Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 มาช่วยกันโหวตค้านการขยายตัวของน้ำเมาหน่อยนะครับ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 08 ส.ค. 2005, 11:27 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

http://www.dailynews.co.th/



สำหรับท่านที่มุ่งสู่นิพพานโดยตรง อาจคิดว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็น แต่จริงๆแล้วจำเป็นมากครับ เพราะถ้าเรายังต้องเกิดอีก ยังไม่ไปนิพพาน อานิสงส์ที่ช่วยขัดขวางอบายมุข จะทำให้เราไปเกิดในที่ๆ ห่างไกลคนพาล ห่างไกลอบายมุข สนับสนันให้เราปฏิบัติธรรมเข้าสู่นิพพานได้โดยง่ายครับ
 
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 14 ส.ค. 2005, 5:40 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตอนนี้ผลโหวตจากคะแนนเสียง 460,000 เสียง มีผู้ไม่เห็นด้วยถึง 86% และเห็นด้วยเพียง 14% นับว่า คนไทยยังมีพื้นฐานคุณธรรมดีอยู่มากครับ อีกทั้งวันแม่ที่ผ่านมา ก็มีผู้กระทำความดีเพื่อแม่ เช่น พาไปทานข้าว นำดอกมะลิไปกราบ พาไปเที่ยว พาไปตรวจเช็คสุขภาพ ฯลฯ กันอย่างมากมาย น่าอนุโมทนา แต่ก็ยังมีข่าวจากผู้จัดการออนไลน์ ซึ่งเกิดเห็นในวันแม่เสียด้วย คือ มีxxxหนุ่ม เมาแล้วเตะแม่ครับ เนื่องจาก แม่ไปตักเตือนว่าให้เลิกดื่มเหล้า เจ้าหนุ่มกำลังเมาๆ ก็หวดแม่ด้วยลำแข้งซะเลย ปรากฏว่าบทลงโทษเบามากครับ คือ ตำรวจก็ตักเตือนว่า ต่อไปอย่าทำอีก แล้วปรับด้วยเงิน 200 บาท

ดังนั้น ถ้ากฏหมายยังอ่อนแอแบบนี้ เราต้องช่วยกัน อย่าให้น้ำเมาขยายตัวนะครับ เพื่อสังคมไทยที่ดีงามต่อไป และจะย้อนมาเป็นบรรยากาศที่สนับสนุนการปฏิบัติธรรมต่อไปเช่นเดียวกัน

 
จิ๊กโก๋ อารามDog
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 16 ส.ค. 2005, 12:36 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

๐/ มหา 5ขัน มาแว้วว!!!



ใช่เลย! มหาจำลอง ยอดนักการตลาดฝ่าย เทพ



เหนียวแน่นจริงๆ สำหรับพลพรรคไม่เอาน้ำเมา โดยการนำของเจ้าประจำอย่าง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เพราะจนถึงวันนี้ก็ยังคงยืนกรานคัดค้านการนำธุรกิจเบียร์ช้างของ เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชนิดที่ถ้าเอาหัวชนฝา คงจะหัวร้างข้างแตก เลือดอาบกันไปหลายรายแล้ว



ด้วยแรงกดดันของพลังคัดค้านดังกล่าว ทำนองไม่ปล่อยให้อ้อยเข้าปากช้างกันได้ง่ายๆ ทั้งมวลนั้น ต้องยกเครดิตให้เป็นของมหา 5 ขัน ที่นับว่าแม้ไม่ใช้นักการตลาดมือฉมัง มีดีกรีหลักสูตร MBA จากสถาบันชั้นนำทั้งหลายอย่างใครเขา



และหากจะตั้งคอนเซปท์ของปฏิบัติการครั้งนี้แบบเอาใจมวลชน ก็จะเรียกว่า การต่อสู้ระหว่าง ธรรมะ กับ อธรรม เพียงเท่านี้ ก็เรียกเสียงเชียร์จากประชาชนคนไทย ทั้ง คริสต์ พุทธ มุสลิม ฯลฯ ได้ไม่น้อย



ธรรมะ คือผู้ที่มาในนามของ มูลนิธิกองทัพธรรม ทำการคัดค้านธุรกิจที่ผลิตสุราและของมึนเมา อันเป็นหนึ่งในศีล 5 ข้อที่ควรหลีกเลี่ยง หรือ หนึ่งใน วณิชชสูตร อันอุบาสกไม่พึงกระทำ 5 ประการ ประกอบด้วย ค้าขายศาสตรา, ค้าขายสัตว์, ค้าขายเนื้อสัตว์, ค้าขายยาพิษ และค้าขายน้ำเมา



ญาติธรรมทั้งหมด ประกอบไปด้วย 3 กลุ่มหลักอย่าง 1.เครือข่ายสันติอโศก ด้วยความสัมพันธ์ที่เจ้าสำนักสันติอโศก-พระสมณะโพธิรักษ์มีศิษย์ก้นกุฏิ ชื่อว่า จำลอง 2.สานุศิษย์จากวัดพระธรรมกาย จิตตภาวันวิทยาลัย รวมถึงพระสงฆ์จากวัดต่างๆ บรรดาผู้นำศาสนาคริสต์ อิสลาม และ 3.เครือข่ายขององค์กรต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจาก สสส.-สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ



ซึ่งเครือข่าย 3 กลุ่มดังว่าคงไม่ต้องพูดถึงที่มาที่ไป หรือเบื้องหลังการคัดค้าน เพราะเพียงเท่านี้ก็จะชัดเจนแล้วถึง กำลังภายใน ของอดีตนายทหาร จปร.รุ่น 7 ที่เคยเป็นพ่อเมือง กทม. 2 สมัยซ้อน และเป็นผู้ที่เคยใช้วิธีการหาเสียงแบบการตลาดจ๋า แต่ เนียน ไร้ร่องรอยจนได้คะแนนถล่มทลายมาแล้วด้วยการสวมเสื้อม่อฮ่อมชูฝาเข่งหาเสียง ต่อต้านทุนนิยม ส่งเสริมอนุรักษนิยม กินน้อยใช้ประหยัด ถือมังสวิรัติ อาบน้ำไม่ใช้สบู่ครั้งละ 5 ขัน ถือศีล 8 นอนบนไม้กระดานแผ่นเดียว และประกาศว่าตนเป็นศาสนิกชนที่เคร่งครัด



ล่าสุด มหาจำลองมีทีเด็ดออกมาในหน้าสื่อสิ่งพิมพ์ชนิดเต็มหน้ากระดาษ เรียกว่าทั้ง Below the Line กับ Above the Line ท่านมหาแกงัดมาใช้กันจนหมด





ว่ากันว่า งบมหาศาลที่มหานำมาใช้นั้น มาจากกลุ่มทุนใหญ่แห่งค่ายอสังหาฯ ผู้ไม่อยากให้เสี่ยเจริญรวยเกินหน้า แต่เจ้าตัวเรียกว่า กลุ่มเครือข่ายที่สนับสนุน เขาให้มา



มีข้อความถึงคณะกรรมการ ก.ล.ต. อันประกอบไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิมากมาย วิงวอนให้ใช้วิจารณญาณในการพิจารณาธุรกิจน้ำเมาเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ



พร้อมยกตัวเลขของปัญหาสังคมนานาที่สาเหตุมาจากการดื่มสุรา ได้เรียกคะแนนจากมวลชนไปน่าดูชม



แต่ที่แน่ยิ่งกว่าก็คือ งานนี้เล่นเอาบอร์ด ตลท. ไม่กล้าฟันธงว่าจะให้ธุรกิจแอลกอฮอล์เข้าตลาดหรือไม่ สุดท้ายจึงโยนให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด



หลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ชี้ขาดเอง ส่วนจะมีมติใดๆ ออกมา เวลานี้ยังมิอาจคาดเดา



พอๆ กับที่เจ้าสัวเจริญคงมิอาจคาดเดาได้เช่นกันว่า ถึงที่สุดแล้ว มหาจำลองจะงัดไม้ตายอะไรออกมาอีก



อ่านบทความเต็มได้ ที่
http://www.nationweekend.com/weekend/20050803/wec11.shtml
 
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 16 ส.ค. 2005, 12:31 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ใช่ครับดูเผินๆ เหมือนการกระทำครั้งนี้ไม่อยากให้ "คุณเจริญ" มารวยกว่า แต่ก็ไม่อาจซ่อนเจตนาที่เคลือบแฝงที่แท้จริงภายในใจได้ เจตนานั้นก็คือ ไม่อยากให้คุณเจริญ และผู้ทั้งจะร่วมสนับสนุนร่วมหุ้นในอนาคต อีกไม่รู้เท่าไหร่ ต้องไปทนทุกข์ในอบายคือ มหานรกขุม 5 ขุมของสุราเมรัย ทั้งผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ผู้สนับสนุน ผู้โฆษณา ผู้เสพ ที่จะขยายวงกว้างออกไป การกระทำของเรา คือ จำกัดวงให้แคบลงก่อน ป้องกันไม่ให้ขยายตัวครับ



เหมือนการดับไฟไหม้กองใหญ่ แทนที่จะตลุยเอาน้ำฉีดไปที่ไฟเลย (ถ้าเป็นกองเล็กวิธีนี้ได้) เขาจะใช้วิธีฉีดน้ำล้อมรอบไฟไว้ครับ เหมือนไม่ให้กองไฟขยายตัว เมื่อล้อมไฟได้มั่นคงดีแล้ว ก็ค่อยๆ ฉีดน้ำดับไฟต่อไป
 
อยากรู้
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 16 ส.ค. 2005, 3:47 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ช่วยชี้แนะหน่อยว่าจะเกิดอะไรขึ้นมากไปกว่านี้ครับถ้าเขาเข้าตลาดหุ้นได้ เพราะส่วนตัวคิดว่าเข้าไม่เข้าคนที่กินเขาก็กินอยู่ รุ้อยู่ว่าเข้ามันไม่ดีแต่ยังรู้น้อยอยุ่เพราะไม่สันทัดด้านการค้าการขาย มุ่งใฝ่แต่ธรรม
 
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 16 ส.ค. 2005, 6:38 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ข้อมูลละเอียดดูได้จากเว็บนี้ครับhttp://www.stopdrink.com/



ผลเสีย ผมพูดสั้นๆ นะครับ ว่าไฟไหม้ในบริเวณเล็กๆ ย่อมเป็นผลเสียน้อยกว่า ไฟไหม้ที่ขยายบริเวณจนเป็นบริเวณใหญ่ เหมือนไฟป่าอินโดนิเซียตอนนี้ที่ไม่อาจดับได้ เพราะขยายตัวใหญ่มากแล้ว

การที่เราจะคิดว่า ไฟไหม้ไม่ว่าจะบริเวณเล็กบริเวณใหญ่ ก็เสียหายอยู่แล้ว ย่อมไม่ได้ครับ เพราะไหม้บริเวณใหญ่ย่อมเสียหายมากกว่าบริเวณเล็ก

เช่นเดียวกัน การที่เราจะคิดว่า น้ำเมาจะขยายตัวหรือไม่ขยายตัว คนก็ดื่มอยู่แล้ว ย่อมไม่ได้ครับ เพราะจะดื่มเพิ่มขึ้น และดื่มกันมากขึ้น โดยเฉพาะเยาวชนที่ยังไม่เริ่มดื่ม ก็จะเริ่มดื่มมากขึ้นด้วยล่ะครับ และก็ย่อมทำความเสียหายให้มากขึ้น การที่ดื่มกันน้อยๆ ครับ
 
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 16 ส.ค. 2005, 6:40 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอโทษครับ ประโยคสุดท้ายพิมพ์ผิด ต้องพิมพ์ว่า "ย่อมทำความเสียหายให้มากขึ้น กว่าการที่ดื่มกันน้อยๆ ครับ"
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง