวมทั้งมีอาการอื่นๆ เช่น ปวดเมื่อยคอและหลัง โดยอาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นกับผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์มากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน และผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ตัวแปรที่ก่อให้เกิดอาการดังกล่าวมีหลายประการ เช่น ภาวะตาแห้ง ความผิดปกติของสายตาและค่าสายตา ความสามารถในการเพ่ง แว่นตาที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ ชนิดของคอมพิวเตอร์ แสงสะท้อนจากคอมพิวเตอร์ ความสว่างของห้อง ท่านั่งขณะใช้คอมพิวเตอร์ เป็นต้น"



"ภาวะตาแห้งเกิดจากผู้ใช้คอมพิวเตอร์กะพริบตาน้อยลง เนื่องจากมีสมาธิขณะทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ ทำให้อัตราการกะพริบตาลดลงจาก 20-22 ครั้งต่อนาที เหลือเพียง 6-8 ครั้งต่อนาทีเท่านั้น ทั้งนี้การแก้ไขอาการนี้ ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ต้องกะพริบตาถี่ขึ้น ปรับความสูงของจอคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม โดยระยะห่างระหว่างจอภาพและผู้ใช้คอมพิวเตอร์ ควรอยู่ระหว่าง 20-28 นิ้ว ระดับจอภาพ จุดศูนย์กลางของคอมพิวเตอร์ควรอยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 4-9 นิ้ว ไม่ควรอยู่สูงหรือต่ำเกินไป ควรอยู่ตรงด้านหน้าของผู้ใช้ นอกจากนี้อาจใช้น้ำตาเทียมหยอดตา เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ดวงตา" แพทย์หญิงภัทรมน กล่าวเพิ่มเติม



สำหรับการเลือกแว่นตาที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ แพทย์หญิงภัทรมนแนะนำว่าควรเลือกใช้เลนส์สีชมพูอ่อนที่ช่วยให้สบายตาภายใต้แสงจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ โดยในการเลือกแว่นตานั้นควรวัดที่ระยะ 50-70 ซม. ส่วนมองใกล้สำหรับมองทำมุม 10-20 องศา ซึ่งค่ากำลังของเลนส์ดังกล่าว มีความแตกต่างจากเลนส์อ่านหนังสือหรือมองใกล้ทั่วไป และเพื่อลดแสงสะท้อนจากจอภาพ



จักษุแพทย์แนะนำว่าหากในสำนักงานมีแสงสว่างมากเกินไป ควรปิดหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์บางส่วน ปรับมูลี่หน้าต่างเพื่อปรับไม่ให้แสงตกกระทบจอคอมพิวเตอร์โดยตรง และใช้แผ่นลดแสงสะท้อนจากคอมพิวเตอร์ ซึ่งทำจากวัสดุต่างกัน เช่น ผ้าตาข่าย หรือกระจกซึ่งช่วยให้มองเห็นตัวอักษรได้ดีกว่า หรือปรับการเลือกใช้ขนาดของตัวอักษรที่ใหญ่พอและปรับความเข้มของตัวอักษรให้เข้มขึ้น โดยสังเกตได้จากการที่ยังสามารถอ่านตัวอักษรขนาดดังกล่าวได้ที่ระยะห่างเป็น 3 เท่าของระยะทำงาน เลือกใช้จอคอมพิวเตอร์ชนิด LCD (จอแบน) ซึ่งจะช่วยถนอมสายตาได้ดีกว่าจอคอมพิวเตอร์แบบเก่า (CRT)



สำหรับการวางตำแหน่งคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้ควรจัดให้บริเวณหน้าต่างอยู่ด้านข้างของโต๊ะทำงาน เพื่อป้องกันไม่ให้แสงตกสะท้อนจอคอมพิวเตอร์ ทำให้มองเห็นไม่ชัด ไม่สบายตา นอกจากนั้นควรหลีกเลี่ยงเฟอร์นิเจอร์ที่มีผิวสะท้อน รวมทั้งใช้ฉากกั้นเพื่อลดปริมาณแสง ควรจัดวางคีย์บอรด์และเม้าส์ต่ำกว่าระดับข้อศอก พร้อมปรับความสูงของเก้าอี้ให้เหมาะสม มุมตรงเข่ากับเก้าอี้ควรมากกว่า 90 องศา เก้าอี้ที่ดีควรมีที่พักแขน นอกจากนี้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ควรเปลี่ยนอิริยาบถ หรือลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายทุกๆ ชั่วโมง เพื่อพักสายตาและป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดเมื่อยเมื่อต้องใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานาน



"นอกจากนี้บุคคลทั่วไปควรตรวจสายตาปีละหนึ่งครั้ง เพื่อวัดความดันตา ดูประสาทตา และตรวจเช็คความผิดปกติของสายตาเสียแต่เนิ่นๆ เนื่องจากโรคตาบางอย่างไม่แสดงอาการจนกว่าโรคจะถึงขั้นรุนแรง หากตรวจพบโรคตาบางโรคและได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จะช่วยป้องกันการสูญเสียสายตาได้" แพทย์หญิงภัทรมนกล่าวสรุป



ข้อมูลจาก...หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.com/column/health/2004/03/22.php





 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
เต๊ะ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 07 ก.ย. 2005, 7:04 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณครับ
 
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 07 ก.ย. 2005, 1:15 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณครับ

ช่วงนี้ปวดตาอยู่พอดีเลย ดีที่มีกระจกกรองแสงชั้นหนึ่ง ก็พอช่วยลดแสงที่มากระทบให้น้อยลง

 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
หนูนิด
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 07 ก.ย. 2005, 5:03 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สวัสดีค่ะคุณลูกโป่ง....



ขอบคุณค่ะ ที่แท้วันนี้มาโปรดอยู่นี่เองน่ะคะ



ตอนนี้ดิฉันก็เริ่มมีปัญหากับตาในการเพ็งคอมฯแล้วหละค่ะ

ก็เลยต้องกระพริบตา และหลับตาบ่อยขึ้นค่ะ
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง