Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ขันธ์5 สัมพันธ์กับชีวิตอย่างไร
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ใฝ่ธรรม
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 24 ก.ค.2005, 12:22 pm
ขันธ์5 สัมพันธ์กับชีวิตอย่างไร และศึกษาษาแล้วให้แนวคิดที่เป็นประโยชน์กับชีวิต
อย่างไรบ้าง................
..............................................................ช่วยตอบให้ด้วยนะคับ...........
..............................................................................ใฝ่ธรรม..........
เว็บมาสเตอร์
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 19 มี.ค. 2005
ตอบ: 993
ตอบเมื่อ: 24 ก.ค.2005, 6:20 pm
ความหมายของชีวิต
ชีวิตคือขันธ์ 5 ตามหลักพุทธธรรม ชีวิต คือ ผลรวมขององค์ประกอบ 5 ตัว หรือสิ่งของ 5 อย่าง มารวมตัวกันเข้าเรียกตามภาษาธรรมะว่า ขันธ์ 5 (The Five Aggregates)
คำว่า ขันธ์ แปลว่า หมวดหมู่ ชนิด ประเภท อันเป็นคำในภาษาบาลี ได้แก่
1) รูปขันธ์ กองรูป
2) เวทนาขันธ์ กองเวทนา
3) สัญญาขันธ์ กองสัญญา
4) สังขารขันธ์ กองสังขาร
5) วิญญาณขันธ์ กองวิญญาณ
4.2 องค์ประกอบของชีวิต ได้แก่ ขันธ์ 5
ขันธ์ 5 สิ่งที่เรียกว่า ขันธ์ 5 หรือผลรวมของสิ่งของ 5 อย่างดังกล่าวแล้ว เรียกว่า ชีวิต ประกอบด้วย
รูปขันธ์ (Corporeality) คือกองรูป หรือส่วนที่เป็นรูปธรรม อันหมายถึง ร่างกายและสิ่ง เกิดจากร่างกาย เช่น พฤติกรรมและคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น เสียง สี กลิ่น รส เพศ เป็นต้นรูปขันธ์แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ มหาภูตรูป รูปใหญ่หรือรูปหลัก และอุปาทายรูป รูปอาศัยหรือรูปแฝงอยู่ในรูปใหญ่นั้น
มหาภูตรูป ประกอบด้วยธาตุ 4 ได้แก่
ปฐวีธาตุ ธาตุดิน
อาโปธาตุ ธาตุน้ำ
วาโยธาตุ ธาตุลม
เตโชธาตุ ธาตุไฟ
อุปาทายรูป มี 24 อย่าง ได้แก่
ปสาทรูป 5 คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกาย
โคจรรูป (รูปที่เป็นอารมณ์ของอินทรีย์) 4 คือ รูป เสียง กลิ่น รส
ภาวรูป (รูปที่เป็นเพศ) 2 คือ ความเป็นหญิง (อิตถีภาวะ) และความเป็นชาย (ปุริสภาวะ)
ชีวิตรูป หมายถึง ชีวิต (รูปที่เป็นชีวิต) 1 คือ ชีวอินทรีย์
อาหารรูป (รูปคืออาหาร) 1 คือ กวฬิงการาหาร (อาหารคือคำข้าวที่เรากินเข้าไป)
ปริจเฉทรูป (รูปกำหนดสถานที่เป็นหลัก 1 คือ อากาศธาตุ ได้แก่ ช่องว่างที่มีอากาศในร่างกาย
วิญญัติรูป (การเคลื่อนไหวเพื่อให้รู้ความหมาย) 2 คือ กายวิญญัติ (ความเคลื่อนไหวทางกาย)และวจีวิญญัติ (ความเคลื่อนไหวทางวาจา)
หทัยวัตถุ (ที่ตั้งของจิต 1)
วิการรูป (อาการที่ทำให้ผิดปกติ) 3 คือ ลหุตา (ความอ่อน) มุทุตา (ความเบา)
และกัมมัญญตา (ความควรแก่การงาน)
ลักขณรูป (อาการที่เป็นเครื่องกำหนด) 4 คือ อุปจย (การก่อตัวหรือเจริญเติบโต) สันตติ
(ความสืบต่อ) ชรตา (ความทรุดโทรม) และอนิจจตา (ความแปรปรวน) เมื่องรวมธาตุทั้ง 4 ซึ่งจัดเป็นมหาภูตรูป (รูปใหญ่) เมื่อนำมารวมเข้ากับอุปทายรูป (รูปอาศัย24) แล้วก็จะเป็นรูป 28 อย่างรวมรูปทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วเรียก รูปขันธ์
เวทนาขันธ์ (Feeling) คือ กองเวทนา คือส่วนที่เป็นความรู้สึกอันเกิดจากการรับรู้อารมณ์ต่าง ๆ แบ่งออกเป็น 3 ได้แก่
(1) สุขเวทนา รู้สึกดีใจ
(2) ทุกขเวทนา รู้สึกเสียใจ
(3) อทุกขมสุขเวทนา รู้สึกไม่เสียใจและไม่ดีใจ บางทีเรียกอุเบกขาเวทนา
คือรู้สึกเฉยๆ
สัญญาขันธ์ (Perception) คือ กองแห่งความจำ ในวิถีชีวิตของคน ๆ หนึ่ง ถ้าเขาไม่มีความพิการทางสมอง ก็จะสามารถจดจำวัตถุ บุคคล และเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาทางประสาทสัมผัสได้
(1) รูปสัญญา ความจำรูปได้
(2) สัททสัญญา ความจำเสียงได้
(3) คันธสัญญา ความจำกลิ่น
(4) รสสัญญา ความจำรสได้
(5) โผฐัพพสัญญา ความจำสิ่งสัมผัสกายได้
(6) ธัมมสัญญา ความจำเรื่องราวต่าง ๆ หรือมโนภาพได้
4) สังขารขันธ์ (Mental formation) คือ กองสังขาร หมายถึง ส่วนที่เป็นความปรุงแต่งจิตให้ดี ชั่ว หรือเป็นกลาง ๆ กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า เป็นคุณสมบัติต่าง ๆ ของจิต มีเจตนาเป็นตัวนำที่ปรุงแต่งจิตให้เป็นกุศลหรืออกุศล
สังขารขันธ์แบ่งออกเป็น 3 อย่าง คือ
ปุญญาภิสังขาร สภาวะที่ปรุงแต่งจิตดี หรือเป็นกุศล
อปุญญาภิสังขาร สภาวะปรุงแต่งจิตชั่ว หรือเป็นอกุศล
อเนญชาภิสังขาร สภาวะปรุงแต่งจิตไม่ดีไม่ชั่ว คือ คิดไม่ดีไม่ชั่ว
วิญญาณขันธ์ (Consciousness) คือ กองแห่งความรู้ ได้แก่ ความรู้แจ้งอารมณ์ต่าง ๆ ที่มากระทบเข้าทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กระทบกับอายตนะภายนอกคือ อารมณ์ต่าง ๆ ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส สิ่งสัมผัส และมโนภาพ หรือธัมมารมณ์ ก็จะเกิดความรู้ขึ้น เช่น เมื่อตากระทบกับรูป โดยมีแสงสว่างเป็นสื่อกลางก็จะเป็นความรู้ทางตา ที่เรียกว่า จักขุวิญญาณขึ้น
วิญญาณ มีหน้าที่ 2 อย่าง คือ วิญญาณธาตุ และวิญญาณขันธ์ วิญญาณธาตุ หมายถึง ตัวรู้ คือ จิต
ส่วนวิญญาณขันธ์ หมายถึง อาการที่จิตรู้อารมณ์ต่าง ๆ วิญญาณขันธ์อาจดับได้ทั้ง ๆ ที่วิญญาณธาตุยังมีอยู่
..........
http://board.dserver.org/e/easydharma/00000311.html
http://www.dhammajak.net/webboard/show.php?Category=d_book&No=247
....
เท่าที่พอหาได้ในเน็ตนะครับ
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 24 ก.ค.2005, 7:28 pm
ความหมายโดยลึกซึ้ง เวบมาสเตอร์ตอบแล้วนะครับ ผมขอสรุปสั้นๆ
ขันธ์ 5 เข้าใจง่ายๆ ว่า คือ กาย กับ ใจ ดังนั้น จึงสัมพันธุ์กับชีวิต อย่างยิ่ง
เพราะถ้ามีแต่กาย ไม่มีใจ เขาเรียกว่า ศพ คือ ไร้ชีวิต
และถ้ามีแต่ใจ ไม่มีกาย เขาเรียกว่า ผี ไม่มีรูปขันธุ์
ศึกษาขันธ์ 5 และให้ประโยชน์กับชีวิตว่า ชีวิตเราไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง จึงไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ 5 ของเรา ว่าจะเป็นอมตะ ฉันเป็นผู้ยิ่งใหญ่ อยู่ค้ำฟ้า แต่สุดท้าย ก็ต้องไปอยู่ที่เดียวกัน คือ เชิงตะกอนทั้งสิ้น
เมื่อฝึกจิตให้คลายความยึดมั่นในขันธ์ 5 ได้บ่อยๆ จิตก็จะหลุดพ้น สู่สภาวะนิพพานได้ครับ
ขาแจมในตำนาน
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 24 ก.ค.2005, 11:14 pm
ที่บริษัท ถาม ขันธ์ 5 ที่เป็น เครื่องบูชา เช่น ธูป เทียน พาน กรวย ดอกไม้
อะไรอย่างนี้ ไว้ ตอนไป ขอศีล
อันนี้ ก็ไม่เกี่ยวหลอก มาบอกเล่าให้ฟัง
เขม
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 25 ก.ค.2005, 9:25 am
นั่นเป็นขันธ์ของคนทรงเจ้า
รู้กันในหมู่คนทรงด้วยกันว่า รับขัน
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
ตอบเมื่อ: 25 ก.ค.2005, 9:56 am
คุณขาแจมในตำนาน
ปกติมนุษย์เราก็แบกขันธ์5 กันอยู่หนักพอแล้ว อย่างที่ท่านเว็บมาสเตอร์และคุณเกียรติอธิบาย ทีนี้อีกความหมายหนึ่งที่ว่าเป็นเครื่องบูชา ก็อุปโลกน์กันขึ้นมา เนื่องจากความไม่รู้ ความเชื่อ ความงมงายที่คอยหาลาภ สักการะใส่ตน ไม่มีประโยชน์อะไร ซ้ำร้ายจะทำอันตรายอย่างที่เราๆท่านๆคาดไม่ถึง
ศีลไม่ต้องไปขอใคร รู้ว่าศีลมีอะไรบ้างก็ให้มีความละอาย ให้เป็นเครื่องเหนี่ยวรั้งจิตใจ อยู่ที่ตนเอง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทวดาหน้าไหน
มณี ปัทมะ ตารา
ลุงสุชาติ
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 25 ก.ค.2005, 2:50 pm
เมื่อมีวิญญาณปฏิสนธิมาอาศัยอยู่ในรูป (มหาภูตรูป=ดิน น้ำลมไฟ ธาตุ ๖) จึงเกิดนามรูป คือ ขันธ์ ๕ ขึ้น เป็นรูปขันธ์ ๑ และนามขันธ์ ๔ ได้แก่ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
กิเลสตัณหาที่เกิดจากการปรุงแต่ง (บุญญาภิสังขาร) เกิดจากการติดต่อระหว่างอายตนะภายใน และภายนอกทั้ง ๖ ทำให้เกิดเวทนาคืออารมณ์มีทั้งอารมณ์ยินดีพอใจ หนือ อิฏฐารมณ์ อารมณ์ไม่ยินดีไม่พอใจ หรืออนิษฐารมณ์ ได้แก่ความโทสะ พยาบาท เมื่อไม่ได้สิ่งหนึ่งใดปรารถนามาไว้ครอบครอง และความโศกเศร้าที่ต้องพลัดพราก หรือ สูญเสียสิ่งที่ตนรักและครอบครองไว้ จึงทำให้กิเลสตัณหาเล่านี้เข้าไปอาศัยอยู่ในขันธ์ ๕ ทำให้เกิดเป็นอุปทานขันธ์ ยึดติดอยู่ภพ ชาติ ต้องเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏไม่มีที่สิ้นสุด หากจะต้องการหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ก็จะต้องกำจัดกิเลสตัณหาที่อาศัยอยู่ในขันธ์ ๕ ให้หมดสิ้น ขันธ์ ๕ จึงจะหลุดพ้นจากสังสารวัฏ บรรลุนิพพาน ดังที่พระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าได้แสดงความจริงไว้ในอริยสัจจ์ ๔
ลุงสุชาติ
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 25 ก.ค.2005, 3:02 pm
ขอแก้ไขข้อความ "กิเลสตัณหาที่เกิดจากการปรุงแต่ง (บุญญาภิสังขาร)" เป็น "กิเลสตัณหาที่เกิดจากการปรุงแต่ง (อภิสังขาร)"
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th