Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ทำอย่างไรจึงได้ชื่อว่าตนนั้นนับถึอศาสนาพุทธ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ccc
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 25 ก.ย. 2006, 11:37 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทำอย่างไรจึงได้ชื่อว่าตนนั้นนับถือศาสนาพุทธ ทั้งทาง กาย วาจา ใจ
ถ้าทำแบบนี้แล้ว จะ ทำดีได้ดี หรือเปล่า ถ้าต้องการแสดงตนเป็นพุทธมามกะ (ไม่แน่ใจว่าเขียนถูกหรือเปล่า)
 
ภูเขาน้ำแข็ง
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 13 พ.ค. 2006
ตอบ: 46

ตอบตอบเมื่อ: 25 ก.ย. 2006, 2:22 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ ง่ายมั๊กๆ ศลี + นั่งสมาธิ

"ถ้าทำแบบนี้แล้ว จะ ทำดีได้ดี หรือเปล่า " - ได้แน่นอน แต่อาจจะได้ดี แบบไม่ทันใจ จ้า เพราะมันแล้วแต่ วิบากกรรม ของท่านว่า วิบากกรรมทาง ฝ่ายดี หรือฝ่ายไม่ดี มาแรงกว่ากัน
 

_________________
อย่าดับความอยากด้วยการสนอง จงดับโดยวางเฉย
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ccc
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 26 ก.ย. 2006, 12:17 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผีเสื้อ ขอบคุณค่ะ สาธุ
 
ผ่ามมา
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ย. 2006, 5:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

1. ทำอย่างไรจึงได้ชื่อว่าตนนั้นนับถือ ศาสนาพุทธ ทั้งทาง กาย วาจา ใจ ?

ตอบ

สำคัญที่สุด คือ ต้องฝึก “ใจ” ให้เป็น “พุทธ” อย่างแท้จริง

เพราะ เมื่อ ใจ เป็นพุทธแล้ว
กาย กับ วาจา ก็เป็นพุทธ ตามอย่างอัตโนมัติ

----------------------------------------------------------

ขอแนะนำวิธีง่ายๆ

มี 2 สิ่งที่ต้องทำ คือ

1.ฝึกจิต (เพื่อดับทุกข์ ในชาตินี้)
2.สะสมบุญ (เพื่อเตรียมเสบียงไว้ ในชาติหน้า)


----------------------------------------------------------

1. ฝึกจิต (เพื่อดับทุกข์ ในชาตินี้)

- สมาทานศีล 5 ตอนเช้า ทุกวัน (ศีล เป็นพื้นฐานของชาวพุทธ)

- สวดมนต์ บททำวัตรเช้า+ เย็น (เพื่อ ให้จิตเคารพจริง ในพระรัตนตรัย)

- นั่งสมาธิ เป็นเวลา 15 – 30 นาที ทุกวัน (เพื่อฝึกใจให้มีอำนาจเหนือกิเลส)

- หมั่นระลึกถึง คุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ (เช่น นึกคำว่า “พุทโธ” ในใจ) ตลอดทั้งวัน

- หมั่นระลึกเสมอว่า กายนี้เป็นทุกข์ โลกนี้เป็นทุกข์ เมื่อตายแล้ว เราไม่ต้องการเกิดเป็นมนุษย์ เทวดา พรหม อีกต่อไป เพราะ มนุษย์ เทวดา พรหม ยังไม่พ้นทุกข์
เราต้องการอย่างเดียวคือ “ไปพระนิพพาน” เพราะ พ้นทุกข์ อย่างแท้จริง
(ข้อนี้ คือ การพิจารณา อริยสัจ 4 เพื่อตัดกิเลสและทำให้เข้าถึงพระนิพพาน อันเป้าหมายสูงสุดของชาวพุทธ)

----------------------------------------------------------

2.สะสมบุญ (เพื่อเตรียมเสบียงไว้ ในชาติหน้า)

คือ สะสม บุญกิริยาวัตถุทั้ง 10 ประการ ทุกวัน

เพราะ ถ้ายังไม่หมดกิเลส ก็ยังต้องการเวียนว่ายตายเกิดอีก
จึงต้องหมั่นสะสมบุญไว้ เพื่อจะได้เป็นเสบียงที่ดีในชาติหน้า ต่อไป

บุญพื้นฐานที่สำคัญ ที่ควรทำให้มาก เพื่อให้คุ้มค่ากับการที่ได้พบพระพุทธศาสนา
คือ วิหารทาน , สังฆทาน และ ธรรมทาน
โดย จะไปทำที่วัด หรือ นิมนต์พระตั้งแต่ 4 รูปขึ้นไปมารับที่บ้านก็ได้
เพราะ เป็นบุญที่ทำกับหมู่พระสงฆ์ อันเป็นเนื้อนาบุญที่เลิศที่สุดในโลก
หมู่พระสงฆ์นี้ จะมีบังเกิดได้ ก็ต่อเมื่อ มีพระพุทธศาสนาเกิดขึ้นในโลก เท่านั้น


----------------------------------------------------------


ขอให้โชคดีครับ ยิ้ม
 
ผ่านมา
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ย. 2006, 6:22 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

2. ถ้าทำแบบนี้แล้ว จะ ทำดีได้ดี หรือเปล่า ถ้าต้องการแสดงตนเป็นพุทธมามกะ ?

ตอบ


การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ
เป็นการแสดงออกทาง กาย+ วาจา ประกาศแก่ หมู่พระสงฆ์ และสาธาณะชน
ให้ทราบว่า
“ เรามี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ(ที่พึ่ง)สูงสุด
เราจะไม่พึ่งสรณะอื่นอีกแล้ว นอกจาก พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เท่านั้น “

การเป็นพุทธ แม้สำคัญที่สุด คือ ใจ
แต่ การแสดงออกทาง กาย+วาจา ก็สำคัญ ด้วยเช่นกัน

การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ จึงเป็นการแสดงออกทาง กาย+ วาจา
ก็เพื่อ ส่งเสริมความรู้รักสามัคคี + แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ให้เด่นชัด ในหมู่ชาวพุทธ

เหมือนกับกรณี ทุกคนรักในหลวงด้วย ”ใจ”
แต่ยิ่งเป็นการดียิ่งขึ้นอย่างมากๆ ในการที่ทุกคนแสดงออกทาง กาย + วาจา
ด้วยการพร้อมใจกัน”ใส่เสื้อสีเหลือง” + “ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี” ครับ

----------------------------------------------------------

การทำดีแล้วได้ดี ทำชั่วแล้วได้ชั่ว เป็นกฎของกรรม
แม้ไม่แสดงเป็นพุทธมามกะ ทุกคนในโลกก็ต้องตกอยู่ภายใต้กฎของกรรม


แต่ การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ชาวพุทธจึงควรทำอย่างยิ่ง
ดังเหตุผลที่ได้อธิบายมาข้างต้นแล้ว ครับ

----------------------------------------------------------



ขอให้โชคดีครับ ยิ้ม
 
แมวขาวมณี
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307

ตอบตอบเมื่อ: 05 ต.ค.2006, 6:57 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอให้ท่านปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า จากผู้ตอบทั้งหมดข้างต้นนั้นด้วยกำลังใจอันแนวแน่และมั่นคงค่ะ
 

_________________
พฤษภกาสร อีกกุญชร อันปลดปลง
โททนต์ เสน่งคง สำคัญหมาย ในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตย์ทั่ว แต่ชั่วดี ประดับไว้ ในโลกา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
กอปรธรรม
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 07 ต.ค. 2006
ตอบ: 9
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพ

ตอบตอบเมื่อ: 07 ต.ค.2006, 5:25 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ไม่ทำผิดกฎหมายบ้านเมืองก็พอ ไม่ต้องไปแสดงออกว่าเป็นพุทธอะไรมากมาย (อัตตา)
คิดตามหลักเหตุผล (ปัญญา) ถือศีล 5 (หรือได้กี่ข้อก็ทำไป)
ถ้าอยากแสดงออกมากนักก็แนะนำว่าไปบวชก็ได้ ทุกอย่างอยู่ที่ใจครับ
 

_________________
กอปรธรรม
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
หน้าที่อย่างง่ายชาวพุทธ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 07 ต.ค.2006, 11:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ต้องมีพระพุทธเจ้าเป็นพุทธานุสสติไว้ในใจอย่างมั่นคงครับ ทุกวัน และเลือกหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้เป็นพุทธภาษิตหลายอย่างสอนคนทางโลกมาใช้ครับและพยายามใช้ให้ถูกกาลเทสะบุคคล ครับ ก้ชื่อว่าเป็นชาวพุทธได้แล้วครับ เพราะพระพุทธเจ้าท่านก้ใช้หลักธรรมะที่สอนเองนั้นทำเองด้วยตามแนวกาละเทสะบุคคลครับในพุทธกาล
และอีกอย่างต้องมั่นทำบุญที่วัดครับ เป็นประจำอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้งได้ก็ดีครับ เพราะวัดมีหน้าที่ต้องทำงานเพื่อสังคมพุทธอีกมากครับ เป็นสัญลักษณ์สนับสนุนเชิงองค์กรพุทธด้วยครับในโลกปัจจุบัน
 
พุทธมามกะ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 09 ต.ค.2006, 12:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอยืนยันว่า
การแสดงออก โดยเข้าร่วมพิธีการแสดงตนเป็นพุทธมามากะ
(พิธีเปล่งวาจากล่าวคำขอถึงไตรสรณคมณ์) ก็สำคัญ


ยกตัวอย่าง เช่น

1) ในสมัยพุทธกาล พวกนักบวชในลัทธินอกศาสนาพุทธ
เมื่อมีศรัทธาจะมาบวชพระในพุทธศาสนา
ถ้าบุคคลนั้นยังไม่ได้เป็นพระอริยบุคคล
พระพุทธเจ้าก็ยังไม่ให้บวชพระทันที

ก่อนที่จะบวชได้ พระพุทธเจ้าก็ทรงบังคับให้คนเหล่านั้น
ต้องอยู่บวชถือศีล5 / ศีล8 ในพระพุทธศาสนา
ไปสักระยะเวลาหนึ่งก่อน
เพื่อเป็นการแสดงตนว่า ได้ถึงพร้อมในไตรสรณคมณ์แล้ว


แม้สุดท้าย ในวันที่ได้บวชเป็นพระ
ก็ยังคงต้องเปล่งวาจาขอถึงไตรสรณคมณ์ กล่าวออกมาให้ชัดๆ
(มีอยู่ในบทสวดขอบรรพชาอุปสมบท) การบวชจึงจะสำเร็จได้ ครับ



2) พระสงฆ์ก็รู้ว่า “ไตรสรณคมณ์ กับ ศีล” แท้จริงอยู่ที่ใจ
แต่ในพิธีกรรมทำบุญต่างๆ ก็เป็นเรื่องปกติ ที่พระสงฆ์จะให้ฆราวาส
กล่าวเปล่งวาจา สวดบทขอถึงไตรสรณคมณ์ และสมาทานศีล 5 ไปพร้อมๆกัน เสมอ
นั่นก็แสดงว่า พระสงฆ์ก็ให้ความสำคัญกับการสวดเปล่งวาจา ด้วยเช่นกัน


ทั้ง 2 ตัวอย่างนี้ ยกมาเป็นเหตุผลเพื่อยืนยันว่า
พิธีการแสดงตนเป็นพุทธมามากะ (พิธีเปล่งวาจากล่าวคำขอถึงไตรสรณคมณ์)
จึงไม่ใช่เป็นเรื่องแสดง”อัตตา” ครับ


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศีล 5 ชาวพุทธ[color=green]จำเป็นต้องรักษาให้ครบทั้ง 5 ข้อ [/color]เพราะ

1) เป็นศีลที่ทำให้เรามีความเป็น “มนุษย์ปกติ” อย่างแท้จริง
2) จะปฏิบัติให้ถึงภูมิธรรมขั้นพระโสดาบันได้ จะต้องมีอย่างน้อยศีล 5 ครบ เสมอ

แต่เราก็สามารถเริ่มรักษาศีล จากแค่ทีละ 1 -2 ข้อ ไปก่อนก็ได้
ต่อไปก็ค่อยๆเพิ่มให้ครบ 5 ข้อ ครับ


ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง