Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ยังเป็นทุกข์อยู่ไหม.. อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
สงสัย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 31 ก.ค.2006, 6:16 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คือชอบเข้ามาอ่านธรรมะในเว็บนี้มาก แล้วเห็นว่ามีผู้ตั้งกระทู้ หรือตอบกระทู้ต่าง ๆ มากมาย
เหมือนว่ารู้แจ้ง รู้จริง กันเยอะ อยากรู้ว่าในชีวิตประจำวัน ยังเป็นทุกข์อยู่ไหม...
แล้วธรรมะที่รู้ นำไปใช้ได้จริงหรือเปล่าเมื่อเกิดปัญหา..
 
จิศาณา
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 31 ก.ค.2006, 7:14 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อายหน้าแดง ----- ยังไม่พ้นทุกข์หรอกค่ะ แต่ว่า ทุกข์นั้นน้อยลง เพราะทุกข์มาจากจิตที่เราชอบปรุงแต่ง เมื่อเราได้หลักธรรมมาใช้ ความปรุงแต่งลดลง ความยึดมั่นมันลดลง ไอ้ที่พูดอะไรมาหน่อยเดียว ฉันติดใจแทบตาย นั่งกอดความคิดนั้นไว้ ตั้ง 3 วัน - 2 ปี กว่าจะลืม กลับกลายเป็น ไม่เกิน 24 ชม. หรือ 3 ชม. หาย มันวิเศษ สำหรับคนอย่างเราๆ

ความวิตกจริต เบาลง ชอบติเตียนคนอื่นเบาลง ความขัดหูขัดตา เบาลง อารมณ์เสีย หายไปจ๊อยๆ นานๆ มาที แต่หายเร็ว เท่านี้ก็น่าจะ พอใจในระดับหนึ่งนะ สาธุ

เจริญในธรรม
จิศาณา หลับ
 
ภูเขาน้ำแข็ง
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 13 พ.ค. 2006
ตอบ: 46

ตอบตอบเมื่อ: 31 ก.ค.2006, 8:44 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ ยังเป็นทุกข์อยู่ จ้า (ทุกข์กายนะ ส่วนทุกข์ใจจะไม่ค่อยมี เพราะยอมรับธรรมชาติของชีวิต)

"แล้วธรรมะที่รู้ นำไปใช้ได้จริงหรือเปล่าเมื่อเกิดปัญหา.. " - นำไปใช้ได้จริงจ้า

สาธุ
 

_________________
อย่าดับความอยากด้วยการสนอง จงดับโดยวางเฉย
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ตรงประเด็น
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ก.ค. 2006
ตอบ: 773

ตอบตอบเมื่อ: 01 ส.ค. 2006, 12:05 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ยังเป็นทุกข์อยู่ไหม.....

ก็คงจะมีแต่พระอรหนัต์เท่านั้นที่พ้นทุกข์..... พระอนาคามีก็ยังมีทุกข์ละเอียดอยู่เลย...... พระสกทาคามี พระโสดาบัน ก็ยิ่งมีทุกข์หยาบมากขึ้น.....
แต่ตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป ท่านเห็นจุดจบของทุกข์ จะเรียกว่าเห็นบทอวสานของทุกข์แน่นอนแล้ว

ปุถุชน คงไม่ต้องพูดถึง..... ทุกข์กันจนเป็นบ้า น้ำตาไหลนอง ร้องไห้ ร้องไห้ ร้องไห้ ทุกข์จะไปจบเมื่อไรก็ไม่รู้

การพูดคุย(รวมทั้งการอ่าน)ธรรมะนี้ ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะการที่จะพ้นทุกข์ได้นั้นก็ต้องอาศัยสองสิ่งคือ
1.มีกัลยาณมิตร(ทั้งระดับเพื่อนๆที่คอยเตือนสติ แนะนำซึ่งกันและกัน....ไปจนถึงครูบาอาจารย์)
2.การโยนิโสมนสิการ(การกระทำใจให้แยบคายในธรรม)
ถ้าเราไม่คบเพื่อนทางธรรมไว้เลย สำหรับเรา-ท่าน ที่มีสติปัญญากันขนาดนี้ (รวมทั้งผมด้วย ยิ้มเห็นฟัน ) การจะอาศัยโยนิโสมนสิการเอาเองจนเห็นทางพ้นทุกข์ด้วยตนเองคงจะยาก......เวลาทุกข์จะทุกข์มาก เพราะจะจมอยู่กับความคิด คิดวนเป็นมดแดงไต่ขอบกระด้ง.... แต่ถ้ามีกัลยาณมิตรไว้ ก็จะเป็นประโยชน์ตรงนี้ ไม่มากก็น้อย

ส่วนที่ถามว่า ธรรมะนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ไหมนั้น..... ก็ต้องขอตอบด้วยคุณสมบัติของพระธรรมที่ว่า "จงกล่าวกับผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด"..... คือชวนให้ทดลองศึกษาและปฏิบัติเอง..... ถ้าผลที่ปรากฏเป็นความลดลงของทุกข์ปรากฏให้เห็น นั่นล่ะถึงจะเรียกว่า ตนเป็นพยานของตน...... สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
เวียนว่าย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 ส.ค. 2006, 5:26 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เพิ่งเข้ามาครับ เป็นทุกข์อยู่
 
เล่าสู่กันฟัง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 ส.ค. 2006, 5:39 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

" ..ธรรมทั้งหลายตกอยู่ในไตรลักษณ์ มีทุกขา มีอนิจจา มีอนัตตา ทั้งสามนี้ให้สำนึก พึงรู้ ทุกขังชาติความเกิดมาเป็นทุกข์ อนิจจังมันไม่เที่ยง มันแปรเป็นอื่น อนัตตาไม่ใช่ตัวตน บอกมันก็ไม่ฟัง บอกไม่ให้มันแก่มันก็แก่ ฟันบอกไม่ให้มันหลุดมันก็หลุด หัวบอกไม่ให้มันหงอกมันก็หงอก หนังบอกไม่ให้มันเหี่ยวมันก็เหี่ยว ผลที่สุดไม่นานก็นอนตายทับแผ่นดิน ส่วนดินก็ไปเป็นดิน ส่วนน้ำก็ไปเป็นน้ำ ส่วนลมก็ไปเป็นลม เหลือแต่ดวงวิญญาณนี้เท่านั้นนี่ ธาตุ ๔ ให้พิจารณาแยกออก ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ธาตุดินต่างหาก ธาตุน้ำต่างหาก ธาตุลมต่างหาก ธาตุไฟต่างหาก มารวมกันแล้วก็ดับไป เป็นของไม่แน่นอน เป็นอนิจจังไม่เที่ยง ทุกข์ขังมีแต่ทุกข์ถ้าใครไปยึดไปถือ.. "
 
อ่าง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 ส.ค. 2006, 8:07 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ยังมีทุกข์อยู่จ้า.......แต่เมื่อเกิดปัญหาธรรมใช้ได้จริงจ้า.....แต่ก่อนเป็นคนใจร้อนม๊าก มากจ้า.. พอหันมานั่งสมาธิ สติสามารถกำกับจิตตนเองได้พอควร เวลาเริ่มโมโห ก็พอจะรู้สึกตัวเองควบคุมความโกรธได้บ้าง ธรรมเสมือนน้ำดับไฟใจเย็นลงเยอะเลย แต่หากเผลอสติ กิเลสแทรกมากๆ ก็เป็นทุกข์เหมือนกัน จะเรียกสติกลับคืนมาหันมาพิจารณาทุกข์คือกิเลสตัวนั้นนะ เกิดที่จิตย่อมดับลงที่จิต ฤาจะแพ้กิเลสก็ให้มันรู้กัน จะนั่งสมาธิสู้ไม่ถอย จิตก็คลายทุกข์ลงได้เหมือนกันจ้า...นี่คือเรื่องที่ได้ปฏิบัติแล้ว จึงนำมาเล่าค่ะ......แต่กว่าจะนำธรรมมาใช้ได้จริง ใช้เวลาฝึกฝนอยู่นานมากค่ะ เพราะโชคดีที่เจอครูบาอาจารย์ดี........อย่างน้อยชีวิตนี้เชื่อกฏแห่งกรรม ระมัดระวังการกระทำ มีความทุกข์ลดลงค่ะ
ยิ้มเห็นฟัน
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง