Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ปล่อยวาง...โดย รินใจ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2005, 11:33 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พจน์นั่งอยู่ในร้านกาแฟชื่อดัง

แต่แทนที่จะมีความสุขกับคาปูชิโนรสโปรด กลับมีสีหน้าขุ่นเคือง

ไม่เสบยเอาเสียเลย

เพื่อนคนหนึ่งเผอิญเดินเข้าไปในร้าน

เห็นอาการของสุพจน์แล้ว แปลกใจจึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น

"ก็เจ้าพนักงานเก็บเงินที่เคาน์เตอร์น่ะสิ" สุพจน์ตอบ " ดูสายตาของมันสิ"

"ทำไมเหรอ เขาก็ดูปกติดีนี่" เพื่อนว่า

"แกไม่รู้อะไร มันรังเกียจคนอีสาน ดูมันมองฉันสิ "

"เพิ่งรู้ว่าแกเป็นคนอีสาน"

"ใครว่า หน้าตาฉันแค่เหมือนอีสาน แต่ฉันเป็นคนกรุงเทพ ฯ ทั้งแท่ง"



ถ้าคุณเป็นเพื่อนของสุพจน์ คงอดงงงวยไม่ได้

พนักงานคนนั้นดูถูกคนอีสานจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้

แต่ถึงจะจริง สุพจน์ก็ไม่น่าจะไปหัวเสีย

ก็ในเมื่อตัวเองไม่ได้เป็นอีสานสักหน่อย จะไปเดือดร้อนทำไม

ถ้าจะทุกข์ร้อนแทนคนอีสานก็ว่าไปอย่าง

แต่นี่กลับไปรับสมอ้างว่าเป็นคนอีสาน แล้วก็เลยทุกข์เสียเอง



ฟังเรื่องของสุพจน์แล้ว ใคร ๆ ก็ต้องบอกว่าเขาหาเรื่องใส่ตัวแท้ ๆ อยู่ดีไม่ว่าดี

แต่เอ๊ะ บ่อยครั้งเราก็เป็นอย่างนั้นไม่ใช่หรือ เวลาคนอื่นเข้าใจผิดคิดเราว่าคดโกง

ไม่รับผิดชอบ เห็นแก่ตัว ฯลฯ

ทำไมเราถึงโกรธในเมื่อเราก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดสักหน่อย

เหตุใดเราถึงไปรับสมอ้างว่าเป็นอย่างเขาว่า



ลองคิดดูว่าวันหนึ่ง ๆ เราเป็นทุกข์เพราะไปรับสมอ้างในเรื่องที่เราไม่ได้เป็น

กี่สิบกี่ร้อยครั้ง ใหม่ ๆ ก็รับสมอ้างด้วยความเผลอ

แต่ในที่สุดก็อาจปักใจเชื่อว่าตัวเองแย่อย่างที่เขาว่าจริง ๆ

ไม่มีอะไรที่แย่กว่านี้อีกแล้ว



มีเหมือนกันที่บางครั้งเรารู้ดีว่าตัวไม่ได้เป็นอย่างที่เขาว่า

แต่ก็ยังทุกข์อยู่ ถามว่าเป็นเพราะอะไร

คำตอบก็คือ เราทนไม่ได้ที่เขาเห็นเราแย่

เราเป็นอย่างไรก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าคนอื่นเห็นเราอย่างไร

"เป็น" กับ "เห็น"นั้นต่างกันมาก

แต่บ่อยครั้งเรากลับให้ค่ากับความเห็นหรือสายตาของคนอื่น ยิ่งกว่าสิ่งที่เราเป็นอยู่จริง ๆ



นี้คือปัญหาของตัวตนที่ครอบงำใจเรา

ตัวตนหรืออัตตานั้นปรารถนาการพะเน้าพะนอ

ไม่มีอะไรที่ทำให้มันพองโตเท่ากับคำยกย่องสรรเสริญหรือการพินอบพิเทา

เมื่อมีคนชื่นชม เราไม่ค่อยสนใจเหตุผลของเขามากเท่ากับคำว่า "คุณเก่ง"

หรือ "คุณสวย"



ในทำนองเดียวกันเมื่อมีคนตำหนิ

เหตุผลของเขามีความหมายต่อเราน้อยกว่าคำว่า "เธอแย่" หรือ "เธอขี้เหร่"

ตัวตนใหญ่โตเท่าไหร่ ก็เจ็บมากเท่านั้น

เพราะรับเอาแรงกระแทกไปเต็ม ๆ ทั้ง ๆ ที่หลบได้ แต่ไม่หลบ

เพราะไปยึดถือเอาคำต่อว่านั้นมาเป็น "ของฉัน" หรือ "ของกู"

ที่จริงเหตุผลของเขาอาจจะดี แต่พอไปคิดแค่ว่า "เขาว่าฉัน ๆๆ"

ก็เลยได้แต่ฟูมฟาย ไม่เอาเหตุผลของเขามาพิจารณาว่าถูกต้องหรือไม่



เป็นธรรมดาของตัวตนที่ชอบยึดถือสิ่งต่าง ๆ ว่าเป็น "ของฉัน"

เช่น บ้านของฉัน แฟนของฉัน ชื่อเสียงของฉัน

ปัญหาก็คือ พอยึดจนเคยตัวแล้ว ของไม่ดีก็ยึดว่าเป็นของฉันด้วย

ผลก็คือแบกเอาคำตำหนิติเตียนมาไว้ในใจทั้งวันทั้งคืน

จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ จะวางก็วางไม่เป็น เพราะยึดไว้เป็นนิสัยเสียแล้ว



พอยึดถือหนักเข้า ทีนี้อะไรที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แม้ไม่เกี่ยวข้องกับตัว

ก็ไปยึดไปแบกเอาไว้จนเป็นทุกข์

เพียงแค่มีเสียงดังเท่านั้น ก็ไปคว้าเอาเสียงนั้นมาเล่นงานตัวเอง

เสร็จแล้วก็ไปต่อว่าเจ้าของเสียงนั้น แทนที่จะหันมาดูจิตใจของตัวเอง



คราวหนึ่งหลวงปู่บุดดา ถาวโรได้รับนิมนต์ไปฉันเพลที่บ้านโยมในกรุงเทพ ฯ

เมื่อฉันเสร็จโยมก็นิมนต์ให้ท่านเอนกายพักผ่อนก่อนเดินทางกลับวัดที่สิงห์บุรี

ระหว่างที่ท่านพัก ก็มีเสียงเกี๊ยะดังมาจากข้างบ้านซึ่งเป็นร้านขายของ

ศิษย์คนหนึ่งซึ่งอุปัฏฐากท่านอยู่ก็บ่นขึ้นมาดัง ๆ ว่า "แหม เดินเสียงดังเชียว"



หลวงปู่แม้จะหลับตาอยู่ แต่ก็รับรู้ตลอด

จึงพูดขึ้นมาเบา ๆ ว่า "เขาเดินของเขาอยู่ดี ๆ เราเอาหูไปรองเกี๊ยะเขาเอง"



ไม่ใช่หูเท่านั้น แต่ตาของเราก็ชอบหาเรื่องไม่ใช่ย่อย

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะใจของเรานั่นเองที่ชอบเผลอไปยึดไปแบก

อย่างไม่รู้จักหยุดหย่อน ปล่อยวางเสียบ้าง แล้วอะไรต่ออะไรจะดีเอง


http://budpage.com/ba133.shtml





 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
คนจร
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 20 ส.ค. 2005, 1:33 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดีนี่
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง