Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 การปฏิบัติธรรมในยุคปัจจุบัน (1) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ขนุนธรรม
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 26 ต.ค. 2006
ตอบ: 14
ที่อยู่ (จังหวัด): นครราชสีมา

ตอบตอบเมื่อ: 27 ต.ค.2006, 8:44 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การปฏิบัติธรรมในความคิดของคนในปัจจุบันคงหนีไม่พ้นความคิดที่ว่า

- ต้องรอให้แก่ก่อนจึงค่อยเข้าวัด

- มีแต่เฉพาะคนแก่เท่านั้นที่เข้าวัด

- คนหนุ่มที่เข้าวัดมักเป็นคนที่ล้าสมัย หัวโบราณ

- การทำบุญนั้นที่ถูกต้อง ต้องทำที่วัดเท่านั้น

- เมื่อประสบโชคร้าย เคราะห์ร้าย ความล้มเหลวในชีวิต ก็คิดว่ามีเคราะห์กรรมต้องไปทำบุญหรือเสดาะเคราห์

- การทำสังฆทานนั้นต้องเป็นถังสีเหลืองเท่านั้น

- การปฏิบัติธรรมต้องนั่งนิ่งๆ หลับตา ทำใจให้บริสุทธิ์ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้คน เพื่อรักษาจิต
ฯลฯ

และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ค่อนข้างผิดกับความเป็นจริงมาก เพราะการปฏิบัติธรรมที่แท้จริงนั้นคือการกระทำทุกๆอย่างในชีวิตประจำวันของเรานี่เอง ไม่ได้มีอะไรยุ่งยากซับซ้อนอย่างที่คุณเข้าใจ และทุกท่านก็ได้เคยสัมผัสกับธรรมมาแล้วตลอดอายุที่ผ่านมา เช่น การกิน เดิน นั่ง นอน ขับถ่าย พูด ทำงาน ฯลฯ แต่การกระทำของท่านนั้นยังไม่ถือว่าเป็นการปฏิบัติธรรมร้อยเปอร์เซนต์เพราะ ทำโดยที่สักๆแต่ว่าทำไปแต่ไม่เคยรู้สึกตัวเลยว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่
เช่น
- คุณเดินจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งคุณมีความคิดว่าอจะเดินไปให้ถึงสถานที่นั้นๆ แล้วคุณก็เดินไปเลยแต่ระหว่างที่คุณเดินไปนั้นคุณไม่รู้สึกตัวว่าคุณกำลังเดินเลยแม้แต่น้อย เพราะคุณมัวแต่ไปสนใจในสิ่งภายนอกหรือวุ่นอยู่กับความคิดภายในใจของตัวเอง จึงไม่รู้สึกตัวว่าคุณกำลังเดินอยู่

- คุณคุยกับเพื่อนสนิทของคุรโดยเม้าส์กันอย่างเป็นสุข สนุกสนาน คุณรู้ในเนื้อความที่พูดกันอย่างชัดเจนแต่คุณไม่รับรู้อาการที่คุณกับลังพูดอยู่

- คุณกินอาหารอย่างหนึ่งที่ถูกปาก ซึ่งเมื่อเจ้าของร้านนำมาเสริฟ คุณมองเห็นอาหารเหล่านั้นสวยงาม น่ารับประทาน แล้วคุณก็กินอาหารในจานนั้นอย่างเอร็ดอร่อย ซึ่งคุณรู้ในรสชาติอาหารนั้น แต่คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองกำลังกินข้าวอยู่

- คุณมีเรื่องวุ่นวายใจเข้ามาให้คิด ซึ่งคุณก็เอาแต่คิดๆมัน โดยคุณรู้ในเรื่องที่คิดว่าเป็นเรื่องอะไรต่ออะไร แต่คุณไม่รับรู้ว่าตนเองกำลังมีอาการคิดอยู่

จะเห็นได้ว่าจากตัวอย่างที่ยกมาให้ในชีวิตประจำวันของเราล้วนแต่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติธรรมทั้งสิ้น เพราะทุกสิ่งเป็นธรรมหมด แต่ทำไมคุณถึงไม่รู้ว่าคุณกำลังปฏิบัติธรรมอยู่ก็เพราะคุณ ลืมกายลืมใจของตัวเองจนหมดสิ้น มัวแต่สาละวนกับสิ่งอื่นๆ
และอีกประการหนึ่งซึ่งสำคัญมากก็คือคุณมองการดำเนินชีวิตประจำวันไม่ถูกมุม เช่นเวลาคุณเดินคุณไม่มีสติรับรู้อาการเดิน คุณกินคุณไม่มีสติรับรู้ในการกิน ก็คืออาการสักแต่ว่าทำๆไปให้เสร็จๆไปกิจกรรมหนึ่ง
ซึ่งเมื่อคุณมองไม่ถูกมุม และไม่มีสติในการดำเนินชีวิต คุณก็จะไม่รับรู้ในเรื่องของความทุกข์ ความไม่จีรังยั่งยืนของสรรพสิ่ง และความไม่เป็นตัวของตัวเองและความไม่สามารถบังคับให้เป็นไปตามใจปราถนาได้
เมื่อคุณไม่เห็นอาการทั้ง 3 ที่กล่าวมา คุณก็เสมือนว่าไม่ได้ปฏิบัติธรรม ทั้งๆที่มีธรรมะเข้ามาให้คุณปฏิบัติแทบทุกวินาที


ซึ่งวันนี้ขอหยุดเอาไว้เพียงเท่านี้ก่อน ในวันต่อไปเราจะมาพูดกันว่า แล้วการมองการดำเนินชีวิตให้ถูกมุมนั้นทำอย่างไร
สวัสดี
 

_________________
ไม่มีสิ่งใดที่ต้องทำ และก็ไม่ได้ทำเพื่อสิ่งใด เพราะหาตัวตนที่แท้จริงได้ไม่
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง