| ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
ปิงปอง ม.ราม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
28 ก.ย. 2006, 8:13 pm |
  |
ในโลกที่วุ่นวายสับสนขณะนี้บางคนก็สามารถมีความสุขกับชีวิตได้อยู่ แต่บางคนกลับไม่ ต้องทนกับความทุกข์ที่บางทีก็บอกใครไม่ได้ กลายเป็นคนเคร่งเครียดกับชีวิต มีคนเป็นโรคประสาท โรคจิตเพิ่มมากขึ้น บางคนหาทางออกด้วยการพึ่งยาเสพติด หันไปกินเหล้าเมายา เสพยาบ้าเพื่อหาความสุขชั่วคราวแต่เป็นการยิ่งเพิ่มความทุกข์ให้กับตัวเอง ในปัจจุบันก็มีอินเตอร์ที่พอเป็นเทางออกของคนบางคนมีเกมส์ออนไลน์ให้เล่น การเล่นแชทที่พอดับเหงาให้คนเราได้บ้าง อยากทราบว่าทุกท่านมีวิธีหาความสุขแก้เครียดแก้เหงาย่างไรบ้าง คำตอบหลากหลายครับไม่จำเป็นต้องอิงกับธรรมะก็ได้ เอาเป็นวิธีที่ตัวเองใช้ได้ผลอยู่เสมอนะครับ ขอบคุณ |
| |
|
|
|
 |
ปุ๋ย
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
29 ก.ย. 2006, 2:40 am |
  |
วิธีที่ตนเองใช้ได้ผลอยู่ คือ ฝึกเจริญสติในอิริยาบทตรงกาย ดูจิตปัจจุบัน เมื่อพอจะมีเวลาบ้างก็จะไปวัดเพื่อบวชเนกขัมมะ หรือมีโอกาสก็เข้ากรรมฐานแล้วแต่เวลาจะอำนวย ส่วนตัวแล้วจะสนุกกับการปฏิบัติธรรม มากกว่าที่จะไปนั่งกด นั่งเครียด นั่งอยากเป็นนั่นนี่ ช่วยใครได้ก็ช่วย ช่วยไม่ได้ก็ปล่อย ส่วนในสายตาผู้อื่นหรือผลจะออกมาเป็นอย่างไร.....ไม่หวัง.....พอใจกับความเป็นอิสระที่จะเดินทางไปปฏิบัติธรรมโดยไม่ต้องมานั่งรอใคร
เจริญในธรรม
มณี ปัทมะ ตารา  |
| |
|
|
   |
 |
พระจันทร์ยิ้ม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
29 ก.ย. 2006, 1:13 pm |
  |
นั่งฟังเพลง นั่งสมาธิ ท่องเที่ยวกับครอบครัว บางวันแอบแว๊บงานไปเที่ยวตจว.ใกล้ๆกับคนที่รู้ใจ เล่นกีฬากับเพื่อนๆ(แบดมินตัน) นัดคุยกับเพื่อนสนิทสี่ห้าคน กินข้าวนอกบ้าน ไปเดินห้างฯ( ไม่ค่อยได้ซื้ออะไร คือได้ดูสาวๆแต่งตัวสวยๆปิ๊งๆ ) ดูหนัง เล่นเน็ตบ้าง รู้ว่ามีคนที่เรารักและมีคนที่รักเราบ้าง ก็ประมาณนี้ครับ
ปล.เป็นคำถามที่ดีครับ |
| |
|
|
|
 |
จ๊ะเอ๋
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
29 ก.ย. 2006, 10:53 pm |
  |
หาที่บรรยากาศดีๆ สไตล์เรานั่งชมให้เพลินไปเลย หรือไม่ก้อ
ไปหาของกินอร่อยๆแบบอยากกินตอนนั้นน่ะ คุณจะมีความสุบไปกับรสชาติของอาหารจนลืมอารมณ์เศร้าไปเลย ไม่งั้นก้อ
นอน
ที่สำคัญในแต่ละวัน หรือสัปดาห์คุณต้องมีเวลาเป็นส่วนตัว (หมายถึงคนเดียว) เพื่อใช้ในการทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันหรือสัปดาห์
พราะอารมณ์เศร้าไม่ว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน จะเกิดจากผลของการกระทำของเรานั่นเอง
ดังนั้นถ้าคุณคิดทบทวนแล้วพบว่าตอนไหน สถานการณ์ไหนของคุณที่ก่อให้เกิดอารมณ์ดังกล่าว เราจะได้หลีกเลี่ยง |
| |
|
|
|
 |
ผ่านมา
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
30 ก.ย. 2006, 10:42 am |
  |
ความสุขของชาวพุทธ
- สมาทานศีล 5 ตอนเช้า ทุกวัน
(สุข เกิดจากการ ระงับทุกข์และเวรภัย)
- สวดมนต์ บททำวัตรเช้า+ เย็น
(สุข เกิดจากการ เคารพจริงในคุณอันดีงามของพระ)
- สะสมบุญ คือ ทำบุญกิริยาวัตถุทั้ง 10 ประการ เช่น การให้ทาน, ฟังธรรม ฯลฯ ทุกวัน
(สุข เกิดจากการ บำเพ็ญบุญ)
- นั่งสมาธิ เป็นเวลา 15 30 นาที ทุกวัน
(สุข เกิดจากการ ทำใจที่สงบนิ่งผ่องใส)
- หมั่นระลึกถึง คุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ (เช่น นึกคำว่า พุทโธ ในใจ) ตลอดทั้งวัน
(สุข เกิดจากการ ระลึกถึงคุณอันดีงามของพระ)
- หมั่นระลึกเสมอว่า กายนี้เป็นทุกข์ โลกนี้เป็นทุกข์ กายนี้ต้องตายแน่ๆ
เมื่อตายแล้ว เราไม่ต้องการเกิดเป็นมนุษย์ เทวดา พรหม อีกต่อไป
เพราะ มนุษย์ เทวดา พรหม ยังไม่พ้นทุกข์
เราต้องการอย่างเดียวคือ ไปพระนิพพาน เพราะ พ้นทุกข์ อย่างแท้จริง
(สุข เกิดจากการ มีปัญญาเห็นชัดในอริยสัจ4)
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอให้โชคดี ครับ  |
| |
|
|
|
 |
อธิชาตินันท์
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 19 พ.ค. 2006
ตอบ: 24
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.
|
ตอบเมื่อ:
03 ต.ค.2006, 11:00 pm |
  |
ความสุขยิ่งดิ้นรนแสวงหาก็ยิ่งทุกข์
เพราะไม่มีความสุขใดที่จีรังยั่งยืนครับ
เราสุขก็ชั่วขณะเท่านั้น
สำหรับผมแล้วก็พยายามรักในสิ่งตนเองเป็น
รักคนรอบข้าง
ทำดีกับคนอื่นจริงใจกับคนอื่น
เราก็จะอิ่มใจครับ
ดีกว่าความสุขจากวัตถุ
แต่ก็มีบ้างเหมือนกันที่ไปยึดติดกับวัตถุครับ
 |
| |
|
|
   |
 |
พิชิต
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
04 ต.ค.2006, 12:25 am |
  |
สำหรับผม ถ้าได้ทำสิ่งที่ผมชอบ อยู่ในสถานที่ที่เราพอใจ นอกจากนี้ก็อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง พยายามทำความดีมากๆ ไม่ว่า จะให้ทาน นั่งสมาธิ แผ่เมตตาให้กับสัตว์โลก เพราะเชื่อว่าผู้ทำความดีกย่อมมีความสุขแม้ความตายก็ไม่น่ากลัว ชีวิตหลังความตายน่าจะไปอยู่ที่ดีๆ ที่สำคัญจิตใจต้องสะอาดถ้าจิตใจสะอาดก็มีความสุข |
| |
|
|
|
 |
แมวขาวมณี
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307
|
ตอบเมื่อ:
05 ต.ค.2006, 2:23 pm |
  |
ดีใจจังมีคนคล้ายเรา หลายคนในการหาความสุข (ซึ่งไม่ใช่การหาวิธีดับทุกข์นะคะ)
ก็อ่านหนังสือค่ะชอบมากอ่านได้ทุกประเภท มีความสุขมากที่ได้อ่าน ลืมกินลืมนอนเลยค่ะ(ล่าสุดก็ "นายอินทร์ ผู้ปิดทองหลังพระ"เพิ่งมีเวลาอ่าน)
ถ้ามีเวลาก็ขับรถไปเที่ยวแล้วแต่ว่าขณะนั้นๆ อยากไปไหน วัดวาอาราม ทะเล น้ำตก ห้างสรรพสินค้า |
| |
_________________ พฤษภกาสร อีกกุญชร อันปลดปลง
โททนต์ เสน่งคง สำคัญหมาย ในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตย์ทั่ว แต่ชั่วดี ประดับไว้ ในโลกา |
|
   |
 |
ccc
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
12 ต.ค.2006, 4:11 pm |
  |
ดับกิเลสทั้งหมดแล้วจะเจอสุข |
| |
|
|
|
 |
กรัชกาย
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
13 ต.ค.2006, 10:19 am |
  |
จะมีความสุขได้ต้องมีที่ใจลง คือ มีที่ ที่ให้จิตใจได้พักผ่อน ที่นั่นคือลมหายใจ ตามลมหายใจไม่เป็นทุกข์
ถ้าวิ่งตามสิ่งอื่นที่ไหลเข้ามาทางตา ทางหู เป็นต้น ควรมีสติ ตั้งสติให้ดี เพราะสิ่งที่ตามภายนอกนั้นกระแสแรงกว่าคุณธรรมในใจเรา กระแสนั้นจึงฉุดกระชากลากไปตามมัน
อันที่จริงอารมณ์ภายนอก มีรูปารมณ์เป็นต้น คงอยู่ปกติอย่างนั้นแหละ แต่เราขาดแรงต้าน จึงได้เป็นอย่างที่ว่านั่น |
| |
|
|
|
 |
มะดะ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
14 ต.ค.2006, 12:23 pm |
  |
ความสุขของเรา ก็ ค่อนข้างสัมผัสมาหลายรูปแบบ
. ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ แบบเป้เข้าป่า ตะรอนทัวร์ไปเรื่อยๆ
...................กลับถึงบ้าน ก็ถามตัวเองว่า นั่นคือการพักผ่อนหรือ คำตอบคือ ไม่ใช่เลย อยู่กะครอบครัว คือสุข ที่สุดเหรอ แค่ระดับหนึ่ง
...................ในที่สุด ก็ทำงานแบบไม่มีวันหยุด เพื่อเงิน จะได้ มาสนองความสุขหลายๆอย่างที่เราอยากได้ แต่สิ่งที่ได้มาพร้อมเงิน คือ ความทุกข์ทางกาย
....................สุดท้าย เราก็ ลดงาน มุ่งหน้าเข้าหาวัด หรือ ธรรมะ ให้มากกว่าเดิม ความอยากได้ในกามคุณต่าง ความยึด ต่างๆ ลดน้อยถอยลง นี่คือ สุข ของเรา สาธุ
ประเสริฐเท่าใหร่ที่ได้เกิดมา ใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา เร่งบำเพ็ญเพียรกันเถิด เจริญในธรรม |
| |
|
|
|
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
16 ต.ค.2006, 10:11 am |
  |
ผมรักครอบครัว
ผมรักครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณ
ผมรักตัวเอง
ผมรักเพื่อนๆ
ผมรักธรรมะ ธรรมชาติ ต้นไม้ ทะเล ภูเขา
ผมรักเสียงเพลง
ผมรัก.....
เวลาเรารู้สึกรักใคร รักอะไร อย่างบริสุทธิ์ใจ อย่างมีสติ อย่างมีเมตตากรุณา
เวลานั้นจึงเกิดความรู้สึกบางอย่างภายในจิตใจเรา
แม้จะเป็นเพียงห้วงเวลาสั้นๆก็ตาม
แต่เรายังจำความรู้สึกนั้นได้อย่างยาวนาน...อาจนานจนนาทีสุดท้ายของชีวิตเรา
ในห้วงเวลาแห่งความรักอันบริสุทธิ์...ความสุขหรือความทุกข์ก็แยกไม่ออกแล้ว
มีบางคนเคยบอกว่าจะตัดกิเลสให้ตัดความรักออกก่อน ก็จะตัดโลภ โกรธ หลงได้ง่าย
เป็นความจริงทีเดียว...
เพียงแต่ผมขอพยายามละโลภ โกรธ หลง ก่อน
ส่วนความรักขอไว้ละตอนนาทีสุดท้ายของชีวิตก็แล้วกัน
สำหรับผม...สรรพสิ่งใดๆในจักรวาล จนถึงนิพพาน
หากจะเกี่ยวข้องกัน สัมพันธ์กัน ก็ด้วย พลังแห่งความรัก นี่แหละ
ผิดถูกขออภัยผู้ไม่รู้คนนี้ด้วยครับ
รักคนอ่านครับ.... : ) |
| |
|
|
|
 |
|
|