Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
วันมาฆบูชา : วันแห่งความรักในทางพระพุทธศาสนา
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ผู้ตั้ง
ข้อความ
PhramahaSurasak Suramedhi
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 28 ส.ค. 2006, 5:05 am
วันมาฆบูชา : วันแห่งความรักในทางพระพุทธศาสนา
โดย พระมหาสุรศักดิ์ สุรเมธี (ชะมารัมย์)
.
วันมาฆบูชาเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งในทางพระพุทธศาสนา ที่ชาวพุทธได้ถือปฏิบัติสืบทอดกันมายาวนานจนกลายมาเป็นประเพณีจนถึงปัจจุบัน ชาวพุทธถือว่าวันมาฆบูชามีความสำคัญและมีความเอกลักษณ์เฉพาะไม่แพ้วันสำคัญอื่นๆ ในทางพระพุทธศาสนา อาจกล่าวได้ว่าวันมาฆบูชาเป็นวันของพระธรรมก็ว่าได้ เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงหลักการรวมทั้งทรงวางหลักการของพระพุทธศาสนาเอาไว้อย่างมั่นคงเป็นครั้งแรก ด้วยเหตุนี้เองวันมาฆบูชาจึงเป็นวันของพระธรรมไปโดยปริยาย นอกจากนั้นแล้ว วันมาฆบูชายังได้ชื่อว่าเป็นวันแห่งความรักในทางพระพุทธศาสนาอีกด้วย ซึ่งจะได้กล่าวต่อไป
ความหมายของวันมาฆบูชา
คำว่า มาฆบูชา มาจากภาษาบาลีว่า มาฆปูรณมีปูชา แปลเป็นภาษาไทยว่า การบูชาในวันเพ็ญเดือนสาม ซึ่งก็ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ของทุกปี แต่ถ้าปีใดมีอธิกมาส (เดือนแปดสองหน) ปีนั้นก็จะเลื่อนไปเป็นวันเพ็ญเดือน 4 แทน
ความเป็นมาและความสำคัญของวันมาฆบูชา
วันมาฆบูชาเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ อันเป็นหลักการทางพระพุทธศาสนา แก่ภิกษุสงฆ์ เมื่อครั้งประทับจำพรรษาที่ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ ในวันนั้นได้มีเหตุการณ์อัศจรรย์เกิดขึ้น ท่านเรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต แปลว่า การประชุมพร้อมด้วยองค์ 4 ได้แก่
- ภิกษุสงฆ์ จำนวน 1,250 องค์ มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมายกัน
- ภิกษุสงฆ์เหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นพระอรหันตขีณาสพ ที่ได้อภิญญา 6 (1. อิทธิวิธิ แสดงฤทธิ์ได้ 2. ทิพพโสต
หูทิพย์ 3. เจโตปริยญาณ อ่านใจคนอื่นได้ 4. ปุพเพนิวาสานุสสติ ระลึกชาติได้ 5. ทิพพจักษุ ตาทิพย์ 6. อาสาวักขยญาณ สิ้นอาสวะกิเลส) ทั้งสิ้น
- ภิกษุสงฆ์เหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นเอหิภิกขุ (พระพุทธเจ้าทรงบวชให้)
- วันนั้นเป็นวันที่พระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ (วันเพ็ญเดือนสาม)
ซึ่งเหตุการณ์ทั้ง 4 ประการนี้ได้เกิดขึ้นในวันเดียวกัน จึงทำให้เป็นเหตุการณ์ที่น่าอัศจรรย์ ซึ่งมีครั้งเดียวใน
ประวัติศาสตร์ ที่หาดูได้ยากมากในปัจจุบันหรือ หาดูไม่ได้เลยก็ว่าได้
หลักการที่ว่าด้วยความรัก
โอวาทปาฏิโมกข์ อันเป็นหลักการทางพระพุทธศาสนาที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงในวันนั้นมีใจความโดยย่อว่า
สพฺพปาปสฺส อกรณํ การไม่ทำบาปทั้งปวง (ละชั่ว) ทรงสอนให้รู้จักรักเพื่อนร่วมโลก
กุสลฺลสฺสูปสมฺปทา การยังกุศลให้ถึงพร้อม (ทำดี) ทรงสอนให้รู้จักรักเพื่อนร่วมโลกและรักตนเอง
สจิตฺตปริโยทปนํ การชำระจิตให้ขาวรอบ (ทำใจให้บริสุทธิ์) ทรงสอนให้รู้จักรักตนเอง
จากหลักธรรมที่ทรงแสดงไว้นี้เป็นเครื่องชี้ชัดว่า พระองค์ทรงเน้นย้ำเรื่องความรัก โดยเฉพาะความรักที่ประกอบด้วยเมตตาธรรม ไม่ว่าจะเป็นการรักสัตว์ รักเพื่อนมนุษย์ รวมทั้ง การรักตนเอง ก็ทรงสอนให้รู้จักรักด้วยเมตตาธรรม โดยเว้นจากทุจริต ไม่ว่าจะเป็นการทำร้าย ข่มเหง รังแก เบียดเบียน รวมทั้ง การกล่าวร้ายด้วย ให้เว้นเสียให้ได้ หรือ กำจัดออกไปจากใจให้ได้ เพราะฉะนั้น จึงกล่าวได้ว่า วันมาฆบูชา เป็นวันแห่งความรักในทางพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
วันแห่งความรัก : ทำไมคนไทยรู้จักวันวาเลนไทน์มากกว่าวันมาฆบูชา?
หากกล่าวถึงวันแห่งความรักแล้ว คนไทยหลายคน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น หรือแม้แต่วัยสูงอายุ ก็คิดถึงแต่วันวาเลนไทน์ในทางศาสนาคริสต์กัน โดยลืมมองหรือมองข้ามความสำคัญของวันมาฆบูชาในทางพระพุทธศาสนาของเราไป ที่เป็นเช่นนี้เพราะ เราถูกปลูกฝัง และถูกครอบงำจากวัฒนธรรมตะวันตก จนทำให้เกิดเป็นค่านิยมที่ถือปฏิบัติกันในหมู่คนไทย ทั้งๆที่วันดังกล่าวนี้ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธของเราสักนิดเลย แต่เราก็พากันฉลองวันวาเลนไทน์อย่างดูดดื่ม สนุกสนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่เด็กวัยรุ่นหนุ่มสาว
หากให้เขาเหล่านั้นเล่าความสำคัญของวันมาฆบูชากับวันวาเลนไทน์แล้วละก็ เกือบร้อยเปอร์เซ็น สามารถที่จะบอกความเป็นไปเป็นมาและความสำคัญของวันวาเลนไทน์ได้ดีกว่าวันมาฆบูชา ยิ่งแย่กว่านั้นและเป็นอาการที่น่าเป็นห่วงคือ บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวันมาฆบูชาคืออะไร ตรงกับวันไหน มีความสำคัญอย่างไร จำได้อย่างเดียว 14 กุมภา วันวาเลนไทน์ เป็นวันที่ฉันต้องซื้อดอกกุหลาบให้แก่คนที่ฉันรัก ที่เป็นเช่นนี้ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าวันมาฆบูชาไม่มีการกำหนดเป็นวันที่ในปฏิทินได้เป็นที่แน่นอนเหมือนอย่างวันวาเลนไทน์ เพราะเราถือเอาตามจันทคติ ซึ่งเป็นเรื่องอยากพอสมควรที่จะทำให้เด็กวัยรุ่นหนุ่มสาวจดจำวันดังกล่าวนี้ได้ แต่นี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่สำคัญคือเราจะทำอย่างไรให้เขาเหล่านั้นซึ่งจะเป็นผู้ใหญ่ในอนาคตได้เรียนรู้และเข้าใจถึงความสำคัญของวันมาฆบูชาได้อย่างถูกต้อง เช่นเดียวกับการที่พวกเขารู้จักวันวาเลนไทน์ จึงฝากเป็นข้อคิดให้ช่วยกันหาทางแก้ไข ก่อนที่จะสายเกินแก้ ก่อนที่วันมาฆบูชาจะถูกลืมและไม่มีใครรู้จัก
กิจกรรมที่พึงปฏิบัติในวันมาฆบูชา
เนื่องจากวันมาฆบูชาเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ที่ชาวพุทธได้ถือปฏิบัติเป็นกิจกรรมพอสรุปได้ดังนี้คือ
- การทำบุญตักบาตร
- การฟังพระธรรมเทศนา
- การรักษาศีลและเจริญสมาธิภาวนา
- การเวียนเทียน ฯลฯ
บทสรุป
วันมาฆบูชาเป็นวันของพระธรรมเพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงวางหลักการของพระพุทธศาสนาเอาไว้อย่างมั่นคงเป็นปึกแผ่นเป็นครั้งแรก นอกจากนั้นวันมาฆบูชายังได้ชื่อว่าเป็นวันแห่งความรักในทางพระพุทธศาสนา เนื่องมาจากหลักธรรมที่ทรงแสดงในวันนั้นเป็นสิ่งที่แสดงถึงความรัก อันเป็นความรักที่ประกอบด้วยเมตตาธรรม ปรารถนาดีต่อกัน เว้นจากทุจริต เพราะฉะนั้น วันมาฆบูชาจึงอาจกล่าวได้ว่า เป็นวันแห่งความรักสากลที่ทุกคนควรตระหนักให้ความสำคัญและถือปฏิบัติกันอย่างแท้จริง
กำลังศึกษาปริญญาตรี พธ.บ.(ภาษาอังกฤษ) ปี4 มหาจุฬาฯ,ฺ B.B.(Buddhist Studies) ปี 3 DOU California, USA.
ปัจจุบันจำพรรษาอยู่ที่ วัดอิสาน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th