Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ขอเชิญร่วมไถ่ชีวิตโคกระบือ ประจำปี ๒๕๕๐ (ปีที่ ๑๖) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
มะลิท่าพระจันทร์
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 25 ธ.ค. 2006
ตอบ: 13

ตอบตอบเมื่อ: 25 ธ.ค.2006, 6:11 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กองธรรมพระศรีอาริย์ กองธรรมนำสุข พ้นทุกข์นิพพานัง
ขอเชิญร่วมไถ่ชีวิตโคกระบือ ประจำปี ๒๕๕๐ (ปีที่ ๑๖)
ตำบลบ้านขอ อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง

เช่นเดียวกับทุกปีที่ผ่านมา ผมเดินทางจากกรุงเทพฯ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2549 มุ่งไป อ.เมืองปาน จ.ลำปาง เพื่อประชุมชาวบ้านที่ขอรับบริจาควัว-ควายในปีใหม่ ให้เข้าใจถึงข้อตกลง 14 ข้อ ในการรับบริจาควัว-ควายไปเลี้ยงดูว่าต้องปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างไร? ขณะเดียวกันเพื่อรับฟังปัญหาในปีที่ผ่านมา เพื่อการแก้ไขปรับปรุงต่อไป ปัญหาที่พบ เช่น วัว, ควายบางตัวเป็นหมันไม่ตกลูก ผู้เลี้ยงไม่ได้ประโยชน์ก็ไม่อยากเลี้ยง, หรือปัญหาบางคนได้รับบริจาคควายแต่อยู่ห่างไกลแหล่งน้ำ เนื่องจากควายขาดน้ำไม่ได้ ต้องหาทางแก้ไข เป็นต้น

ข้อตกลง 14 ข้อ หากปฏิบัติตามจริงเป็นอันเชื่อได้สนิทใจว่าทุกตัวที่ได้รับการไถ่ชีวิตปลอดภัยแน่ แต่หัวใจของการทำงานนี้อยู่ที่ผู้นำชุมชนที่จะต้องเป็นผู้ติดตามผลให้เป็นไปตามข้อตกลงว่ามีความสุจริตใจและความรับผิดชอบหรือไม่? แม้สัญญาจะแน่นหนาอย่างไร แต่ขาดผู้ติดตามที่ดีย่อมไร้ประโยชน์ ดังนั้นจึงอยากเรียนผู้บริจาคทุกท่านที่เคยร่วมกันมาตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันว่าเวลานี้เรามีผู้นำชุมชนที่เข้มแข็ง ซึ่งมีความเข้าใจและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จึงทำให้ผมสามารถผลักดันโครงการต่อไปได้ เพราะหากไม่มีหลักประกันที่พอเพียง การไถ่ชีวิตวัว-ควายก็มีสภาพไม่ต่างอะไรกับการย้ายจากการถูกฆ่าที่โรงเก่าในเวลานี้ไปสู่โรงฆ่าสัตว์ใหม่ในอนาคตซึ่งไม่เกิน 1-2 ปี วัว-ควายที่สมบูรณ์เต็มที่จะมีราคาประมาณ 3 หมื่นบาท ตัวผอม ๆ ที่เราซื้อมาจากโรงฆ่า หากเลี้ยงดูอย่างดีจะได้ราคาถึง 3 หมื่นบาท ณ ปัจจุบันไม่มีการใช้แรงงานวัว-ควายในการเกษตรแล้ว การเลี้ยงมีจุดประสงค์เพื่อขายเข้าโรงเชือดสถานเดียว สัญญาของเราจะเขียนคุ้มครองและผูกมัดผู้รับบริจาคได้ เฉพาะตัวที่ได้รับแจกไปตัวที่ 1 กับลูกของมันตัวแรกเท่านั้น ตัวต่อไปเป็นสิทธิ์ของผู้เลี้ยง เพราะหากไม่ตกลงเช่นนี้ จะไม่มีผู้รับบริจาค การเลี้ยงวัว-ควายเป็นภาระที่ต้องดูแลในการหาหญ้า อาหาร น้ำ ทำคอกสุมไฟกันยุงกลางคืน ดังนั้นการจะทำโครงการนี้ได้ต้องยอมรับความจริงว่าเป็นการประสานประโยชน์ระหว่างผู้บริจาคซึ่งหวังบุญกุศล และผู้รับบริจาคหากมีกุศลจิตร่วม ก็จะได้ประโยชน์ทั้งรูปธรรมและนามธรรม

จากการสำรวจไม่พบว่ามีการทุจริต วัว-ควายที่ได้รับบริจาคมีความเป็นอยู่ที่ดี พวกเขามีชีวิตใหม่ที่มีความสุข จึงขอเรียนกับทุกท่านว่า ไม่เพียงท่านช่วยให้พวกเขารอดจากการถูกเชือดคอเท่านั้น พวกเขามีชีวิตใหม่ที่มีความสุข ทุกตัวอ้วนท้วนสมบูรณ์ เนื่องจากพื้นที่นี้มีสภาพที่เอื้อต่อการเลี้ยงสัตว์ เพราะมีการทำไร่ข้าวโพดอ่อน มีทุ่งหญ้า แม่น้ำ ลำธารหลายสาย อุดมสมบูรณ์ นับตั้งแต่ปี 46 – 49 มีวัว-ควายที่ได้รับบริจาคไปแล้ว ณ พื้นที่นี้จำนวน 169 ตัว

ทุกท่านที่ร่วมบริจาค ท่านไม่เพียงช่วยชีวิตสัตว์พร้อมกับลูกของมัน แต่ท่านยังได้ช่วยเพื่อนมนุษย์ผู้ด้อยโอกาสในชุมชนที่ขาดแคลน ให้ได้มีอาชีพ มีรายได้ มีโอกาสที่ดีขึ้นในชีวิต

ผมในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการมีภารกิจที่จะต้องทำให้โครงการดังกล่าวบรรลุวัตถุประสงค์ คือสามารถช่วยชีวิตวัวควายและมีวิธีการที่จะปกป้องคุ้มครอง ไม่ให้ถูกนำไปขายเข้าโรงเชือดอีก และให้ชีวิตใหม่ที่มีความสุขแก่เขา นั่นคือภารกิจ

จะทำได้ดังกล่าวต้องได้รับความร่วมมือจากชุมชน คือ คนส่วนใหญ่ ไม่ใช่แค่ผู้นำชุมชนไม่กี่คน ดังนั้น โครงการจะเติบใหญ่และมีความมั่นคงได้ จำเป็นต้องมีโครงการอื่นเสริม เพื่อสร้างรากฐานทางจิตใจและสร้างมวลชนไปพร้อมกัน ในทุก ๆ ปีจึงมีการแจกทุนการศึกษาและบริจาคสิ่งของที่เป็นประโยชน์แก่ชุมชนบางอย่างไปพร้อมกัน เพราะเราเชื่อว่าสิ่งที่งดงามที่สุดในโลกนี้คือการให้ และการให้นั้นก็ทำให้โลกงดงามพร้อมกัน ยิ่งการให้นั้นบริสุทธิ์เพียงใด โลกก็ยิ่งงดงามขึ้นเพียงนั้น ไม่ว่า ณ ที่ใด, เวลาใด, เชื้อชาติใด การให้นั้นทรงคุณค่าเสมอ ทั้งความชุ่มชื่นในใจของผู้รับ และความปิติเบิกบานของผู้ให้ ท่านทั้งหลายจงมาร่วมกันให้เถิดเพื่อให้โลกงดงาม

สำหรับโรงเรียนประถมศึกษาทั้ง 3 โรงเรียนที่เราจะแจกทุนการศึกษา มีการจัดการเรียนการสอนแบบวิถีพุทธ ซึ่งเน้นการถ่ายทอดชีวิต-ความเป็นอยู่และโลกทัศน์แบบพุทธศาสนาให้แทรกซึมในจิตใจเด็กนักเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนบ้านป่าเหว มีการสวดมนต์ ทำวัตรเช้า-เย็น นั่งสมาธิ พิจารณาอาหารก่อนมื้อเที่ยง เป็นต้น เมื่อได้ไปพบเห็นแล้วเกิดความปลื้มใจ ทำให้มีความหวังขึ้นมาว่า ศีลธรรมคงไม่เหือดแห้งไปจากสังคมไทย ดังนั้นท่านใดต้องการร่วมสนับสนุนโครงการดังกล่าว สามารถร่วมบริจาคหนังสือสวดมนต์ หนังสือธรรมะ หรือเงิน เพื่อนำไปมอบให้ทางโรงเรียน เป็นการสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าวต่อไป

ส่วนการบริจาคนั้นไม่มีข้อกำหนดจำนวนเงิน เงินท่านทุกบาทเมื่อนำมารวมกัน จึงนำไปซื้อชีวิตวัว-ควาย ไม่ว่าท่านจะบริจาคเท่าไร ท่านมีส่วนร่วมทุกชีวิตที่รอด ส่วนท่านใดต้องการบริจาคทุนการศึกษา, หรือโครงการโรงเรียนวิถีพุทธ ขอให้ระบุมาในการบริจาค
1. บริจาคไถ่ชีวิต โค-กระบือ ปี 50
2. บริจาคทุนการศึกษา ปี 50
3. บริจาคร่วมโครงการโรงเรียนวิถีพุทธ

ท่านใดมีเมตตา มีศรัทธา สามารถร่วมบริจาคได้นับตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2550 โดยรวมเงินทั้งหมดเพื่อเดินทางไป จ.ลำปาง ในอาทิตย์แรกของเดือนมีนาคม 2550 เพื่อดำเนินการต่อไป

โอนเข้า

ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอโศก
ชื่อบัญชี นายธวัชชัย วณิชย์กุล เพื่อกองทุนพระศรีอริยเมตไตรย
18/6 กองธรรมพระศรีอาริย์ แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม 10110
Tel : 02-2611313, 081-6149382 Fax : 02-6640582
เลขที่บัญชี 032-2-58355-6
ประเภทบัญชีออมทรัพย์

ธนาคารกสิกรไทย สาขาสำนักงานบางกะปิ
ชื่อบัญชี นายธวัชชัย วณิชย์กุล
18/6 กองธรรมพระศรีอาริย์ แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม 10110
Tel : 02-2611313, 081-6149382 Fax : 02-6640582
เลขที่บัญชี 003-2-95237-2
ประเภทบัญชีออมทรัพย์

รายชื่อผู้นำชุมชนที่ร่วมผลักดันโครงการและเบอร์โทรศัพท์นี้ท่านสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดต่อโดยตรง
1. คุณจำนง จำรัสศรี 087-1814267
2. ผู้ใหญ่ล้วน อ้วนสูง หมู่ 9 081-7468403
3. อ.บ.ต ชวลิต กลิ่นชิต หมู่ 9 089-8528267
4. ผู้ใหญ่มรุเดช ไม้มาตาม หมู่ 8 086-1179205
5. ผู้ใหญ่ดำรงค์ ศิริเพชรปราณี หมู่ 10 087-1779006
6. ผู้ใหญ่อินทนนท์ แก้วคำแสน หมู่ 3 081-9981196, 054-364040
7. ผู้ใหญ่อภัย สอนดี หมู่ 4 087-1793986
8. คุณศรีชน ใจจอมกุล สัตว์แพทย์อาสา
9. คุณมิน หมอช้าง ส.อ.บ.ต. หมู่ 4 089-8547625, 054-364161
10. คุณบุญทอง กาไชย ส.อ.บ.ต. หมู่ 11 081-0263221
11. อาจารย์จำเนียร สุจริต ผอ.โรงเรียนบ้านขอวิทยา 081-9515319
12. อาจารย์จรูญ เทพสาร ผอ.โรงเรียนบ้านป่าเหว 081-2888256, 054-364196
13. อาจารย์สุพล ศักดิ์ดี ผอ.โรงเรียนบ้านม่วง 089-9521748, 054-350507

ทุกโรงเรียนขาดแคลนเครื่องคอมพิวเตอร์ ท่านใดมีความประสงค์จะบริจาคเครื่องที่ใช้แล้วหรือเครื่องใหม่ สามารถติดต่อได้โดยตรงหรือผ่านทางกองธรรมพระศรีอาริย์ฯ และเมื่อได้ดำเนินการบริจาคทุกรายการ ในเดือนมีนาคม 2550 แล้ว ผมจะได้มีจดหมายรายงานผลการบริจาคทั้งรายรับ, รายจ่าย และจำนวนวัวควายอีกครั้ง

“กองธรรมพระศรีอาริย์ ปรารถนาให้โลกนี้มีความสุข”
 


แก้ไขล่าสุดโดย มะลิท่าพระจันทร์ เมื่อ 02 ก.พ.2007, 11:51 am, ทั้งหมด 6 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
มะลิท่าพระจันทร์
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 25 ธ.ค. 2006
ตอบ: 13

ตอบตอบเมื่อ: 25 ธ.ค.2006, 6:14 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

“ กองธรรมพระศรีอาริย์ กองธรรมนำสุข พ้นทุกข์นิพพานัง ”

บันทึกเหตุการณ์การซื้อชีวิตวัว-ควาย นับตั้งแต่ปี 2539

ในปีแรกของการซื้อชีวิตวัว-ควาย ประมาณปี 39 ที่จังหวัดชลบุรี เราไปถึงโรงฆ่าสัตว์ประมาณบ่ายสองโมง ตกลงซื้อวัว-ควายที่เหลืออยู่ได้เกือบหมด รอบเช้าเขาชำแหละไปแล้ว 4 ตัว คงเหลือเพียง 1 ตัวที่ติดต่อเจ้าของไม่ได้ เจ้าของโรงฆ่าสัตว์แจ้งว่าเจ้าของควายอยู่ที่สนามวิ่งแข่งวัวที่อำเภอบ้านบึง เวลาผ่านไปเกือบห้าโมงเย็น พลบค่ำแล้ว คณะที่ไปด้วยประมาณ 1 คนทนรอไม่ไหว ตัดสินใจจะกลับก่อน ผมคิดในใจคนเดียวว่า หากเอาเจ้าควายเขาเกตัวนี้ออกไปไม่ได้ ผมจะไม่ยอมเลิกรา จึงจ้างรถสองแถวไปตามหาเจ้าของควายที่สนามแข่ง ซึ่งก็ได้ผล เขากลับมาด้วยอารมณ์หงุดหงิด

ทันทีที่พบหน้ากัน คณะที่ไปด้วยก็เจรจาขอซื้อจากเจ้าของ ซึ่งก่อนหน้านี้ เรารู้จากเจ้าของโรงฆ่าสัตว์แล้วว่า เขาขายเข้าโรงฆ่าสัตว์ ราคา 8,300 บาท เมื่อเจอหน้าพวกเรา ท่านลองเดาดูซิว่าเกิดอะไรขึ้น? เขาโก่งราคาขึ้นทีเดียวห้าพัน เป็น 13,500 บาท พวกผู้หญิงโวยวายต่อว่า ว่าทำไมขายแพงเกินไป เจ้าแขกเจ้าของควายโกรธจัด พูดตอบกลับมาว่า “ ผมไม่ขาย ” ผมแทบทรุดลงทั้งยืน พยายามขอร้อง ขอโทษ และให้ราคาตามที่เขาต้องการ พูดอยู่นาน พูดไปเดินตามเขาไป กว่าจะยอมรับเงิน เรื่องนี้เป็นบทเรียนที่ผมจำมาตลอด ว่าจะไม่พาคณะไปซื้อวัว-ควายด้วยอีกแล้ว เราจะเสียเงินโดยไม่จำเป็น นับตั้งแต่ปีนั้นเป็นต้นมา จึงเลิกพาคณะไปด้วย หากเขามีเมตตาต่อสัตว์ เขาจะมาค้าวัว-ควายทำไม มาเป็นเจ้าของโรงฆ่าสัตว์ทำไม

ท่านอย่าลืมว่าโรงฆ่าสัตว์ไม่ใช่สถานที่ซื้อขายวัว-ควาย โรงฆ่าสัตว์ก็คือโรงฆ่าสัตว์ สถานที่ซื้อขายวัว-ควายที่แท้จริง คือตลาดนัดวัว-ควาย ซึ่งจะมีกระจายอยู่ทุกจังหวัด แทบทุกอำเภอ โดยเค้าจะมีนัดว่า มีวัว-ควายมาขายในวันใด เช่นทุกวันพุธหรือพฤหัส เป็นต้น อย่างเช่นจังหวัดลำพูน ตลาดนัดวัว-ควายอยู่เขตอำเภอสันป่าตอง ชื่อว่าตลาดทุ่งฟ้าบด เป็นตลาดนัดวัว-ควายที่ใหญ่มาก ทุกนัดจะมีวัว-ควายนับพัน และราคาซื้อขายที่ตลาดนัด นั่นแหละคือราคามาตรฐาน ซึ่งจะคำนวณจากขนาดและน้ำหนักของมัน แต่ในโรงฆ่าสัตว์ คนละเรื่อง เขาจะขายเราในราคาที่อยากจะขาย เพราะฉะนั้นการไปต่อรองซื้อกันในที่นั้น มันเป็นเรื่องที่เสียเปรียบอยู่แล้ว จึงต้องระมัดระวังท่าทีอย่างมาก

ในนาทีที่เจ้าแขกปาทานปฏิเสธว่า ผมไม่ขาย เจ้าทุยเขาเกที่ยืนฟังอยู่ตลอด คอตกก้มหัวลง น้ำตาไหลพราก เหมือนฟังภาษาคนรู้ทุกคำ เพราะระหว่างรอเจ้าของมา ผมเอาน้ำให้กินและบอกกับเขาว่า “ วันนี้รอดแล้ว จะพาเจ้าออกจากที่นี่ให้ได้ ” เขาจับมัดติดหลักประหารมา 2 วันแล้ว เชือกที่มัดจากรูจมูกเว้นระยะห่างจากหลักแค่คืบเดียว เพื่อไม่ให้มันนอนได้ ถ้าขืนนอนลงเชือกบาดรูจมูกขาดแน่ ถ้าท่านอยากรู้ว่ายืนอย่างเดียวสองวันสองคืน ปวดเมื่อยขนาดไหน ก็ลองดู น้ำก็ไม่ให้มันกิน เพื่อเวลาทุบหรือเชือดจะได้ไม่มีแรงขัดขืน ให้ล้มลงผ่าท้องแทงคอได้ง่าย เสาที่ใช้เป็นหลักประหาร ถูกเชือกเสียดสีจนสึกขอดไปเกือบครึ่ง ทั้งที่เป็นไม้เนื้อแข็ง ท่านลองคำนวณดูซิว่า ประมาณกี่ครั้ง กี่หน กี่ชีวิต? คงไม่ใช่หลักพันหรอกครับ เพราะวันเดียวก็เกือบสิบตัวแล้ว ท่านทราบหรือไม่ เฉพาะพัทยาอย่างเดียว วันหนึ่งเกินกว่าร้อยตัว

โอ้มนุษย์นี้หนอ ทำไมเจ้าถึงได้โหดร้ายเช่นนี้ จะฆ่าก็ยังต้องทรมานเขาก่อน เจ้าทุยถูกมัดอยู่กับที่สองวันสองคืนเต็ม ๆ มันถูกบังคับให้ยืนดูเพื่อนร่วมชะตากรรมถูกทุบหัว ถูกแทงคอ ผ่าท้อง แล่เนื้อออกเป็นชิ้น ๆ ต่อหน้าต่อตา ได้กลิ่นคาวเลือด ได้ยินเสียงร้อง ได้เห็นการดิ้นทุรนทุราย ด้วยความเจ็บปวด เนื้อที่ถูกมีดเถือสั่นระริกด้วยความเจ็บปวด ความหวาดกลัวนั้นเกินคำบรรยาย

จิตใจเขาคงแตกสลายไปหมดแล้ว น้ำตาไหลเป็นคราบทางยาว ใต้ดวงตาที่หม่นหมองจนเหือดแห้ง ความเจ็บปวดทางวิญญาณ ความหวาดกลัว ความรู้สึกวิงวอน ขอร้อง มันฉายออกมาจากดวงตาคู่นั้น มีคำพูดมากมายอยู่ในแววตานั้น และเมื่อท่านได้สัมผัส เสียงเรียกร้อง อ้อนวอนในความเงียบนั้น ผ่านดวงตาคู่นั้น ประหนึ่งว่าฟ้าผ่าลงมากลางใจของเรา

วันนั้น คือ วันที่เกิดมโนปณิธาน ตั้งสัจจะอธิษฐานในการที่จะยืนหยัดกระทำสิ่งนี้ไปตลอดชีวิต เพื่อสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์และสัตว์โลกที่ประสบเคราะห์กรรม และวันนั้นหากช่วยเจ้าทุยตัวนี้ไม่ได้ เราขอยอมตายคู่กับมัน หากจะเชือดคอเจ้าทุย ก็ต้องเชือดคอเราไปด้วยพร้อมกัน

ทุก ๆ ปีเมื่อย่างเข้าสู่เดือนธันวาคม ลมหนาวพัดมาเยี่ยมเยือน นั้นคือสัญญาณที่เตือนว่า เวลาของการกู้ชีวิต เวลาของการยื้อแย่ง ชักเย่อ กับพญามัจจุราช ได้มาถึงแล้ว

ภาพบาดใจในทุกเหตุการณ์แม้จะผ่านมานานปี ยังคงแจ่มชัดในความทรงจำ แม่ควายท้องแก่ ถูกจูงเข้าหลักประหาร ถูกควักลูกในท้องออกมา เรียกว่าควายน้อยนึ่ง ส่วนลูกวัวที่ขายแม่เจ้าไปก่อนแล้ว จะถูกต้อนมารวมกันและขายเหมาให้พ่อค้า เอาไปทำวัวหัน มันทุกตัวตื่นกลัวและมองหาแม่ร้องระงมไปหมด ใครจะให้นมมันหนอ? เจ้าควายตัวน้อยวิ่งร้องจ้า หาแม่ไม่เจอ ในตลาดนัดวัว-ควาย เพราะเค้าขายแม่เจ้าไปเสียแล้ว

แม่ควายกับลูกควายถูกจูงเข้าหลักประหารพร้อมกัน เจ้าลูกน้อยเดินตามแม่ไปติด ๆ ยืนอยู่ข้างหลัง หวังให้แม่ปกป้อง บางทีเขาก็ฆ่าแม่เจ้าให้เจ้าดูเสียก่อน บางทีเขาก็ฆ่าเจ้าให้แม่เจ้าดูเสียก่อน แบบไหนมันจะเจ็บปวดรวดเร้ากว่ากัน?

โอ้ มนุษย์ผู้ประเสริฐ ท่านกระทำต่อสัตว์โลกผู้อ่อนแอกว่า ยิ่งกว่าศัตรูทำร้ายศัตรูของเขา ยิ่งกว่าผู้ซึ่งเกลียดชังกัน กระทำต่อกัน เพราะเพียงเขาเป็นวัว-ควายเช่นนั้นหรือ?

เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นทุกวันๆๆๆๆ ทุกคืนๆๆๆๆ เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดและหวาดกลัว ใครบ้างได้ยิน? เสียงนั้นดังสนั่นหวั่นไหว ดั่งอัสนีฟาด โลหิตนั้นไหลหลั่ง ดั่งอุทกธาร

ท่านทั้งหลายโปรดเมตตาเขาด้วยเถิด ปลดปล่อยเขาให้เป็นอิสระอย่างแท้จริง ด้วยการหยุดกินเลือดเนื้อของเขาเสียที นั่นแหละจึงเรียกว่า การไถ่ชีวิตโค-กระบือที่แท้จริง

ขอกระแสพลังแห่งความเมตตาของจิตทุกดวง เมื่อได้อ่านข้อความนี้ จงมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว ก่อเกิดเป็นมโนปณิธาน ตั้งสัจจาธิษฐานร่วมกับกองธรรมพระศรีอาริย์ ในอันที่จะสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์และสัตว์โลก ที่ประสบเคราะห์กรรม ให้สมดั่งคำประกาศของกองธรรมพระศรีอาริย์ที่ว่า “กองธรรมพระศรีอาริย์ ปรารถนาให้โลกนี้มีความสุข”

จนกว่าจะพบกันอีก

ท่านใดมีเมตตา มีศรัทธา สามารถร่วมบริจาคได้นับตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2550 โดยรวมเงินทั้งหมดเพื่อเดินทางไป จ.ลำปาง ในอาทิตย์แรกของเดือนมีนาคม 2550 เพื่อดำเนินการต่อไป

โอนเข้าบัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอโศก
ชื่อบัญชี นายธวัชชัย วณิชย์กุล เพื่อกองทุนพระศรีอริยเมตไตรย
Tel : 02-2611313, 081-6149382 Fax : 02-6640582
เลขที่บัญชี 032-2-58355-6
ประเภทบัญชีออมทรัพย์

และ ธนาคารกสิกรไทย สาขาสำนักงานบางกะปิ
ชื่อบัญชี นายธวัชชัย วณิชย์กุล
Tel : 02-2611313, 081-6149382 Fax : 02-6640582
เลขที่บัญชี 003-2-95237-2
ประเภทบัญชีออมทรัพย์

“ กองธรรมพระศรีอาริย์ ปรารถนาให้โลกนี้มีความสุข ”
 


แก้ไขล่าสุดโดย มะลิท่าพระจันทร์ เมื่อ 02 ก.พ.2007, 11:48 am, ทั้งหมด 2 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
arwars
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 22 ธ.ค. 2006
ตอบ: 6
ที่อยู่ (จังหวัด): ranong

ตอบตอบเมื่อ: 25 ธ.ค.2006, 9:06 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมขออนุโมทนาและร่วมการกุศลด้วยความยินดี อยากให้พวกเราช่วยกันมากๆ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
มะลิท่าพระจันทร์
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 25 ธ.ค. 2006
ตอบ: 13

ตอบตอบเมื่อ: 06 ม.ค. 2007, 8:17 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เหลือเวลาอีกเพียง 57 วันเท่านั้น
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
มะลิท่าพระจันทร์
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 25 ธ.ค. 2006
ตอบ: 13

ตอบตอบเมื่อ: 09 ม.ค. 2007, 9:59 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เปิดประเด็น โดยคุณธวัชชัย วณิชย์กุล ผู้รับผิดชอบโครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือ

เรื่องของการตรวจสอบ

เรื่องนี้มีผู้ตั้งคำถามกับผมหลายครั้ง ในแง่ที่เกี่ยวกับเงินบริจาคว่าเป็นไปโดยบริสุทธิ์หรือไม่ ขอเรียนกับทุกท่าน โดยเฉพาะผู้ที่ตั้งคำถาม ว่าขอเชิญท่านมาตรวจสอบ นับแต่ปีนี้เป็นต้นไป ขออาสาสมัครอย่างน้อย 2-3 คน ควรเป็นคนที่ผมไม่รู้จัก ไปทำงานร่วมกัน ไปถอนเงิน-จ่ายเงินด้วยกัน โดยปกติจะขอใบเสร็จกรณีที่มีใบเสร็จ กรณีที่ไม่มีใบเสร็จก็จะจดลงสมุดบันทึก พยายามทำทุกอย่างให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่จะทำได้ ท่านใดอาสาไป ให้นัดเจอกันที่ลำปาง และไปซื้อวัว-ควายด้วยกัน แต่มีข้อแม้ว่าถ้าท่านกลัวลำบาก ท่านไม่ต้องไป บางทีท่านอาจไม่ได้นอนทั้งคืน สว่างคาตา เวลากินข้าวเช้าบางทีก็เป็นบ่าย เวลากินข้าวกลางวันบางทีก็เป็นกลางดึก

ผมเริ่มทำงานการกุศลในนาม กองธรรมพระศรีอาริย์ มาตั้งแต่ปี 39 สร้างโบสถ์ วิหาร เจดีย์ พระพุทธรูปทองคำ บูรณะวัดใหม่ทั้งวัด ช่วยชีวิตวัว-ควายมา 15 ปี ประมาณ 1,500 ชีวิต เงินที่ผู้คนบริจาคผ่านมือผมไม่ต่ำกว่า 20 ล้าน จนถึงปัจจุบันปี 50 ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะได้เท่าใด ทุกครั้งที่ได้ยินคำถามทำนองนี้ ก็สะเทือนทุกที ยิ่งเราบริสุทธิ์ใจเท่าไหร่ ยิ่งสะเทือนมากเท่านั้น และก็เชื่อว่าถึงแม้จะมีผู้ร่วมทำงานด้วยตามที่เสนอไป คำถามทำนองนี้ก็ยังมีอยู่ ซึ่งก็เป็นธรรมดาโลก พุทธองค์ผู้ทรงประเสริฐสุดก็ยังถูกมนุษย์บางพวกบางกลุ่มให้ร้าย นับประสาอะไรกับผมซึ่งยังไม่มีมรรคผลอะไรเลย ก็สะเทือนเป็นธรรมดา ยังไม่ได้อนาคามีผล ยังตัดราคะ โทสะ ไม่ขาด จึงอยากจะเชิญชวนทุกคนที่ข้องใจสงสัยว่า ขอท่านจงมาพิสูจน์แล้วก็ช่วยไปประชาสัมพันธ์ตามที่ท่านได้พบเห็น

นอกจากนี้ขอบอกว่าการทุจริตนั้นมีทุกระดับ ถ้าจะมี ไม่เกี่ยวกับทำคนเดียว คณะบุคคล มูลนิธิ มีใบเสร็จ ไม่มีใบเสร็จ ไล่ลงมาตั้งแต่ระดับรัฐบาล สหประชาชาติยังมีการคอรัปชั่นเลยครับ อย่ามาตั้งข้อสังเกตในแง่ว่า ทำเป็นส่วนบุคคลจึงน่าสงสัย มันตลกครับ การตรวจสอบขอให้ผู้ที่ร่วมทำบุญ กลุ่มคณะใดก็ตาม ขอให้ตรวจสอบทุกแห่งด้วย ขอให้ช่วยกัน เวลานี้มีเยอะแยะไปหมด ทำเรื่องไถ่ชีวิตโค-กระบือ ขอให้ทุกท่านช่วยกันเช็คดูด้วย ไม่ต้องละเว้นหรอกครับ คนถ้ามันจะโกง ภายใต้ชื่อมูลนิธิใหญ่โต หรือหน่วยงานใหญ่โตก็ทำได้หมด ยิ่งชื่อหน่วยงานใหญ่ ๆ ได้ปีละหลายล้าน

โดยมารยาทผู้รับบริจาคจะเป็นโครก็ตาม ต้องแจ้งยอดรับบริจาคทั้งหมด และรายการค่าใช้จ่ายทุกอย่างอยู่แล้ว โดยไม่ต้องรอให้ใครถาม

การตรวจสอบนั้น ขอเปิดประเด็นต่อไปครับว่า ขอให้ตรวจสอบการทำงานด้วย ว่าแต่ละกลุ่มทำงานกันอย่างไร ที่ประชาสัมพันธ์กันว่าไถ่ชีวิตโค-กระบือนั้น ท่านมีวิธีการอย่างไร ที่จะทำให้เขารอดชีวิตตลอดไปจริง ถ้าแค่รวบรวมเงินบริจาคแล้วไปโรงฆ่าสัตว์จังหวัดปทุมฯ นัดเจ้าหน้าที่มารับมอบไป แบบนี้ผมไม่ถือว่าเป็นการไถ่ชีวิตโค-กระบือครับ ไม่มีหลักประกันอันใดให้เขาเลย เป็นการไถ่ชีวิตโค-กระบือแบบชั่วคราวครับ ท่านไม่มีโอกาสรู้เลยว่า วัว-ควายที่ท่านเอาเงินชาวบ้านเขามาซื้อ เวลานี้ไปอยู่ที่ไหน มีสภาพความเป็นอยู่อย่างไร ยิ่งเอาไปถวายพระ ยิ่งตลกหนักเข้าไปอีก พระท่านไม่ไปติดตามหรอกครับ ท่านก็บำเพ็ญจิตภาวนาของท่านไป แค่การรับสัจจะมันไม่พอหรอกครับ ผมว่ามันง่ายเกินไป รับสัจจะแล้วได้ควายตั้งตัวหนึ่ง ท่านไม่เห็นเหรอว่า เวลาเราทำบุญ ก็มีการสมาทานศีลกันทุกที เสร็จแล้วก็ผิดศีลมันในวันเดียวกันนั่นแหละ

ขอให้ทุกคนคิดถึงความรู้สึกและจิตใจของผู้ที่เขากำลังรอความเมตตา ให้ทำแบบคิดถึงอกเขาอกเราว่า ถ้าหากเป็นเรา เราต้องการให้ปฏิบัติกับเราอย่างไร ต้องการให้ปกป้องเราอย่างไร ถามว่าเขากลัวตายไหม ชีวิตทุกชีวิต รักตัวกลัวตายเท่ากัน ไม่ใช่แต่เฉพาะคน ที่รู้จักรักชีวิต ถ้าท่านทำบุญแบบมักง่าย แม้ไม่ตั้งใจ ท่านก็ถูกดึงเข้าสู่กระแสกรรม เข้าสู่วงจรอุบาทว์แล้ว

1. เงินทุกบาทที่เขานำมาบริจาค มันมาจากความทุกข์ กว่าจะได้มา เขาสู่อุตสาห์เสียสละ ด้วยนึกถึงสัตว์ที่จะตาย หมายจะช่วยผู้อื่น ถ้าท่านทำไม่สำเร็จ กรรมเวรเรื่องเงินทอง ท่านต้องชดใช้เขา

2. ชีวิตที่ท่านช่วยมาได้จากในโรงฆ่าสัตว์ในวันนั้น แล้วมาถูกฆ่าอีก 3 เดือน หรือวันต่อมา ท่านคิดว่า ท่านพ้นความรับผิดชอบแล้วหรือ เปรียบหยาบ ๆ กับทางโลก ท่านทำงานล้มเหลว งานที่รับผิดชอบไม่เข้าเป้าหมาย การขายไม่ได้ แก้ปัญหาให้ลูกค้าไม่ได้ ผู้บังคับบัญชาหรือเจ้าของบริษัทเขาจะจ้างท่านต่อไปไหม ฉันใดก็ฉันนั้น ท่านอาสามาช่วยชีวิตสัตว์ แล้วท่านพูดว่า เราได้ทำแล้ว ใครเขาจะทำอย่างไรช่างเขา พูดแบบนี้ฟังไม่ได้ เท่ากับท่านไม่รับผิดชอบในสัญญาที่ท่านให้ไว้กับผู้บริจาค และท่านก็ไม่เคยนึกถึงความรู้สึกของวัว-ควายเหล่านั้นเลย ว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร ก็เพราะว่าท่านคิดว่า เขาเป็นวัว-ควายกระมัง จึงได้ทำเช่นนี้ ท่านไม่ได้ให้ความเสมอภาคในความรู้สึกว่า จะเป็นควายหรือคน ความรู้สึกมันเท่ากัน ท่านคิดว่าแค่ความรู้สึกของควาย ก็เท่ากับว่าท่านยังเข้าไม่ถึงจิตใจของเขา ท่านไม่เคยมองแววตาของพวกเขา ไม่เคยได้ยินเสียงอ้อนวอน ในความเงียบ ผ่านดวงตาคู่นั้น ท่านทำเพราะมันเป็นแฟชั่นหรือเพียงเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ท่านไม่ได้นึกถึงความทุกข์ทรมานของพวกเขาจริง ๆ เลย

ที่ผมพูดมาทั้งหมด ไม่ได้โกรธหรือเกลียดชัง อคติใครทุกคน แต่ผมคิดถึงหัวอกวัว-ควายทุกตัว ว่าจะรู้สึกอย่างไร พยายามเข้าใจเขา พยายามเข้าไปนั่งในหัวใจเขา พยายามคิดว่าหากเป็นเราจะรู้สึกอย่างไร ต้องการอย่างไร

และอยากให้ช่วยชีวิตเขาได้จริง ๆ หลักการต้องรัดกุมและเป็นรูปธรรม สัญญาอย่างเดียวไม่พอ ต้องติดตามได้ บนพื้นฐานและเงื่อนไขของความเป็นจริง แค่รับสัจจะอย่าทำเลยครับ ขอให้ใช้ความเป็นส่วนตัวเข้าไปสัมผัสเรียนรู้คนในชุมชนให้ได้เสียก่อน ไว้วางใจได้จริง แล้วค่อยทำ ไม่เกี่ยวกับความเป็นผู้ใหญ่บ้าน หรือ อ.บ.ต. เรื่องนี้ไม่ใช่งบประมาณ เอาความสุจริตเชื่อถือได้เป็นหลักสำคัญ ผมขอเตือนด้วยความห่วงใยวัว-ควาย ห่วงใยในผลกรรมที่ท่านต้องได้รับ ด้วยความปรารถนาดี ด้วยความบริสุทธิ์ใจ เสียดายเงินทองมากมาย เอาไปให้เจ้าของโรงฆ่าสัตว์ใหญ่ ที่มันร่ำรวยอยู่แล้ว เพราะความไม่รู้ของพวกเรา ที่อยากทำความดี แต่ขาดประสบการณ์และความเข้าใจ

เรื่องค่าใช้จ่าย

การทำงานทุกงานต้องมีค่าใช้จ่าย เพื่อผลักดันให้งานสำเร็จ ขอแต่เพียงให้การใช้จ่ายนั้นอยู่ในขอบเขตวัตถุประสงค์ของงาน ลักษณะของวิธีการทำงานก็บ่งบอกว่าควรมีค่าใช้จ่ายอะไรที่จำเป็นบ้าง เช่น ผมไปซื้อวัว-ควายจากโรงฆ่าสัตว์โดยตรง และเป็นผู้เลือกพื้นที่ที่จะบริจาค ว่าจะลงพื้นที่ไหน ก็ต้องขนวัว-ควายจากโรงฆ่าสัตว์ไปลงพื้นที่นั้น เช่นปัจจุบัน จากตัวจังหวัดลำปางไปอำเภอเมืองปาน ตำบลบ้านขอ ระยะทาง 50 กิโล มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าต้องแจ้งให้ผู้บริจาคทราบ ว่าต้องมีค่าขนส่ง เหมือนกันว่าเอาเงินที่เขาบริจาคซื้อควายมาจ่ายค่ารถทำไม ผมอยากจะถามกลับว่า แล้วให้ผมเดินจูงวัวควายเป็นฝูงจากลำปางไปตำบลบ้านขอเหรอครับ อย่าว่าแต่ค่ารถขนควายเลยครับ ชาวบ้านที่มาช่วยผมก็ต้องเลี้ยงข้าวเขา พระมาสวดก็ต้องเอาเงินที่ท่านบริจาคนี่แหละใส่ซอง รวมความว่าทุกรายการที่ต้องจ่ายเรื่องนี้ ผมก็จ่ายหมด ฟิลม์ถ่ายรูป ค่าอัดรูป จ่ายหมด ส่วนการบริจาคของผม ก็บริจาค คนละเรื่อง ทุกปีผมจะเป็นคนปิดท้ายทุกรอบที่ซื้อรอบสุดท้าย ไม่จำกัดจำนวน แล้วแต่ว่าเหลือวัวควายตกค้างในโรงฆ่ากี่ตัว ถ้าจะทำตามที่ท่านแนะนำในปีต่อไป ผมก็ต้องแจ้งว่า ขอเชิญทุกท่านร่วมบริจาคไถ่ชีวิตโค-กระบือ ร่วมบริจาคค่ารถขนวัว-ควาย ร่วมบริจาคค่าเชือกผูกวัว-ควาย ร่วมบริจาคค่าฟิลม์ถ่ายรูป ร่วมบริจาคค่าลิโพให้คนขับรถ ร่วมบริจาคค่าเลี้ยงอาหารผู้ที่มาช่วยงาน และอะไร ๆ อีกร้อยแปดอย่างบานตะโก้กระมังครับ

มันทำงานคนละแบบ ท่านรวบรวมเงินบริจาค แล้วแค่ไปโรงฆ่าสัตว์จังหวัดปทุม แจ้งให้หน่วยงานของรัฐมารับไป ทำแบบนี้มันไม่มีค่าใช้จ่ายจริง แค่น้ำมันเติมรถเรา วิ่งไปจังหวัดปทุมฯ เรื่องเล็ก ผมขับไปลำปาง ไป-กลับ วิ่งธุระตระเวนซื้อวัว-ควาย เข้าหมู่บ้าน 5 หมู่บ้าน 4 พันยังไม่อยากจะพอ แล้วไม่นอนหรือครับ ท่านจะให้ผมนอนกะบะท้ายรถหรือ ไปอาศัยนอนตามปั๊มหรือครับ มีเรื่องเดียวที่ผมไม่เอาเงินส่วนรวมมาจ่าย คือค่าอาหารของผมกับผู้ร่วมเดินทาง นอกนั้นต้องจ่ายหมดครับ ใครที่รู้เช่นนี้แล้ว ไม่บริจาคในปีนี้ หรือปีต่อไป ก็ไม่ว่าอะไรครับ เพราะเหนื่อยเหลือเกิน ยิ่งเงินบริจาคมามากเท่าไหร่ ภาระความรับผิดชอบ ความเหน็ดเหนื่อยก็เป็นเงาตามตัว เมื่ออาสามาแล้วก็ไม่ขอบ่น แต่ขอบอกว่า ไม่แคร์ครับ ถ้าเห็นว่าวิธิการที่ผมทำอยู่ไม่ถูกต้อง ก็ไม่ต้องมาร่วมกัน ที่อดทนทำมาตลอด 15 ปี เหตุผลสำคัญข้อเดียว คือความเมตตาสงสาร ผู้ที่เขาจะรอดชีวิต ที่รอคอยอยู่ เขาเจ็บปวดทุกข์ทรมาณเหลือเกิน ใครหนอจะรับรู้? ใครหนอจะเข้าใจ? ผมไปอยู่ท่ามกลางพวกเขาในสถานะการณ์แห่งความเป็นความตาย ได้รับรู้ พบเห็น บรรยากาศอันหดหู่นั้น แล้วมันลืมไม่ลง เสียงทำนองนี้โดนมาตลอด ถ้าเอาเป็นธุระก็ต้องหยุด เสียดายชีวิตที่จะรอด บุญกุศลโดยส่วนตัวผมแล้วพอเพียงแล้ว พอพึ่งตนเองได้แล้ว แต่นึกถึงท่านที่ต้องการจะช่วยชีวิตสัตว์จะได้มีโอกาสทำในสิ่งที่ปรารถนา

ขอให้พวกท่านผู้ใจบุญทั้งหลายสังเกตให้ดี ทำไมมีกลุ่มรับบริจาคไถ่ชีวิตโค-กระบือมากเหลือเกิน บางกลุ่มลงทุนพิมพ์โบชัวร์ส่งไปตามที่อยู่ในสมุดโทรศัพท์ ผมเองก็เคยได้รับ จัดตั้งเป็นมูลนิธิไถ่ชีวิตโค-กระบือโดยเฉพาะ มีกรรมการมูลนิธิเป็นสิบ ๆ คน ผมเห็นแล้วก็งง ใจบุญอะไรขนาดนั้น ผมทำปีละครั้งก็แทบแย่อยู่แล้ว ต้องทิ้งร้านไป เงินส่วนตัวต้องควัก การทำแบบที่เล่าให้ฟัง ต้องใช้เงินจำนวนมาก เพราะส่งเดาสุ่มไปตามที่อยู่ในสมุดโทรศัพท์ บางท่านอาจจะเคยได้รับ หากเป็นบริษัทหรือห้างร้าน วันนี้ขอเปิดประเด็นแค่นี้ก่อนครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
มะลิท่าพระจันทร์
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 25 ธ.ค. 2006
ตอบ: 13

ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.พ.2007, 9:36 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เหลือเวลาอีกเพียง 33 วันเท่านั้น
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
มะลิท่าพระจันทร์
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 25 ธ.ค. 2006
ตอบ: 13

ตอบตอบเมื่อ: 05 ก.พ.2007, 6:07 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เหลือเวลาอีกเพียง 29 วันเท่านั้น
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
มะลิท่าพระจันทร์
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 25 ธ.ค. 2006
ตอบ: 13

ตอบตอบเมื่อ: 23 ก.พ.2007, 10:29 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เหลือเวลาอีกเพียง 10 วันเท่านั้น
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง