kk_kwan
บัวผลิหน่อ

เข้าร่วม: 05 ม.ค. 2007
ตอบ: 2
|
ตอบเมื่อ:
05 ม.ค. 2007, 10:40 am |
  |
อาจจะไม่เคยมีใครนำเอาผลประโยชน์ของการเป็นชาวพุทธมากล่าวถึงอย่างเป็นรูปธรรมจริงๆ เพราะคิดว่าชาวพุทธทุกคนน่าจะรู้อยู่แก่ใจตนเอง และความที่เรามักจะกล่าวกันว่า ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งปัญญา ก็เลยเกิดเป็นปรากฎการ 2 แบบในหมู่เยาวชนรุ่นหลังคือ
1 เห็นว่าเป็นเรื่องที่ต้องใคร่ครวญคิดมาก ต้องเข้าใจยาก ฝึกยาก (เพราะถูกทำให้รู้สึกว่าการศึกษาหรือฝึกปฏิบัติในพระพุทธศาสนานั้นสูงจนไม่กล้าเข้าไปแตะต้องกลัวว่าตนจะทำอะไรให้เกิดความผิดพลาด)
2 ถูกทำให้เข้าใจว่า ผลประโยชน์ในทางพระพุทธศาสนานั้นเป็นเรื่องของนามธรรม คือความสุขทางใจเป็นส่วนใหญ่ และหากจะเป็นรูปธรรมคือเกิดขึ้นในชีวิตก็ต้องรอจนถึงชาติหน้าเป็นหลักใหย๋ ซึ่งเป็นความเข้าใจเพียงด้านเดียว ไม่ถูกต้อง เพราะในความเป็นจริงการเป็นชาวพุทธและฝึกตนตามหลักการปฏิบัติตามพระพุทธศาสนานั้น ให้ผลประโยชน์ทั้งที่เป็นนามธรรมคือความสุขทางใจ และเป็นรูปธรรมคือความสามารถในการดำรงชีวิตในชาติปัจจุบัน
เมื่อเรารูว่าความจริงการเป็นชาวพุทธนั้นมีประโยชน์มากถึงปานนี้ แต่ขาดการบอกกล่าวให้เยาวชนรุ่นหลังให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ อีกทั้งการที่คนรุ่นก่อนๆให้ความเคารพในพระศาสนามากมายและจัดไว้ในสถานะที่สูงส่งทำให้เด็กรุ่นหลังเกิดความเกรงขามโดยใช่เหตุ จึงเกิดความรู้สึกห่างเหินไปโดยปริยาย ทำให้เยาวชนรุ่นหลังถัดๆมาพลาดประโยชน์อันยิ่งใหญ่ไปโดยปริยาย โดยเฉพาะประโยชน์ในด้านรูปธรรมที่เป็นการพัฒนาตนเอง พัฒนาศักยภาพ
ฉะนั้นถึงเวลาแล้วที่เราจะหันมาให้ความรู้ในเรื่องผลประโยชน์นี้แก่เยาวชนและชาวพุทธโดยทั่วไป
โดยจะต้องกระตุ้นเตือนประชาสัมพันธืในเรื่องนี้แก่ชาวพุทธอย่างกว้างขวาง
จาก http://www.ketnipameditationtechnique.com/index1.html
พอดีไปเจอมาค่ะ เห็นว่าน่าสนใจดี ก็เลยอยากเอามาให้เพื่อนชาวพุทธได้อ่านกัน ใครมีความเห็นอย่างไรก็เสนอแนะได้นะคะ  |
|
|
|