Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
การแก้กรรมโดยการบรรเทา
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
กฎแห่งกรรม
ผู้ตั้ง
ข้อความ
โอ่
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 17 พ.ย.2004, 9:48 pm
การแก้กรรมนั้นทำไม่ได้หรอก แต่ว่าเราทำบางอย่างกับกรรม(เวร)ได้ สมมุติว่าเราฆ่าคน เราต้องได้รับกรรมนั้น แต่การได้รับกรรมนั้น ได้รับในนรกก็ได้ ได้รับในโลกมนุษย์หลายๆชาติโดยไม่ตกนรกก็ได้ แต่ได้รับกรรมในโลกมนุษย์นี่ก็ไม่สบายหรอก หากดีกว่าตกนรก เหมือนคนทำบุญเสวยบุญในสวรรค์ก็ได้ เสวยในมนุษย์ก็ได้
แต่การเสวยกรรมในนรกและในสวรรค์นั้นยาวนานกว่าในโลกมนุษย์ยิ่งนัก
ในโลกมนุษย์นี่แหละเราทำสิ่งที่เข้าใจเหมือนดังว่าเป็นการแก้กรรมได้
แต่จริงๆไม่ใช่เราทำให้เกิดการรับผลกรรม และทำให้เรามีความทนทานในการรับผลกรรมนั้น คือกรรมนั้นสามารถเอาเราถึงตาย(เช่นเป็นมะเร็ง) เราสู้เพื่อยืดชีวิตหรือเอาชีวิตรอด วิธีการคือทำให้ร่างกายนี่ได้รับบุญใมกขึ้น เพราะเมื่อเราเสวยผลกรรมชั่วกรรมนั้นจะตัดรอนบุญแห่งอายุขัย ให้เราสู่กาลมรณะ เราไม่มีทางที่จะเอาบุญเก่ามาต่ออายุขัยได้ เพราะกรรมมันตัดรอนมีพลังมาก เราจึงถวายทาน รักษาอุโบสถศีล ภาวนา ทำให้เกิดบุญในปัจจุบันอย่างเต็มที่เพื่อต่ออายุขัยจากบุญที่เราสร้างขึ้น (คือสร้างกรรมดีใหม่) กรรมดีใหม่นี่จะเข้ามาและพยายามยืดชีวิตให้เรามีเวลาทนรับผลกรรมชั่ว ถ้าผลกรรมชั่วนั้นไม่หนักมาก และเราทำบุญมาก เราจะมีแต่ความเจ็บทรมานรุนแรง ถ้าเราเข้มแข็งปฏิบัติธรรม จะเจ็บปางตายแต่ไม่ตาย ถ้าทนได้จนผลกรรมชั่วเบาบางหรือหมดลง เราก็จะพ้นจากกรรมชั่ว(จริงๆรับผลไปแล้ว) ลักษณะอย่างนี้เป็นการแก้กรรม (บรรเทากรรม)
ปุ๋ย
บัวเงิน
เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
ตอบเมื่อ: 18 พ.ย.2004, 9:41 pm
สาธุค่ะ.....
กรรมที่ก่อขึ้นด้วยการประทุษร้ายทางกาย ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ด้วยกัน หรือจะเป็นเพียงชีวิตสัตว์ก็แล้วแต่ ไม่มีทางบรรเทาเบาบาง หรือไปตัดกรรม หรือไปแก้กรรม ด้วยพิธีกรรมต่างๆได้เลยแม้แต่น้อย ชีวิตก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต ไม่ชดใช้ด้วยชาตินี้ หนักหนาสาหัสมากถึงกับชดใช้ชีวิตกันข้ามพ้นข้ามชาติก็มี
ส่วนกรรมที่ประทุษร้ายกันด้วยวาจา ไม่ว่าจะด้วยการด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย เสียดสี เหน็บแนม หรือแม้แต่การสาปแช่ง หากผู้ปฏิบัติถือสัจจะที่มั่นคง จะกล่าววาจาใดก็เป็นไปด้วยความเมตตา กรุณา เมื่อครบวาระแห่งกรรมมาบรรจบ ไม่ว่าเวลาใด สถานที่ใด ก็สามารถสลายกรรมที่ก่อขึ้นมาด้วยวาจาให้สลายลงไปได้ในเวลานั้น ขณะนั้น ณ สถานที่นั้นได้
แต่ต้องเป็นผู้ปฏิบัติจริงๆ ไม่ใช่ไม่ได้ปฏิบัติ พอก่อกรรมขึ้นมา เมื่อรู้สึกสำนึกตัว ก็มานั่งขออโหสิกรรม อย่างนี้ไม่ได้ ยิ่งเป็นผู้ปฏิบัติด้วยแล้ว ยิ่งต้องมีสติระลึกรู้อยู่ตลอด ไม่ว่าจะกล่าววาจาใด
ทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว ทุกคนต้องชดใช้ ไม่จำเป็นต้องตกนรก หรือขึ้นสวรรค์ แต่ในปัจจุบันชาตินี่เท่านั้น หากแต่จะเท่าทันหรือไม่เท่านั้นเอง
มณี ปัทมะ ตารา
โอ่
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 24 พ.ย.2004, 5:07 pm
เมื่อรู้ว่ากรรมชั่วตามมาถึง ผู้ปฏิบัติธรรมส่วนมากย่อมทราบโดยนิมิตที่มาเตือนตลอด และทราบในอดีตหนหลังอันยาวไกลของตนได้ว่าได้ทำกรรมอะไรไว้ชัดเจน กรรมนั้นมาเตือนให้ทำความดี และในกรณีนี้แหละเจ้ากรรมนายเวรมีจริง ถ้าเขาอยู่ในนรก ยมบาลจะพาเขามาพบเราและแจ้งให้เราทราบเลย นี่เป็นเรื่องจริง และยมบาลนี่แหละเปลี่ยนกาลมรณะแล้วแจ้งให้เราทราบได้ เขาจะบอกเราก่อนเราจะป่วยเจ็บก่อนหลายปีและบอกเป็นระยะๆ เมื่อเราทำบุญภาวนาเพราะเห็นมรณัสติตอนป่วยก้ดี เห็นความจริงของชีวิตก็ดีว่าชีวิตที่เกิดมาที่เราเป็นไปนั้นช่างไร้สาระ ความจริงเป็นอีกอย่างหนึ่ง โลกที่แท้จริงก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง เมื่อเราเห็นชัดจนปานนี้และเสียดายว่าหนหลังที่ผ่านมาเราช่างโง่ยิ่งนักที่ไม่ศึกษาธรรมะนี้ ไม่ปฏิบัติธรรมะนี้ แต่เราจะเอาเวลาน้อยที่ความตายมองเห็นใกล้ๆนี่ปฏิบัติและถ้าจะมีชีวิตเรารู้แล้วว่าควรเอาชีวิตนี้ไปทำอะไร เมื่อเรานึกและปฏิบัติเช่นนี้ กรรมทั้งปวงก็แสดงอดีตนั้นให้เราเห็นและให้เราเตรียมรับทุกข์เวทนานั้น แต่ว่ากาลมรณะนั้นถูกเปลี่ยนไปแล้วเมื่อเราเห็นมรณัสติชัดปานนั้น เราจะเข้าใจสิ่งที่เราประสบนั้นด้วยตนเองทั้งหมด และความตายก็มาถึงไม่ได้เหมือนกัน เพราะว่ากิจที่เราทำยังไม่เพียงพอ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
กฎแห่งกรรม
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th