Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ขอความรู้ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
123456
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 16 ส.ค. 2006, 1:06 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอความรุ้ดว้ยนะค๊ะมีขอ้สงสัยอยุ่อยางอย่างคนเราเกิดมาไม้เหมือนกันบางคนเกิดมาพ่อแม่เดียวกันลูกหนึงคนเดินถุกทางร้จักที่จะใช่ชิวิตที่ถุกตอ้งรุ้อะไรควรไม้ควรแต่อีกคนหลงไปอีกทางเค้าเริ่มทำผิดตั้งแต่รุ้ความการที่เค้าทำผิดเค้าไม่รู้ตัวด้วยหลงจนน่าเวทาเค้าทำผิดเริ่มตั้งนิสัยพื้นฐานเลยแต่เท่าที่สังเกตุดูนิสัยสว่นลึกของเค้าเป็นคนใจดีแต่ติดที่โกรดง่ายแต่ตอนนี้เค้าเจอทางออกให้ตัวเองแล้วเค้ากำลังปฏิษัตธรรมแต่ที่อยากรุ้คือตอนที่เค้าหลงแบบไม่รุ้ตัวเวกรรมยังตามเค้าอุย่มั้ย
 
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773

ตอบตอบเมื่อ: 16 ส.ค. 2006, 9:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กรรม หมายถึง การกระทำทางกาย วาจา ใจ ที่ประกอบด้วยเจตนา

วิบาก หมายถึง ผลของการกระทำที่ตอบสนองผู้กระทำ

วาสนา(บางครั้งก็ใช้คำว่าอธิวาสนา) หมายถึง สิ่งที่ติดฝังลึกๆอยู่ในจิต สามารถข้ามภพ-ชาติ เป็นได้ทั้งทางที่ดีและไม่ดี



เด็กสองคนแตกต่างกัน ก็เพราะต่างกันในทั้งสามสิ่ง...... กรรมที่ทำทั้งในภพ-ชาติปัจจุบัน และภพ-ชาติอดีตก็แตกต่างกัน...... วิบากที่เด็กสองคนรับก็แตกต่างกันตามกรรมที่ทำ..... วาสนานั้นก็เกิดจากการทำซ้ำซากสะสมในกมลสันดานจนสามารถให้ผลเป็นความเคยชินในบางเรื่อง

หลวงปู่ชา สาธุ ท่านจึงสอนให้ระวังความเคยชิน..... เพราะความเคยชินจะกำหนดนิสัย.....และนิสัยจะกำหนดชะตากรรม



มีแต่พระอรหันต์เท่านั้น ที่ท่านไม่ทำกรรมแล้ว(หรือบางพระสูตรจะเรียกว่า กระทำกรรมที่ประกอบด้วยอโลภะ อโทสะ อโมหะ ก็คือความหมายเดียวกัน) จะมีเพียงกิริยาจิตเท่านั้น.แต่พระอรหันต์ท่านยังล่ะวาสนาบารมีไม่ได้ กล่าวคืออาจจะยังมีความไม่เรียบร้อยทางกายหรือวาจาบางอย่างติดข้ามภพ-ข้ามชาติมา(ภาษาไทยเรา ใช้คำ"วาสนา"นี้ในทางที่ดีเท่านั้น แต่ภาษาบาลีเขาหมายทั้งสองด้าน) เช่น กรณีพระสารีบุตรท่านกระโดดข้ามลำธารเพราะท่านเคยเกิดเป็นพญาวานรติดต่อกันนาน หรือมีพระอรหันต์ในครั้งพุทธกาลองค์หนึ่งที่มักจะเผลอพูดคำว่า"ไอ้ถ่อย" ทั้งๆที่ท่านเหล่านี้กิเลสหมดสิ้นจากใจหมดแล้ว..... ถึงต้องขอเตือนว่า ถ้ามีพระสุปฏิปันโนบางองค์ที่ท่านอาจจะยังไม่สมบูรณ์พร้อม ก่อนจะวิจารณ์อะไรเกี่ยวกับท่าน ก็อย่าลืมนึกถึงกรณีนี้ด้วย.และพระอรหันต์ท่านยังรับวิบากได้อยู่ตราบเท่าที่อัตภาพสุดท้ายนี้ยังดำรงอยู่

จะมีก็แต่ พระพุทธเจ้าเท่านั้น ที่ทั้งไม่ทำกรรม และเลิกล่ะได้ทั้งวาสนาและบารมี..... เรียกว่าสมบูรณ์งดงามทุกๆด้าน สาธุ


แต่กรรม วิบาก หรือวาสนาจากอดีต นั้น ก็ไม่สำคัญเท่ากับปัจจุบัน..... ท่านเจ้าคุณพระพรหมคุณาภรณ์ท่านใช้คำว่าอยู่เพื่อพัฒนากรรม ไม่ใช่อยู่เพื่อชดใช้กรรมเท่านั้น.เด็กคนที่สนใจศึกษาธรรมนั้น เขาจะเจริญขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่มีวิบากที่หนักหนาสาหัสจากอดีตตามมาตัดรอน..... แต่ถึงวิบากจากอดีตจะตามมาทัน มันก็จะผ่อนหนักเป็นเบาได้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง