ขอคำแนะนำเรื่องที่เคยทำแท้งมาก่อน

ผู้เยี่ยมชม

ดิฉันแต่งงาน และได้ทำกิฟ ได้ลูกแฝด 2 คน ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง แต่ต้องแท้งไปตอน 6 เดือน เสียใจมาก พออีก 2 ปี ก็มีลูกเองได้ เมื่อไปหาหมอ หมอบอกว่าท้อง 3 เดือน ทำไมไม่เห็นหัวใจเด็กเต้น ดิฉันกลัวมาก เพราะตอนท้องแพ้ท้องมาก อาเจียรจนเป็นเลือด แต่พอท้องนี้ก็แพ้อีก และกลัวว่าจะแท้งอีก ก็ปรึกษากับสามีว่าจะเอาออกน่ะ เพราะบอกตรง ๆ ว่ากลัวแท้ง และเด็กออกมาไม่สมบูรณ์ เรื่องนี้ผ่านมา 6-7 ปีแล้ว และใส่บาตรทำบุญให้ลูกทุก ๆ คน แต่เมื่อดิฉันอ่านหนังสือธรรมะแล้ว ดิฉันรู้สึกกลัวบาปมาก ซึ่งบางครั้งดิฉันคิดว่าดิฉันไม่ได้ทำบาป เพราะเด็กยังไม่เกิดเป็นรูปร่าง แต่พอหนังสือแล้ว รู้สึกว่าบาปมาก ขอคำแนะนำด้วยคะ ว่าดิฉันควรทำอย่างไร (ในความคิดว่าทุกวันนี้ ดิฉันมีอาชีพการงานดี ไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน เลยคิดว่าไม่บาป เพราะเท่าที่รู้ถ้าเราทำแท้ง ทำกิจการสิ่งใดก็จะไม่เจริญ)

ผู้เยี่ยมชม

ไม่ทราบว่า แท้งตามธรรมชาติ หรือ หมอเอาเด็กออกให้จ้า

ผู้เยี่ยมชม

ในกรณีนี้รู้สึกว่าก้ำกึ่งระหว่างเจตนาหรือไม่เจตนา ถ้าทำเพราะไม่อยากมีหรือไม่พร้อมจะรับผิดชอบจะเป็นบาปมาก แต่ถ้าทำเพราะหมอวินิจฉัยว่าร่างกายไม่สมบูรณ์จะมีผลเสียต่อผู้ตั้งครรภ์ก็ต้องตรวจสอบเจตนาให้ดี

ผู้เยี่ยมชม

ครี้งแรก (ทำกิฟ) หมอบอกว่าแม่ท้องเด็ก และหัวใจเด็กเต้นแรงกว่าแม่ ถ้าไม่เอาออก แม่อาจตายได้ อีกอย่างดิฉันเจ็บท้องคลอด หมอก็พยายามพยุงเด็กให้ครบ 7 เดือน แต่ก็ไม่ไหว เพราะเด็กอยากออกมาแล้ว คนแรกเป็นผู้หญิงเสียชีวิตแล้ว และกลับหัวแล้ว แต่คนที่สองยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็ไม่รอด รู้สึกเสียใจที่โทษตัวเองมาตลอดว่า เป็นแม่ที่ไม่เอาไหน เห็นแก่ตัว เพราะช่วงดิฉันท้อง สามีก็ไปมีเมียน้อย ตอนนั้นทุกข์ใจมาก หมดกำลังใจ ไหนจะแพ้ท้องจนอาเจียรเป็นเลือด และไหนจะทุกข์เพราะยังยึดติดสามีอยู่ หวงและยึดมั่นถือมั่นในตัวสามี รักมากก็ทุกข์มาก (เมียน้อยรู้ทั้งรู้ว่าสามีมีเมียแล้ว จดทะเบียนสมรสด้วย ก็ยังไม่ยอมเลิก แถมเรียกร้องว่าเขาก็เป็นเมีย ก็ต้องมีลูกกับสามีด้วยเหมือนกัน จนปัจจุบันมีลูกกับเมียน้อย 2 คน) ส่วนท้องที่ 2 มีเองตามธรรมชาติ แต่พอไปหาหมอ หมอบอกว่าไม่เห็นหัวใจเล็กเต้นเลย ก็กลัวว่าจะแท้งอีก และกลัวว่าเด็กจะไม่สมบูรณ์ เลยทำแท้ง ทุกวันนี้ดิฉันใส่บาตรจะอุทิศส่วนกุศลให้ลูกดิฉันทั้เง 3 คน ส่วนลูกเมียน้อยก็นับถือดิฉันเหมือนแม่คนหนึ่ง เลยเข้าใจว่านี่คงเป็นเวรกรรม เพราะดิฉันไม่มีลูก แต่ก็มีลูกของเมียน้อยมาเป็นลูก แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน อยู่กับแม่ของเขาเอง

ผู้เยี่ยมชม

ถ้าเช่นนั้น ก้ ปล่อยสามีไปเถอะ อย่าไปทรมาน ตัวเอง เพื่อเขาอีกเลย อีกอย่างสภาพร่ายกายคุณ ก้ คงจะไม่ไหวแล้ว ถ้าฝืนต่อไป คงมีแต่จะ ทำร้ายตัวเองทางอ้อม

"ทุกวันนี้ดิฉันใส่บาตรจะอุทิศส่วนกุศลให้ลูกดิฉัน" - ทำถูกละ

สิ่งนี้คงเป้นสิ่งที่คุณทำได้ และ หันมาดูแลตัวเอง รักตัว และดูแลคนที่เขารักเราจิงๆ ดีกว่า(พ่อแม่)
ถ้ามีเวลา ก้อ ไปรักษาศลี ทำสมาธิ ฝึกเจริญสติ (แต่อย่าลืมหน้าที่ภรรยา เพราะคุณแต่งงานแล้ว)

ซึ้ง

แบบนี้ คงจะช่วยให้ ชีวิตคุณดีขึ้นกว่าน๊าจ้า

สาธุ

ปล. เราอธิบายไม่เก่ง

ตอบเมื่อ: 05 ต.ค.2006, 6:27 pm

ท้องที่ 2 เหมือนมีเจตนาทำแท้งนะคะ ไม่ได้บอกว่าหมอทำให้แต่เดาว่าคงปรึกษากันแล้วเลือกที่จะทำแท้ง ดีกว่ามาเลี้ยงลูกที่พิการ

คุณคงตัดสินชีวิตเด็กโดยคาดว่าเขาจะพิการ (จึงมีบาปติดอยู่ในใจใช่ไม้ค่ะ) ประโยคนี้อาจทำให้มองเห็นกรรมได้ชัดขึ้น
ถ้าคุณไม่มีเจตนา ก็ไม่เป็น ปาณาติบาต แต่......... เงื่อนไขของกรรม มีมากเกินปัญญาค่ะ