Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ขอทราบวิธีแก้อุปาทานในขณะทำสมาธิ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
แมวขาวมณี
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307

ตอบตอบเมื่อ: 05 ก.ย. 2006, 10:00 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เมื่อจิตสงบดีแล้ว เกิดภาพ แล้วหายไป
ครั้งต่อไปจะกำหนดอย่างไรไม่ให้เกิดอีก (ภาพใหม่)
 

_________________
พฤษภกาสร อีกกุญชร อันปลดปลง
โททนต์ เสน่งคง สำคัญหมาย ในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตย์ทั่ว แต่ชั่วดี ประดับไว้ ในโลกา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 05 ก.ย. 2006, 2:12 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ไม่ว่าภาพอะไรก็ไม่ควรสนใจ เพราะมีทั้งนิมิตนอกนิมิตใน หากไม่มีครูบาอาจารย์แนะนำจะทำให้หลงเข้าใจผิดได้ง่าย ไม่ควรสนใจ เห็นแล้ว หายไปก็ดีแล้ว พิจารณาได้ว่าเกิดได้ ก็สลายไปเช่นกัน ไม่ว่าอะไร เห็นสักแต่ว่าเห็น ไม่ต้องไปตื่นตาตื่นใจ กำหนดรู้ไว้ที่จิต มีสติรู้ตัวทั่วพร้อมไว้ ให้ดำเนินต่อไป

เจริญในธรรม

มณี ปัทมะ ตารา
ผีเสื้อ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
ธรรมค้นคว้าได้ด้วยทำ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 05 ก.ย. 2006, 3:59 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ต้องกำหนดอะไร หัดจดจำสภาพความรู้สึกขณะที่มีสติในตนให้ได้ โดยฝึกสติปัฐานสี่ ฝึกกำหนดสภาพแบบที่เราทำสมาธิหรือจับลมหายใจในชีวิตประจำวันไม่ให้เผลอไปกับความคิดบ่อยบ่อย หรือจะฝึกวิธีไหนก็ได้เพื่อให้รู้สึกถึงสภาพที่มีสติมากมากในตัวเองเป็นอย่างไร พอนั่งสมาธิก็นำมาใช้จะไม่มีโอกาสถูกแทรกแซงด้วยนิมิตต่างต่างได้
 
walaiporn
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 02 ก.ค. 2006
ตอบ: 253
ที่อยู่ (จังหวัด): สมุทรปราการ

ตอบตอบเมื่อ: 05 ก.ย. 2006, 5:07 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แบบที่คุณปุ๋ยบอกแหละค่ะ แต่ขอเพิ่มนิดนึง การเกิดภาพนิมิตรในขณะทำสมาธินั้นเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ เราไม่ต้องไปใส่ใจว่าจะเกิดหรือไม่เกิด หรือว่าถ้าเกิดอีกต่อไปจะทำอย่งไร
 

_________________
ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ หากเราพยายามทำและตั้งใจทำอย่างต่อเนื่อง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 05 ก.ย. 2006, 5:37 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เราก็กำหนดสิ่งที่เรากำหนดอารมณ์นั้นไปตามปกติ ฯลฯ เมื่อจิตสงบจะเกิดอีก
คุณกำหนดอารมณ์ใด ก็กำหนดไปตามนั้น กำหนดไปๆๆ
เดี๋ยวก็เกิด เกิดคราวนี้ระวังติดอีก

นี่แสดงว่า คุณกำหนดลมหายใจเข้าออกเป็นต้น จนจิตสงบ เมื่อจิตสงบแล้วจึงเกิดนิมิตขึ้น

เห็นแว้บๆ ตื่นใจอยากดูสิว่าเป็นอะไรกันแน่ อยากดูให้แน่ .....ทีนี้ไม่เห็นแล้ว อยากเห็นจึงไม่เห็น ยิ่งอยากยิ่งไม่เห็น ไม่เห็นยิ่งฟุ้งซ่าน ฯลฯ

นิมิต แปลว่าเครื่องหมาย กล่าวคือว่าเป็นเครื่องหมายว่า จิตสงบแล้วเท่านั้นเองนะครับ
อย่าไปติดยึดวนเวียนอยู่
 
จักรพันธ์ ใบโพธิ์สุวรรณ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 06 ก.ย. 2006, 1:37 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ภาพเกิดจิตรู้ ยิ้ม
ภาพหายจิตเห็น สู้ สู้
สติไม่ไปไหน สาธุ
กลับมาสู่สิ่งที่กำหนด ยิ้ม

สู้ สู้ สู้ สู้ สู้ สู้ สู้ สู้ สู้ สู้ สู้ สู้ สู้ สู้ สู้ สู้ สู้ สู้ สู้ สู้ สู้ สู้
 
แมวขาวมณี
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307

ตอบตอบเมื่อ: 12 ก.ย. 2006, 4:42 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สา...ธุ ขอบคุณ ค่ะ

กำหนดว่า เห็นหนอ สักครู่ภาพจะหายไป
จิตจะกลับมากำหนดที่ยุบหนอ - พองหนอต่อไป
คราวหลังนี่ สงบได้นานขึ้น มีท่านหนึ่งบอกว่า อย่า นั่ง ตรงหน้าพระพุทธ ให้นั่งเยื้องไปหน่อย

เคยนั่งแล้วจิตสงบนาน จึงพิจารณากายได้เต็มอิ่ม
พอเริ่มใช้คำภาวนา "ยุบหนอ - พองหนอ"แล้วจึงมีปัญหาน่ะค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับคำแนะนำเสมอเป็นครูบา อาจารย์ให้แก่ แมวตัวนี้ค่ะ
สับสน ยิ้มเห็นฟัน ยิ้มเห็นฟัน
สาธุ สาธุ สาธุ
 

_________________
พฤษภกาสร อีกกุญชร อันปลดปลง
โททนต์ เสน่งคง สำคัญหมาย ในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตย์ทั่ว แต่ชั่วดี ประดับไว้ ในโลกา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
สติ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 12 ก.ย. 2006, 8:15 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ท่านเห็นไตรลักษณ์แล้ว.. แต่ปัญญาท่านยังไม่เกิด.. ท่านจึงยังคิดไม่ได้
เพราะฉะนั้น ท่านต้องทำต่อไปและรู้ตามความจริงที่เกิดขึ้น รู้แม้กระทั่งว่าจิตกำลังคิดไม่อยากจะให้ภาพนิมิตรมันเกิดขึ้นอีก และรู้เท่าทันทุกสิ่งที่ท่านรับรู้ โดยไม่มีทั้งความอยากและความไม่อยาก แล้วอีกไม่นานท่านจะร้องอ๋อ... อ๋อ.. นี่เอง.. เป็นอย่างนี้นี่เอง.. ถ้านึกรู้ขึ้นจริงก็อย่าลืมกำหนดรู้ด้วยนะ เดี๋ยวจะเผลอสติไปอีก... ขออนุโมทนากับความก้าวหน้าและความสำเร็จในธรรมปฏิบัติของท่านด้วย.. สาธุ
 
walaiporn
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 02 ก.ค. 2006
ตอบ: 253
ที่อยู่ (จังหวัด): สมุทรปราการ

ตอบตอบเมื่อ: 16 ก.ย. 2006, 9:52 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณแมวขาวมณีคะ ต้องพองหนอ ยุบหนอค่ะ เพราะหายใจเข้า ท้องจะพอง หายใจออก ท้องจะยุบ หายใจยาวๆช้าๆ จะกำหนดได้ดีค่ะ
 

_________________
ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ หากเราพยายามทำและตั้งใจทำอย่างต่อเนื่อง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แมวขาวมณี
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307

ตอบตอบเมื่อ: 17 ก.ย. 2006, 4:12 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เรียนคุณ วลัยพร

ตอนสติกลับมาที่กาย ก็เป็นจังหวะหายใจออกค่ะ เลย พิมพ์ไปตามที่จิตรู้และเฝ้าในอาการแรก
จึงเริ่ม ยุบหนอ (ท้องแฟ็บ) แล้วถ้าท้องพอง(เพราะหายใจเข้า) ก็พองหนอไป ตามดูไปเรื่อย ๆค่ะ

ขอบคุณที่แนะนำมาทุกท่านค่ะ
สาธุ พระอาทิตย์
 

_________________
พฤษภกาสร อีกกุญชร อันปลดปลง
โททนต์ เสน่งคง สำคัญหมาย ในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตย์ทั่ว แต่ชั่วดี ประดับไว้ ในโลกา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
อิคิว
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 17 ก.ย. 2006, 8:02 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อวิชชา แก้ด้วย วิชชา
ขั้นแรกให้ทำสมาธิเพื่อให้เกิดปัญญารู้แจ้งก่อนที่จะเน้นเอาความสงบมากๆแล้วให้เกิดนิมิต
เพราะปัญญานั้นเองจะเป็นเสมือนประทีปที่จะทำให้รู้ชัดในสิ่งปรากฏต่างๆที่เกิดขึ้น
เมื่อปัญญาเกิด การละคลายความอยาก ความต้องการต่างๆจะหมดไปเอง แล้วก็จะไม่
ยึดมั่นอะไรทั้งสิ้น
การทำสมาธิเบื้องต้นให้เกิดความสงบเพียงพอที่จะให้เราได้กำหนดสติพิจารณาสิ่งต่างๆจนเกิดปัญญาทีละเล็กทีละน้อย ขณะเดียวกันความสงบก็จะค่อยๆมากขึ้น เมื่อจิตสงบ และเกิดนิมิตเราก็จะมีสติรู้ทันความเป็นจริงของสิ่งนั้นๆเองไม่ต้องพยายามทำอย่างใด ไม่กำหนดว่าจะได้อะไร เพราะการอยากให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้เท่ากับเป็นการเพิ่มความไม่สงบเท่านั้นเอง
ให้มีสติรู้สิ่งที่ปรากฏ ให้เห็นการเกิด การเสื่อมไปของสภาวะธรรม ให้รู้แจ้งในความไม่ใช่ของตน
ความไม่เที่ยง เพื่อการละคลายความยึดมั่น นั่นคือเป้าหมาย
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง