|
|
|
 |
ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
นุ้ย
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
26 ส.ค. 2006, 5:30 pm |
  |
จากที่ได้อ่านหนังสือธรรมคีตาของนภาจรี หน้า36-37 แล้วเกิดความประทับใจในเรื่องของเวทนาด้านต่าง แล้วมีข้อความที่เป็นประโยชน์แก่เยาวชนจึงต้องการที่จะเผยแพร่แก่เยาวชน เพื่อเป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิต
เวทนา 6
เวทนา 6 (การเสวยอารมณ์ feeling)
1. จักขุสัมผัสสชา เวทนา (เวทนาเกิดจากสัมผัสทางตา feeling arisen from visual contact)
2. โสต ~ เวทนา (เวทนาเกิดจากสัมผัสทางหู from auditory contact)
3. ฆาน ~ เวทนา (เวทนาเกิดจากสัมผัสทางจมูก from olfactory contact)
4. ชิวหา ~ เวทนา (เวทนาเกิดจากสัมผัสทางลิ้น from gustatory contact)
5. กาย ~ เวทนา (เวทนาเกิดจากสัมผัสทางกาย from physical contact)
6. มโน ~ เวทนา (เวทนาเกิดจากสัมผัสทางใจ from mental contact)
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต) พิมพ์บริษัท สื่อตะวัน จำกัด กทม. พ.ศ.2545 (สํ.สฬ. 18/434/287)
อายตนะ6
เมื่อ ตา, หู, จมูก, ลิ้น, กาย ใจ อันเป็นอายตนะ6แห่งมนุษย์ ได้มองเห็น, ได้ยิน, รู้กลิ่น, รู้รส, รู้สัมผัส และรู้ความเจ็บปวด
เมื่อนั้นจิตจะเสวยอารมณ์เกิดเวทนา ทุกข์ สุข ถ้าเมื่อใดนำอารมณ์มาปรุงแต่ง ย่อมนำไปสู่กิเลส โลภ โกรธ หลง ในที่สุด แล้วกิเลสก็จะเผาผลาญให้เร่าร้อนทุรนทุราย จึงควรระงับดับอารมณ์ด้วยการมีสติ ทุกขณะแห่งจิตตน
(นภาจรี)  |
|
|
|
|
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
26 ส.ค. 2006, 11:10 pm |
  |
ถ้าคนรู้จักความสงสารผู้อื่นโลกก็จะน่าอยู่ไปด้วย  |
|
|
|
|
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
27 ส.ค. 2006, 4:39 am |
  |
คนทุกคนควรที่จะมีการแบ่งปันสิ่งของที่แบ่งปันได้ให้กับผู้ที่ไม่มี หรือผู้ที่ด้อยกว่าเรา  |
|
|
|
|
 |
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่

เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773
|
ตอบเมื่อ:
27 ส.ค. 2006, 5:55 am |
  |
สาธุครับ
มีคำกล่าวที่ว่า พระอรหันต์ ท่านจะมีเฉพาะเวทนาทางกาย แต่ไม่มีเวทนาทางใจแล้ว....
กล่าวคือ ท่านก็ยังรู้สึก ร้อน หนาว ต้องกระทบกับอารมณ์ที่น่าพอใจหรือไม่น่าพอใจอยู่ต่างๆอยู่..... แต่เวทนาเหล่านั้น ก็ สักแต่ว่าเป็นเวทนา เท่านั้น...... ใจท่านไม่เป็นสุขจนลุ่มหลง หรือทุกข์จนต้องผลักไสเวทนาเหล่านั้นแล้ว
ถ้าดูจากวงจรปฏิจจสมุปบาท ก็คือ ว่า เวทนานั้นไม่มีอำนาจที่จะสืบต่อจนเป็นตัณหาแล้ว(เวทนาดับ ตัณหาจึงดับ)..... เวนาดับ ก็เพราะผัสสะดับ นั้น หมายถึง ผัสสะนั้นเป็นผัสสะธรรมดาที่ไม่มีอวิชชาเป็นรากเหง้าผ่านมาตามสายของปฏิจจสมุปบาท ผัสสะนั้นจึงปราศจากอำนาจที่จะทำให้ใจเกิดชอบ หรือ ไม่ชอบขึ้น
จะเรียกว่า เหนือเวทนา แบบธรรมเทศนาของ หลวงปู่ ชา สุภัทโท ก็ได้
เหนือเวทนา
http://www.ajahn-chah.org/aj12.htm |
|
|
|
  |
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
27 ส.ค. 2006, 4:18 pm |
  |
เห็นด้วยครับการเวทนาบางครั้งขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเจ้าตัวเอง ว่าจะมีเวทนาเป็นอย่างไรบ้าง จะมีเวทนาในระดับใด |
|
|
|
|
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
27 ส.ค. 2006, 4:28 pm |
  |
ขออนุโมธนากับคุณตรงประเด็นด้วยครับเพราะการเวทนาทางกายแต่ไม่เวทนาทางใจแล้ว จะทำให้รู้สึกร้อนๆหนาวนา  |
|
|
|
|
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
27 ส.ค. 2006, 7:49 pm |
  |
การเวทนานั้นควรต้องเวทนาทั้งกายและใจจึงจะเกิดความสุขที่แท้จริง  |
|
|
|
|
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
27 ส.ค. 2006, 7:53 pm |
  |
สาธุ  |
|
|
|
|
 |
|
|
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่ คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลงคะแนน คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้ คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
|
| | |