Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
พระราชวิจิตรโมลี นาบุญเมืองพิจิตร
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ก้อนดิน
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 07 ก.ค. 2004
ตอบ: 623
ตอบเมื่อ: 27 ธ.ค.2006, 11:53 am
พระราชวิจิตรโมลี นาบุญเมืองพิจิตร
พระราชวิจิตรโมลี (บุญมี ปริปุณฺโณ)
เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่แห่งเมืองชาละวัน ที่ได้อุทิศตนให้แก่งานการศึกษาสงฆ์มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาด้านพระปริยัติธรรม และปริยัติสามัญ เป็นพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ปฏิบัติตนเยี่ยงศากยบุตร ทำงานอุทิศให้แก่พระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
ปัจจุบัน อายุ 79 พรรษา 57 (เมื่อปี พ.ศ.2549) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง พระอารามหลวง ต.ท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร และเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร (มหานิกาย)
พระราชวิจิตรโมลี มีนามเดิมว่า บุญมี แตงปั้น เกิดเมื่อวันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ.2470 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ปีชวด ณ บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 5 บ้านดาน ต.ไผ่ขวาง อ.เมือง จ.พิจิตร โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายแห และนางตุ๊ แตงปั้น
ในช่วงปฐมวัย เมื่ออายุย่างเข้าสู่เกณฑ์การศึกษาภาคบังคับ ได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนวัดหาดมูลกระบือ ต.ย่านยาว อ.เมือง จ.พิจิตร จนจบการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปี พ.ศ.2481
จนเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ และผ่านการเกณฑ์ทหารแล้ว จึงเข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เพื่อทดแทนบุญคุณของบิดามารดา ตามประเพณีของชายไทย เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2491 ตรงกับวันศุกร์ แรม 2 ค่ำ เดือน 4 ปีกุน ณ พัทธสีมาวัดหาดมูลกระบือ โดยมีพระครูพิมลธรรมานุศิษฏ์ วัดรายชะโด ต.สามง่าม อ.สามง่าม จ.พิจิตร เป็นพระอุปัชฌาย์
ได้รับนามฉายาว่า ปริปุณฺโณ
หลังอุปสมบทแล้ว ท่านได้ย้ายมาพำนักจำพรรษาที่วัดท่าหลวง เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม และสามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ ภายในระยะเวลาไม่นาน ณ สำนักศาสนศึกษาวัดท่าหลวง เมื่อปี พ.ศ.2494
ต่อมา ได้รับมอบหมายจากพระทีฆทัสสีมุนีวงศ์ (หลวงปู่ไป๋ ญาณผโล) เจ้าอาวาสวัดท่าหลวงในขณะนั้น ให้เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมแก่พระภิกษุ-สามเณร เป็นเวลานานกว่า 10 พรรษา เมื่อมีพระภิกษุ-สามเณร จบการศึกษามากขึ้น ท่านจึงได้หยุดการสอน และหันไปช่วยเหลือพระทีฆทัสสีมุนีวงศ์ (หลวงปู่ไป๋ ญาณผโล) ทำหน้าที่ด้านการบริหารคณะสงฆ์
พ.ศ.2501 เป็นเจ้าคณะตำบลท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร พ.ศ.2529 เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง พระอารามหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร พ.ศ.2536 เป็นเจ้าคณะอำเภอเมือง จ.พิจิตร พ.ศ.2546 เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร พ.ศ.2546 เป็นเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร จนถึงปัจจุบัน
งานด้านศึกษาสงเคราะห์ ท่านเล็งเห็นคุณค่าทางด้านการศึกษา ได้เปิดให้มีการสอนพระปริยัติธรรมสามัญ ภายในวัดท่าหลวง เพื่อให้พระภิกษุ-สามเณร จ.พิจิตร ได้ศึกษาและมีความรู้กว้างขวางมากยิ่งขึ้นให้ทัดเทียมกับการศึกษาทางโลก นอกจากนี้ยังจัดสร้างอาคารเรียน ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ ในโรงเรียนต่างๆ และมอบทุนการศึกษาให้แก่พระภิกษุ-สามเณรที่เรียนดี แต่ขาดทุนทรัพย์ ทั้งสายปริยัติและสายสามัญ
พ.ศ.2544 เป็นประธานก่อสร้างอาคารเรียนพระปริยัติธรรมให้แก่วัดคลองคู้ ต.ท่าหลวง-ปากทาง อ.เมือง จ.พิจิตร เพื่อให้พระภิกษุ-สามเณรที่อยู่ใกล้เคียงได้ศึกษาธรรม แผนกนักธรรม-บาลี พ.ศ.2546 จัดสร้างห้องคอมพิวเตอร์ ให้แก่โรงเรียนพ่อหลวงพิทยาคม และจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ให้แก่โรงเรียนดังกล่าวอีกจำนวน 10 เครื่อง
พ.ศ.2541-2545 จัดตั้งกองทุนทีฆทัสสีมุนีวงศ์ สำหรับช่วยเหลือพระภิกษุ-สามเณร ที่กำลังศึกษาพระปริยัติธรรม พระปริยัติสามัญ และชั้นอุดมศึกษา ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์
งานด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา พ.ศ.2521 เป็นประธานหน่วยอบรมประชาชนในพื้นที่จังหวัดพิจิตร โดยอบรมประชาชนทุกวันพระ วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันสำคัญของชาติ งานเทศกาลประจำปี และได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระธรรมทูต สายที่ 3 ออกอบรมประชาชนในพื้นที่จังหวัดพิจิตรและจังหวัดเพชรบูรณ์
พ.ศ.2523 จัดตั้งสำนักวิปัสสนากัมมัฏฐานขึ้นภายในวัดท่าหลวง เพื่อให้พระภิกษุ-สามเณร พ่อค้า ข้าราชการ และประชาชนทั่วไป ได้เข้ามาปฏิบัติธรรม ฝึกสมาธิ เจริญจิตภาวนา
พ.ศ.2543 จัดวัดท่าหลวงให้เป็นค่ายอบรมคุณธรรม จริยธรรม ชื่อ ค่ายพุทธบุตร เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา เด็ก และเยาวชน เข้ามารับการอบรมคุณธรรม จริยธรรม ตลอดจนเป็นพระวิทยากร ให้ความรู้แก่พระสังฆาธิการ ประชาชนทั่วไป ได้เรียนรู้เรื่องสมุนไพร
นอกจากนี้ ยังได้จัดทำสวนสมุนไพรขึ้นภายในวัดท่าหลวง เพื่อใช้เป็นแหล่งศึกษาร่วมกับหน่วยงานราชการต่างๆ รับนักเรียน นักศึกษา เด็ก และเยาวชน ที่มีปัญหาทางครอบครัวและติดยาเสพติด เข้ารับการอบรม และทำการบำบัดรักษาด้วยยาสมุนไพร จนถึงปัจจุบัน
งานด้านสาธารณูปการ พ.ศ.2531-2548 ได้จัดสร้างสิ่งที่เป็นศาสนวัตถุ ศาสนสถานขึ้นหลายแห่งติดต่อกัน เช่น ศาลาการเปรียญ อาคารเรียน ห้องคอมพิวเตอร์ให้แก่โรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดพิจิตรหลายแห่ง เป็นต้น
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2497 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระธรรมธรบุญมี ปริปุณโณ ฐานานุกรมพระทีฆทัสสีมุนีวงศ์ (หลวงปู่ไป๋ ญาณผโล) พระราชาคณะชั้นสามัญ เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง
พ.ศ.2499 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระครูสังฆรักษ์บุญมี ปริปุณโณ ฐานานุกรมพระทีฆทัสสีมุนีวงศ์ (หลวงปู่ไป๋ ญาณผโล)
พ.ศ.2510 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสชั้นตรี ในราชทินนามที่ พระครูพิศาลธรรมานุศิษฎ์ (จต.ชต.)
พ.ศ.2520 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นเอก ในราชทินนามเดิม (จร.ชอ.)
พ.ศ.2530 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก ในราชทินนามเดิม (จล.ชอ.)
พ.ศ.2536 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระสุทัสสีมุนีวงศ์ (สย.)
เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชวิจิตรโมลี ยังความปีติโสมนัสมาสู่คณะศิษยานุศิษย์เป็นอย่างยิ่ง
พระราชวิจิตรโมลี ยังได้รับเกียรติคุณจากกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ในด้านการจัดผังวัด การจัดระเบียบเสนาสนะให้แก่วัดต่างๆ ในจังหวัดพิจิตร จนกระทั่ง วัดท่าหลวงและวัดอื่นในสังกัด ได้รับการยกย่องให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ ได้ถวายปริญญาบัตรกิตติมศักดิ์ สาขาบริหารการศึกษาแด่พระราชวิจิตรโมลี นับเป็นพระสงฆ์องค์แรกของจังหวัดพิจิตรที่ได้รับเกียรตินี้ นำความปลาบปลื้มปีติยินดีมายังคณะสงฆ์จังหวัดพิจิตร คณะศิษยานุศิษย์ และพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างยิ่ง ทุกวันนี้ พระราชวิจิตรโมลี ยังทำหน้าที่อย่างมุ่งมั่นสานต่องานการศึกษาสงฆ์อย่างมิรู้เหน็ดเหนื่อย เพื่อสืบสานพระพุทธศาสนาให้ดำรงคงอยู่ไปตลอดกาลนาน
หนังสือพิมพ์ข่าวสด คอลัมน์ มงคลข่าวสด หน้า 1
วันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 02:06 น.
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th