Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 สมาธิคืออะไร อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ภาวิณี ผ่องภิรมย์
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 11 ส.ค. 2006
ตอบ: 1

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2006, 8:08 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สู้ สู้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
อ้อมแอ้ม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2006, 11:02 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สมาธิคือ ความตั้งมั่นของจิต
หรือจิตสงบระงับจากนิวรณ์
สู้ สู้
 
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2006, 11:16 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สมาธิ นั้น มีทั้งที่เอื้ออำนวยต่อการรู้ธรรม และที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการรู้ธรรม

สมาธิที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการรู้ธรรม หรือที่พระป่าท่านเรียกว่า"สมาธิหัวตอ"นั้น มีลักษณะเข้าไปสงบเฉยๆ อาจจะมีปีติ สุข หรือการรู้เห็นสิ่งแปลกๆ จากสมาธิ หรือบางท่านก็อาจจะขาดสติแล้วดับวูบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวก็มี

ส่วนสมาธิที่เอื้ออำนวยต่อการรู้ธรรมนั้น หมายเอาถึงสัมมาสมาธิในองค์มรรค สมาธิในลักษณะนี้จะเป็นสมาธิที่เปี่ยมด้วยสติ เอื้อต่อการรู้ธรรม..... อาจจะสงบลึกก็ได้ หรือ อาจจะไม่จำเป็นต้องรวมลงลึกถึงขั้นณานก็ได้...... อาจจะเป็นในลักษณะคล้ายๆว่ายังมีลักษณะที่คิดแบบสงบได้อยู่ พิจารณาธรรมต่างๆได้อยู่ หรือที่หลวงปู่ชา สาธุ ท่านเรียกว่า น้ำไหลนิ่ง...... คือว่า มันไหล แต่มันนิ่ง......สมาธิแบบนี้จึงจะเป็นประโยชน์ต่อการรู้ธรรม
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773

ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2006, 11:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า อวิชชามีนิวรณ์เป็นอาหาร(เครื่องหล่อเลี้ยง).....

ถ้าไม่ให้อาหารแก่อวิชชา อวิชชามันก็ผอมลงได้เหมือนกัน...... สมาธิคือ ธรรมที่ระงับนิวรณ์ห้า ซึ่งก็คือสมาธินี้บั่นทอนกำลังของอวิชชา..... แต่สมาธิไม่ได้เป็นตัวฆ่าอวิชชาโดยตรง...... ญาณ หรือ ปัญญาที่เกิดขึ้น ในอาสววักขยญาณเท่านั้นจึงเป็นธรรมที่กำจัดอวิชชาได้อย่างหมดจด. แต่สมาธินี้ก็มีความสำคัญมาก..... ท่านอาจารย์ ชยสาโร ท่านเปรียบสมาธินี้เหมือนยาสลบที่ให้แก่ผู้ป่วยที่ผ่าตัด กล่าวคือยาสลบนี้จะช่วยให้ผู้ป่วยอยู่นิ่งๆ แพทย์ผ่าตัด(เปรียบเหมือนปัญญา)จึงจะทำงานได้เต็มที่

สมาธิคือ หยุดความคิด..... สติ คือรู้เท่าทันความคิด..... ปัญญา คือ เห็นแจ้งจนพ้นทุกข์. ความสมดุลของ ธรรมทั้งสามนี้ไปด้วยกันตลอดสาย จึงจะนำไปสู่การสิ้นทุกข์ที่ไม่กลับกำเริบอีกได้ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง