|
|
|
 |
ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
ไม่รู้
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
27 ก.ย. 2006, 5:23 pm |
  |
ทำใจแบบไหนจึงเป็นพระอรหันต์ได้จริง |
|
|
|
|
 |
แวะมาเที่ยว
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
27 ก.ย. 2006, 6:11 pm |
  |
ต้องการเป็นอรหันต์ เพื่อสิ่งไร  |
|
|
|
|
 |
ภูเขาน้ำแข็ง
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 13 พ.ค. 2006
ตอบ: 46
|
ตอบเมื่อ:
27 ก.ย. 2006, 8:16 pm |
  |
ตอบไม่ได้จ้า เพราะ มันเป้นอะไรที่ ไม่อาจจะบอกออกมาเป็นคำพูดได้ อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้
และก้อ คำถามนี้ คงไม่มีใครกล้าตอบ เพราะ ยังไม่บรรลุอรหันต์
อย่าไปคิดเลย ว่าใจแบบไหน จึงเป็นพระอรหันต์ เอาแค่ ตอนนี้ ขณะนี้ คุณรู้จักใจของคุณดีหรือยัง ปล่อยวางความยึดติดในอารมต่างๆ ได้หรือยัง (ถามตัวเอง)
ถ้ายังไม่รู้เนี่ยะ ถึงคุณจะรู้ว่า ใจพระอรหันต์เป็นยังไง มีคนมาอธิบาย จนยาว เป็นหลายหน้า A4 คุณก็ไม่เข้าใจ จะมีแต่ ข้อสงสัย แล้วก้อจะถามต่อไปเรื่อยๆ (เพราะ ปัญญาคนธรรมดา กับปัญญา พระอรหันต์ มันมีความละเอียดต่างกันมากๆ )
 |
|
_________________ อย่าดับความอยากด้วยการสนอง จงดับโดยวางเฉย |
|
  |
 |
เล่าสู่กันฟัง
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
28 ก.ย. 2006, 8:39 pm |
  |
อรหันต์ แปลว่า ผู้ที่ถึงที่สุด ,ผู้ที่สมบูรณ์ ,ผู้ที่เต็มเปี่ยม
๑.คนที่มีจิตใจจมอยู่ในกาม (กามในที่นี้ หมายถึงสิ่งอำนวยความสุขทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ปราถนา) สิ่งที่มีอยู่ในกามโลก ก็ดึงจิตใจเขาไว้ได้
๒.คนที่มีจิตสูงกว่าข้อ ๑. แต่ไม่อยู่เหนือโลก ก็ไปติดกับความสุขอันเกิดจากฌาน ทั้งมีรูป และไม่มีรูป (รูปฌาน และอรูปฌาน) ก็ยังถือว่าติดอยู่ในโลก
๓.จิตใจที่ไม่เกาะติดอยู่กับโลกแล้ว หรือเรียกว่า จิตเหนือโลก (โลกุตระ) คือจิตใจที่ไม่ติดอยู่ในทั้งสองข้อที่กล่าวมาแล้ว
ดังนั้น จิตใจของพระอรหันต์ คือจิตใจที่ไม่เกาะเกี่ยวกับสิ่งใด กล่าวคือ หมดกิเลส หมดความทุกข์ด้วยประการทั้งปวงแล้ว การดำเนินชีวิตอยู่ปกตินั้น เป็นไปโดยมีสติสัมปะชัญญะ อยู่ทุกขณะจิต ทั้งหลับและตื่น.... ท่านพุทธทาสท่านเทศน์ไว้ตั้งแต่ ๔๕ ปีที่แล้ว
"ขอให้ทุกท่านปฏิบัติให้ถึงที่สุดแห่งโลกุตระด้วยกันทุกท่านเทอญ... สาธุ... " |
|
|
|
|
 |
ปุ๋ย
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275
|
ตอบเมื่อ:
29 ก.ย. 2006, 2:44 am |
  |
...ทำใจ ไม่ได้จริง เพราะยังทำอยู่
...ไม่ทำใจ ไม่มีแบบ ไม่เป็นอะไร ถึงจริง
เจริญในธรรม
มณี ปัทมะ ตารา  |
|
|
|
   |
 |
กรัชกาย
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
29 ก.ย. 2006, 10:03 am |
  |
คงจะต้องเจริญสติปัฏฐานให้เห็นไตรลักษณ์ตามขั้นตอนของมัน ไปนั่งทำใจเองไม่ได้หรอกจ้า |
|
|
|
|
 |
ผ่านมา
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
03 ต.ค.2006, 5:36 pm |
  |
ไปนิพพานนี่ไปไม่ยาก ตัดตัวเดียวที่ร่างกาย คือ สักกายทิฏฐิ
ตัวอย่าง ท่านปูติคัตตติสสะ ติสสะ เนื้อเน่านะ
ปูติคัตตะ แปลว่ากายเน่า
ท่านติสสะ อาศัยที่ท่านฆ่านกชาติก่อน
แล้วก็หักแข้งหักขานกหักปีกบ้าง เป็นต้น เวลาเก็บไว้ค้างวัน
พอมาชาติหลังนี่พอท่านบวชพระก็ป่วย ฌานสมาบัติท่านก็ไม่ได้
ท่านพุพองทั้งตัว ผลที่สุดก็เน่าทั้งตัว จนปฏิบัติไม่ได้
พระพุทธเจ้าทรงมาแนะนำว่า
ติสสะ เธอจงพิจารณาตาม ความเป็นจริงว่าร่างกายนี้อีกไม่ช้าก็จะนอนทับถมพื้นแผ่นดิน จะมีวิญญาณไปปราศแล้วมีสภาพมีสภาพเหมือน ท่อนไม้ที่ไร้ประโยชน์
ฟังเสียงแค่นี้ พระติสสะ จิตตัดร่างกายทันที
พระพุทธเจ้าบอกว่า ร่างกายไม่มีความหมาย
ท่านก็เลยไม่ติดในร่างกาย แล้วก็ตายทันที
พระถามว่า ติสสะ ตายแล้วไปไหน
พระพุทธเจ้าบอกว่าไปนิพพาน
------------------------------------------------------------------
คำสอนของพระราชพรหมยานเถระ(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
กราบ สาธุ สาธุ สาธุ  |
|
|
|
|
 |
แมวขาวมณี
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307
|
ตอบเมื่อ:
04 ต.ค.2006, 11:50 pm |
  |
ทำใจ... ให้ตัดขาดจาก กิเลส ทั้งหลายค่ะ |
|
_________________ พฤษภกาสร อีกกุญชร อันปลดปลง
โททนต์ เสน่งคง สำคัญหมาย ในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตย์ทั่ว แต่ชั่วดี ประดับไว้ ในโลกา |
|
   |
 |
|
|
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่ คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลงคะแนน คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้ คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
|
| | |