|
|
|
 |
ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
หนูนิด
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
10 มิ.ย.2005, 3:04 pm |
  |
ดิฉันเคยดูรายการ วี ไอ พี ทางช่อง 9 ที่เขาเอาอาจารย์หนูที่สักตามร่างกายให้กับดาราหลายคน แล้วบอกว่าดาราหรือคนที่มาสักบอกว่า อยากให้เป็นคนมีเสน่ห์ อยากให้มีงานดีๆ ทำ เป็นที่รักของทุกคน แล้วพอสักเสร็จแล้วชีวิตก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ และดีมากกว่าแต่ก่อนหลังจากที่มาสักไปแล้ว
เลยอยากจะรู้ว่าการทำสิ่งเหล่านี้ทำให้ชีวิตดีขึ้นจริงเหรอ
ป.ล.ช่วยแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ |
|
|
|
|
 |
นายประแจ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
10 มิ.ย.2005, 10:52 pm |
  |
ผมไม่เห็นว่าชีวิตของแองจาลิน่า โจลี จะดีกว่า ปู่เย็นตรงไหน
ชีวิตใครดีกว่าใคร ดูที่ตรงไหน ? |
|
|
|
|
 |
ก้อง
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
10 มิ.ย.2005, 11:49 pm |
  |
ผมคิดว่าการสักอะไรต่างๆบนร่างกายนั้นไม่มีผลอะไรต่อชีวิตหรือหน้าที่การงานโดยตรง มันเป็นเรื่องของจิตใจมากกว่า เป็นเเค่วิธีการหนึ่งที่ทำให้คนบางกลุ่มที่สัก มีความเชื่อมั่นในตนเองสูงขึ้นบ้าง ในการทำงานหรืออะไรต่างๆ การสักเหมือน เป็นเเค่เอาสีนำมาเเต้มตามร่างกายเท่านั้นเอง ไม่เป็นสาระอะไร |
|
|
|
|
 |
ปุ๋ย
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
12 มิ.ย.2005, 12:41 am |
  |
คนที่ไปรับการสักยันต์ คงเป็นไปด้วยความศรัทธา ความเชื่อที่ว่าจะช่วยให้อยู่ยงคงกระพัน มีเสน่ห์ เพศตรงข้ามหลงไหล ในสมัยก่อนการสักยันต์เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชายที่ต้องออกรบเป็นประจำ พระที่เก่งๆ จะทำการสักยันต์ลงคาถาอาคม เพื่อให้แคล้วคลาดจากอันตราย และที่สำคัญที่สุดคือ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการออกรบที่มีแต่อันตรายรอบด้าน เพื่อให้ได้ชัยชนะกลับมา
แต่ถามว่าปัจจุบัน การทำสิ่งเหล่านี้ทำให้ชีวิตดีขึ้นจริงหรือ ตอบฟันธงเลยว่า คนสักให้รวยขึ้นอย่างแน่นอน แต่คนที่ไปรับการสักยันต์นี่ซิ ท่านทราบหรือไม่ว่าชีวิตหลังจากนั้น เหมือนตกนรกทั้งเป็น จำเป็นหรือไม่ที่คนเราจะรักษาศีล และทำในสิ่งที่ดีๆต้องไปรับการสักยันต์ อย่างนั้นคนทั่วๆไปก็รักษาศีล ทำกุศลดีๆไม่ได้ซิ
สักยันต์เสร็จแล้ว ออกอาการต่างๆนานา ต้องมีคนคอยห้าม คนคอยคุม อยู่ต่อหน้าอาจารย์ก็ไม่เป็นไร แต่ชีวิตบุคคลเหล่านั้นเมื่อกลับเข้าสู่สังคมมนุษย์ทั่วไปนี่ซิ มันทุกข์ทรมานขนาดไหน บางครั้งควบคุมตัวเองไม่ได้ กลางคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ที่เรียกว่า ของขึ้น ถามว่า...ทำไม...
เพียงเพื่อ ลาภ ยศ สรรเสริญ ก็สามารถกล่าวแต่สิ่งดีๆที่ตนได้ก่อกรรมให้กับผู้อื่น เคยหันกลับไปถามไถ่ และมองชีวิตของเขาเหล่านั้นหรือไม่ หรือนำแต่บุคคลที่มีชื่อเสียง และฐานะร่ำรวย ออกมาป่าวประกาศ เพียงเพื่อโฆษณาใส่ตน
มณี ปัทมะ ตารา  |
|
|
|
   |
 |
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
12 มิ.ย.2005, 7:53 pm |
  |
เหตุแห่งความสำเร็จ และเป็นที่รักที่แท้จริง เป็นเพราะบุญบารมีที่บำเพ็ญมาในอดีตกับ การกระทำในปัจจุบันประกอบกันครับ บุญบารมีที่ว่านั้น คือ สังควัตถุ 4 ประการนั่นเองได้แก่ ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา สมานัตตา ทั้งในอดีต(ชาติ) และปัจจุบันครับ
ทาน ได้แก่ แบ่งปันญาติมิตร สร้างสาธารณประโยชน์ สร้างบุญกับผู้มีศีล
ปิยวาจา ได้แก่ พูดจาดีๆ ต่อกัน ไม่ว่าร้าย โกหก ส่อเสียด(ยุให้เขาแตกกัน) เพ้อเจ้อ ใครพูดเช่นนี้ย่อมเป็นที่รัก ส่วนใครพูดว่าร้าย โกหก ส่อเสียด เพ้อเจ้อ ต่อให้ห้อยสาลิกาลิ้นทอง ตามด้วยของขลังเต็มตัว ก็ช่วยอะไรไม่ได้ครับ
อัตถจริยา ได้แก่ มีน้ำใจ บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม ลองสังเกตุสิครับ คนชนบทเขารักกัน เพราะเขาจะมีงาน ลงแขก คือไปช่วยกันทำนากันทุกบ้าน แต่คนเมืองจะไม่มีสิ่งเหล่านี้ครับ
สมานัตตา เสมอต้นเสมอปลาย ไม่ใช่พอยากจนอยู่ก็เป็นญาติ เพื่อน แต่พอได้ดีแล้วก็ลืมญาติ ลืมเพื่อน
ใครที่ทำ 4 ประการนี้ ในอดีตมา บุญจะส่งผลให้เป็นที่รักครับ มีคนช่วยกิจการให้สำเร็จโดยง่าย และถ้ามาทำต่อในปัจจุบัน ก็จะยิ่งส่งผลให้ยิ่งๆ ขึ้นไป
|
|
|
|
|
 |
.lll
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
16 มิ.ย.2005, 8:30 am |
  |
ของมันไม่ดี  |
|
|
|
|
 |
อำนาจ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
23 มิ.ย.2005, 12:35 pm |
  |
|
|
 |
น้อง พัช
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
02 ธ.ค.2005, 3:36 pm |
  |
|
|
 |
เอย
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
02 ธ.ค.2005, 7:04 pm |
  |
พวกนักเลงสักกันเกร่อ ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีคนรับ ต้องไปจ้างเขาลบออก เนื้อหนังจะด่างๆ เหมือนควายเผือก |
|
|
|
|
 |
never.com
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
22 ธ.ค.2005, 3:16 pm |
  |
|
|
 |
ฝ้าย
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
18 ม.ค. 2006, 5:48 pm |
  |
|
|
 |
|
|
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่ คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลงคะแนน คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้ คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
|
| | |