Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 คนไม่มีศาสนา อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
พรเทพคนงาม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 18 ต.ค.2006, 1:36 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เนื่องจากในปัจจุบันนี้การไม่นับถือศาสนาไหนเลยกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่องๆ ทั่วโลก และคนในเมืองไทยเองก็มีคนมีความคิดแบบนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

จากการสอบถามเพื่อนของผมที่ไม่มีศาสนา เขาได้บอกว่าศาสนานั้นเป็นเพียงแค่สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อการอยู่ร่วมกันได้ในสังคมเท่านั้น เหมือนกับกฏหมายที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้ในสังคม เขาได้บอกว่าถึงเขาไม่มีศาสนาเขาก็เป็นคนดีในสังคมได้ ไม่จำเป็นต้องมีศาสนา ไม่เชื่อสวรรค์ นรก แต่จากที่ผมเห็น เขายังผิดศีลข้อ 5 ข้อ 3 อยู่เลย

และจากความเห็นส่วนตัว คนที่ชอบอ้างว่าตัวเองเป็นคนดีอยู่แล้วไม่เบียดเบียนใครไม่จำเป็นต้องเข้าหาธรรมะก็ได้ ผมเห็นคนพวกนี้จริงๆแล้วก็ยังมีโลภ โกรธ เกลียด อิจฉา ตระหนี่ เอารัดเอาเปรียบกัน และพอถูกคนอื่นเอารัดเอาเปรียบก็ทนไม่ได้ ทำใจไม่ได้ และหาทางออกจากความทุกข์ไม่ได้ แต่ชอบบอกว่าตัวเองดีอยู่แล้ว

สังคมทุกวันนี้ก็ขาดธรรมะ เพียงแค่เด็กมัธยมต้นก็เสียตัวกันเป็นแถวๆ แล้ว เด็กมัธยมปลายชายหญิงตั้งวงร่วมเพศกันในห้องเรียน โดยมีเพื่อนๆ คอยเชียร์อยู่รอบๆ แล้วก็เปลี่ยนคู่ไปเรื่อยๆ เด็กชายต่อยหน้าครูอาจารย์

และผมเห็นคนที่ชีวิตนี้ไม่สนใจธรรมะ พอถึงวันใกล้ตายก็มาบ่นว่ายังไม่อยากตายทำหน้าเครียดๆเป็นที่น่าสงสารนัก เห็นได้ว่าสุดท้ายก็หนีทุกข์ไม่พ้น

แค่นี้แหละครับ จบแล้ว หลับ
 
nok
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 21 ต.ค.2006, 6:54 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เราเองอยู่ต่างประเทศ เมื่ออยู่ก็ต้องไปเรียนภาษาบ้านเขาเราเจอเพื่อนๆคนไทยที่โรงเรียน เราดีใจมากและชวนคุยกัน เราก็ได้คุยกับเพื่อนคนไทยที่โรงเรียนว่าเรามีหนังสือมาจากเมืองไทยถ้รชอบอ่านจะนํามาให้ แต่เรามีเป็นหนังสือพระ ธรรมะ เรายังพูดไม่จบเลย เขาบอกว่าได้ยิน พระ แล้วจะอ้วก เราไม่เข้าใจจริงๆเพราะอะไรเราเสียความรู้สึกมากกับคํา คํานี้
 
วรากร
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 22 ต.ค. 2006
ตอบ: 5

ตอบตอบเมื่อ: 22 ต.ค.2006, 9:22 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การไม่นับถือศาสนา หรือนับถือศาสนา เป็นเรื่องเฉพาะตน เราไม่สามารถที่จะไปบังคับใครได้ เขาผู้นั้นต้องเห็นความสำคัญของศาสนาเอง

การนับถือศาสนาก็เช่นกัน ผู้ที่สามารถนำเอาคำสอนมาปฏิบัติจนสามารถพ้นทุกข์ได้ นั้นและคือผู้นับถืออย่างถูกต้องแท้จริง

พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ ท่านหลุดพ้นแล้ว จีงแสดงธรรมโปรดให้เราปฏิบัติตาม ด้วยความเมตตา และวาสนาของเราที่ได้พบ ได้ฟังธรรมนั้น

การพ้นทุกข์ ไม่ใช่การจะช่วยเหลือใคร แต่เป็นการช่วยเหลือตัวเราเองก่อนเป็นสำคัญ จากนั้นถึงไปช่วยผู้อื่นได้ ไม่เช่นนั้น เราและเขาก็จะจงลงไปในวัฏฏสงสารเหมือนกัน เราอาจจะลำบากกว่าเขาก็ได้ ใครจะรู้อนาคต
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ชัย
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 26
ที่อยู่ (จังหวัด): ร้อยเอ็ด

ตอบตอบเมื่อ: 26 ต.ค.2006, 3:40 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านครับผม
ผมไม่คิดว่าคนไม่มีศาสนาจะมีอยู่ในโลกนี้นะครับ
เหตุ
1. เราทุกคนต้องเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
2.เราทุกคนมีการดำเนินชีวิตในแบบของแต่ละคน
3.ทุกสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
ฯลฯ
ผล
1.การเกิดแก่เจ็บตายเป็นสัจธรรมที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนไว้ในศาสนาพุทธ
2.การดำเนินชีวิตของคนเรา ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการต่อสู้เพื่อรักษาชีวิต มี อิทธิบาท 4 คือ
ฉันทะ มีความพอใจในสิ่งที่เราทำ
วิริยะ มีความเพียรพยายามในการงานที่ทำ
จิตตะ มีจิตฝักใฝ่ในงานที่ทำ
วิมังสา หมั่นใช้ปัญญาพิจารณาใคร่ครวญ ตรวจตราหาเหตุผลและตรวจสอบข้อยิ่งหย่อนของงานเพื่อปรับปรุงแก้ไข วางแผน วัดผล เป็นต้น
3.ทุกสิ่งทุกอย่างไม่แน่นอน ไม่คงที่ ไม่คงทน
และทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดี ถ้าคุณเป็นคนดี ก็มีศาสนาในตัวเองแล้วครับ
 

_________________
ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
แมวขาวมณี
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307

ตอบตอบเมื่อ: 02 พ.ย.2006, 9:07 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คนที่อ้างว่าไม่ต้องการนับถือศาสนาอาจเพราะว่ากลัวความรู้สึกผิดในใจตัวเองอยู่ เป็นกลไกทางจิตชนิดหนึ่งของคนที่ได้ทำความผิดไว้ลึกๆในใจ
ประเภทกลัวอย่างหนึ่ง ขาดหิริโอตัปปะอย่างหนึ่ง และจิตใจมนุษย์ย่อมไหลลงสู่ที่ต่ำเหมือนน้ำ
พวกนี้จริงๆแล้วขาดความรับผิดชอบต่อการกระทำของตน จึงอ้างพฤติกรรมที่พอมีดีบ้างมาว่าไม่เบียดเบียนสังคมแต่ก็กำลังละเมิดศีลอยู่นั่นเอง
ทุกศาสนา สอนให้เป็นคนดี และลงโทษคนทำความชั่ว
คนที่ทำความชั่วจึงกลัวศาสนาและกล่าวติเตียนเรื่อยไป
ตกใจ ตกใจ
 

_________________
พฤษภกาสร อีกกุญชร อันปลดปลง
โททนต์ เสน่งคง สำคัญหมาย ในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตย์ทั่ว แต่ชั่วดี ประดับไว้ ในโลกา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง