Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 เรื่องสั้นว่า มติ บ่ายโมง หน้าโรงภาพยนต์ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
งงเต๊กเก๊กซิม
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 08 ก.ค.2006, 6:55 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เรื่องมีอยู่ว่า คน 3 คน กำลังสนทนาพาที ฉันท์มิตรทั่วไป

มากล้น - ฉันชอบ เข้าวัด ทำบุญ ถือศีล สะสมความดีไว้เยอะๆ ตายแล้วจะได้ไปเกิดบนสวรรค์ หากบุญน้อยไม่พอได้ไปสวรรค์ ขอชาติหน้าเกิดมามั่งมีร่ำรวย ก็ยังดี

มากมี - เพ้อฝัน ! หัวโบราณ ยุควิทยาศาสตร์แล้ว นรก สวรรค์ จะมีอยู่จริงได้อย่างไร เหนื่อยเปล่าเสียเวลา สู้ทำงานหาเงิน เสพสุขดั่งใจหมาย จะไม่ดีกว่าหรือ

มากล้น - ทำไมพูดอย่างนี้ ฤาเพื่อนว่า นรก สวรรค์ ไม่มีอยู่จริง

มากมี - ถูกแล้ว เราเชื่ออย่างนั้น จะมีจริงได้อย่างไร ในเมื่อไม่อาจ พิสูจน์ ให้คนนับล้านเห็นได้ด้วยตาพร้อมกัน เทคโนโลยีพัฒนาไปไกลแล้วปัจจุบันนี้ อวกาศกำลังถูกสำรวจ นรก สวรรค์ อย่างว่านั้น
อยูที่ใด คงแค่อุบายของคนโบราณกุขึ้นมาให้คนกลัวบาป กระมัง

มากล้น - เป็นจริงอย่างเพื่อนว่า ไม่มีใครสามารถพิสูจน์ให้คนนับล้านเห็นเองด้วยตาพร้อมกันได้ ถ้าเช่นนี้ ทำไมมีเรา เหตุที่มีเรา เราเกิดมาทำไม แล้วเรา จะเป็นอย่างไรต่อหลังจากตายไปแล้ว คำถามข้องใจดั่งว่ามานี้ เพื่อนมีคำตอบไหม

มากมี- เราเพียงเชื่อว่าตายแล้วสูญ ตามสมัย แต่ทำไมมีเรา เหตุที่มีเรา เราเกิดมาทำไม ไม่รู้จะตอบอย่างไรดีเหมือนกัน

มากล้น - เพื่อนไม่รู้จริงแบบนี้ พูดขัดขึ้นมาได้อย่างไร นกน้อยยังเลือกต้นไม้ทำรังให้อุ่นใจ เราก็เช่นกัน มีความรักตนเอง จึงเลือกเชื่อสวรรค์ให้อุ่นใจ เปรียบได้กับการอดออมไว้กินตอนแก่ คือสะสมบุญไว้กินชาติหน้า มี หรือ ไม่มี นั้น คงกล่าว ลอยๆ ขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุประกอบนั้น เป็นไปไม่ได้ จริงอย่างว่าไหม เวิ้งว้าง

เวิ้งว้าง - ถ้าจะถกเถียงกัน อาจกล่าวได้ว่า ทุกสิ่ง ไม่อาจเกิดขึ้นมาโดยไม่มี สาเหตุ พวกเราเองก็เหมือนสิ่ง เหล่านี้ คือ ล้วนมีเหตุ เป็นที่เกิด ตราบใดที่คนนับล้านยังไม่เห็นเองกับตาพร้อมกัน คงเชื่อได้ยากว่า นรก สวรรค์ นั้น มีอยู่จริง แต่ ตราบใดที่ยังไม่รู้กำเนิดอันเป็นที่สุดของสรรพสิ่งแล้ว ก็ยังไม่อาจปฏิเสธได้ว่า นรก สวรรค์ นั้น ไม่มีอยู่จริง ถ้าจะให้ตอบว่า มี หรือ ไม่มี อย่างเด็ดขาดนั้น เป็นเรื่องยากมาก

มากมี - ถ้าต่างฝ่าย ต่างไม่รู้จริง ตายแล้วสูญ ตายแล้วเกิด คงยังเป็นเพียง ความเชื่อ เอาไว้ตายเองแล้ว ค่อยพิสูจน์เองกับตัวเลยดีกว่า เสียเวลาทุ่มเถียงกัน

มากล้น - นั่นสิ พรุ่งนี้เช้า ฉันต้องเข้าวัดทำสังฆทานกับครอบครัว ไว้เวลาบ่ายโมงค่อยเจอกันที่หน้า โรงภาพยนต์ ได้ไหม

มากมี - บ่ายโมง ก็ บ่ายโมง ตกลง หน้าโรงภาพยนต์ นะ

เวิ้งว้าง - ดีๆ ไม่ขัดความเชื่อ ไม่ขัดกฎหมาย พรุ่งนี้บ่ายโมงเจอกัน

บาย ๆ ๆ

สวัสดี สาธุ
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง