|
|
|
 |
ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
จ๊ะเอ๋
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
06 ต.ค.2006, 10:57 pm |
  |
ดิฉันเป็นคนเจ้าอารมณ์ โกรธง่าย (หายเร็ว..ซึ่งก็ไม่ดีอยู่ดี)
ช่วงแรกดิฉันพยายามจะใช้วิธีนับ 1-10 เพื่อจะให้นิสัยไม่ดีนี้น้อยลง แต่อารมณ์โกรธมักจะมาไวกว่าเลข 1 เสมอ ดังนั้นดิฉันจึงเปลี่ยนมาเป็นสวดมนต์ (อ่านตามบทสวดวนไปมาประมาณ 30 นาที) แล้วทำสมาธิต่อจึงเข้านอนแต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผลสำเร็จ นอกจากนี้ดูเหมือนดิฉันจะเจ้าอารมณ์มากขึ้นอีก เป็นไปได้มั้ยที่ดิฉันภาวนาผิดวิธี
รบกวนผู้รู้แนะนำด้วยเถอะ |
|
|
|
|
 |
COMA
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
07 ต.ค.2006, 9:57 am |
  |
ผมก็เป็นบ่อยๆ แต่ผมรู้ทุกครั้งที่โกรธมันรู้สึกทุกข์มากๆ ก็เลยรู้สึกว่าโกรธไปก็เท่านั้นโกรธทำไมให้เผาใจตนเอง มองดูแล้วไม่มีประโยชน์อะไรไร้สาระ ที่เราทุกข์ทุกวันนี้เพราะเรามัวแต่เพ่งโทษคนอื่นเพ่งโทษสภาวะแวดล้อม อยากให้มันเป็นไปดั่งใจทุกอย่าง(โลภะ) พอไม่ได้อย่างใจก็โกรธไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้(โทสะ) หลงอยู่กับความเห็นของตนเองซึ่งไม่รู้ว่าผิดหรือถูก(โมหะ)
มีสติรู้ทันอารมณ์ไม่ว่าจะรัก จะเกลียด จะโกรธความเคยชินก็จะค่อยๆบรรเทาเบาบางไปเอง |
|
|
|
|
 |
แนะนำ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
07 ต.ค.2006, 12:53 pm |
  |
ตอบ
ทำใจให้สบายๆ
กรณีอย่างคุณ ไม่ใช่เรื่องแปลก มีคนเป็นแบบนี้กันเยอะ ครับ
เพราะ
ความจริงแล้ว กิเลส โทสะ จะถูกทำลายให้หมดไปจริงๆ
ก็ต้องเป็น พระอริยะระดับสูง คือ พระอนาคามี
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
วิธีแก้ไข
1. สาเหตุทางโลก
1.1) ทางกายของเรา
กายก็อิทธิพลถึงจิตได้ ( แต่ละคนไม่เหมือนกัน)
เช่น ฮอร์โมนเพศ, การมีประจำเดือน, โรคประจำตัว, โรคทางสมอง ,
โรคเกี่ยวกับระบบประสาท, ความอ้วน, ความผิดปกติของอวัยวะ, ความพิการ ฯลฯ
ถ้าเป็นแบบนี้ ก็ต้องไปหาแพทย์รักษาด้วย ครับ
1.2) สิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา
เช่น บุคคล สถานที่ สัตว์ อากาศ อาหาร ฯลฯ ไม่เหมาะกับเรา
แบบนี้ ต้องจัดการแก้ปัญหาที่สิ่งนั้นๆ โดยตรง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
2. สาเหตุทางธรรม
2.1) กรรมเก่าในอดีตชาติ
บางคนเป็นเพราะกรรมเก่า ทำให้มีนิสัยโกรธง่าย
เช่น ขณะทำบุญมักโมโหหงุดหงิด, ชอบแก้ยั่วโมโหคนอื่นทำให้เขาเดือดร้อน,
แสดงอารมณ์โกรธ-ดุด่า-ว่าร้ายต่อพระสงฆ์ (ต่อหน้า/ลับหลัง) ฯลฯ
แบบนี้ แก้โดย
- หมั่นทำบุญ (บุญกิริยาวัตถุ 10 ประการ)
แล้วอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร และ ขอให้เขาอโหสิกรรมให้
- หมั่นขอขมาพระรัตนตรัย ทุกวัน (บทสวดทำวัตรเย็นมีบทขอขมานี้)
- หมั่นสวดมนต์บทแผ่เมตตา (ควรสวดบทแปลเป็นไทยด้วย) ทุกวัน
- หมั่นแผ่เมตตาจิต ในชีวิตประจำวัน
(เช่น ใครทักทายเรา / ทำดีให้เรา เราก็นึกในใจว่า ขอท่านจงมีความสุข)
2.2) นิสัยส่วนตัว (ทางใจ)
คนที่มีนิสัยโกรธง่าย
แต่เลิกไม่ได้
*** มิใช่ เพราะ เขาไม่มีปัญญาที่จะคิดได้ว่า สิ่งใดบาป บุญ ถูก ผิด
แม้จะมีคนมาพูดธรรมะให้ฟังมากเพียงใด มันก็ยังเลิกไม่ได้
*** แต่เป็นเพราะ "พลังจิตมีน้อย"
จิตจึงไม่เข้มแข็ง ไม่แข็งแกร่งเพียงพอ ที่จะเอาชนะใจตนเอง
อุปมาเหมือน
การจะฟันต้นไม้ใหญ่ให้ขาด
ต้องมีทั้ง ดาบคม + กำลังกายแข็งแรง
ดาบ เทียบได้กับ ปัญญา
กำลังกาย เทียบได้กับ พลังจิต
แม้จะหมั่นลับดาบให้คม อยู่เป็นประจำ
แต่ ถ้ากำลังกายที่จะออกแรงฟันลงไป ไม่มากพอ
ตราบนั้น ก็ยังฟันต้นไม้ไม่ขาด
ต่อเมื่อ เพิ่มกำลังกาย(พลังจิต) ได้มากเพียงพอ
และ ดาบ(ปัญญา) ถูกลับให้คมดีแล้ว
เมื่อนั้น ก็จะสามารถฟันต้นไม้ขาดได้ ในที่สุด ครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
*** การแก้ทางธรรมะที่ถูก คือ ต้องใช้ พลังจิต + ปัญญา ***
ปัญญา
ทำให้เพิ่มได้ โดยการ อ่านหนังสือธรรมะ ฟังเทศน์
*** เข้าวัดทำบุญ (บุญนำความเย็นมาสู่ใจได้)
สนทนาธรรมกับพระ คุยกับเพื่อนที่แนะนำแต่สิ่งที่ดี
*** หมั่นใช้ปัญญาใคร่ครวญพิจารณาให้เห็น โทษของความโกรธ + คุณของเมตตา
พวกนี้ ต้องทำบ่อยๆ ทุกวัน
พลังจิต
ทำให้เพิ่มมากขึ้นได้ โดยการ นั่งสมาธิ ต้องทำบ่อยๆ เช่นกัน
ยิ่งมีพลังจิตมาก จิตก็จะมีความเข้มแข็งสูง สามารถระงับความโกรธได้ง่าย
*** เมื่อพลังจิตมากขึ้น ก็จะทำให้สติ เจริญดีขึ้นตามไปด้วย อย่างอัตโนมัติ
ทำให้มีสติควบคุมอารมณ์ ในชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้น
เมื่อ เพิ่มพลังจิต + เพิ่มปัญญา ได้มากจนถึงจุดพอเพียงแล้ว
ก็จะหายจากการเป็นคนโกรธง่ายได้ในที่สุด ครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
การที่คุณบอกว่า สวดมนต์ + นั่งสมาธิ ก็แล้ว แต่มันก็ยังไม่หายนิสัยโกรธง่าย
และดูเหมือนจะรุนแรงยิ่งขึ้น เป็นไปได้มั้ยที่ดิฉันภาวนาผิดวิธี ?"
ตอบว่า
ไม่ใช่ภาวนาผิดวิธี
คุณทำถูกทางแล้ว ครับ
*** ระหว่างนี้ เป็นเรื่องธรรมดาที่ กิเลส-โทสะ มันจะต่อต้านกลับ
ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผู้ปฏิบัติธรรม ที่โดนกิเลสโต้กลับ /ดีดกลับแบบนี้
บางทีการโต้กลับ / ดีดกลับของกิเลส ก็รุนแรงกว่าเดิม
อุปมา
เหมือนจะจับม้าดื้อพยศ มัดติดเสาไว้
ตอนแรก ม้าก็ต้องขัดขืนเป็นธรรมดา
*** เตะดีดใส่เราแรงๆ หลายครั้ง
แต่ถ้าเราเอาเชือกผูกไว้ และ พยายามเอาแส้ตีมัน บ่อยๆ สุดท้ายมันก็ยอมแพ้เราในที่สุด
*** การสะสม พลังจิต + ปัญญา ให้เพิ่มขึ้น เพื่อเอาชนะกิเลสนั้น
บางคนก็ต้องใช้เวลาพอสมควร จึงจะไปถึงจุดสะสมที่เพียงพอได้
*** ความอดทนรอ จึงเป็นสิ่งสำคัญ ครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
*** วิทิสาสมาธิ (ของหลวงพ่อวิริยังค์) ***
หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล กรุงเทพฯ
(ศิษย์เอกองค์หนึ่งของหลวงปู่มั่น)
ได้แนะนำวิธีนั่งสมาธิ ที่ง่ายที่สุด และ ใครๆก็ทำได้ ดังนี้
วิทิสาสมาธิ คือ
นั่งสมาธิ แค่ครั้งละ 5 นาที
วันละ 3 ครั้ง(เช้า-กลางวัน-เย็น) ทุกวัน
วิทิสาสมาธิ เป็นรูปแบบสมาธิที่ง่ายที่สุด
แต่ให้ผลเพิ่มพลังจิต ได้อย่างมหาศาล
เหมาะกับ คนสมัยใหม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาทำสมาธิ
ด้วยติดขัดภาระกิจ-การงาน-ปัญหาในชีวิตประจำวัน
เพราะใช้เวลาทำสมาธิแค่ 5 นาที ครับ
*** บางคน ถ้าจะให้หมั่นภาวนาเรื่อยๆ ในขณะยืน-เดิน-นั่ง-นอน / ระหว่างการทำงาน
แต่เอาเข้าจริงๆ เขาก็ทำไม่ได้ เพราะ ใจมัวแต่พะวง-กังวลเรื่องงาน
*** วิทิสาสมาธิ จึงเป็นการทำให้ง่าย สำหรับทุกคน
เพราะ กำหนดเป็นเวลาชัดเจน 3 เวลา คือ เช้า-กลางวัน-เย็น
เหมือน การทานข้าว/ยา ให้ตรงเวลา 3 มื้อ แค่นั้นเอง
สำคัญที่สุด คือ "ต้องทำทุกวัน" (ห้ามขาดแม้แต่วันเดียว)
และ ถ้าทำ ติดต่อกัน แค่ 1 - 3 เดือน รับรองเห็นผลดี แน่นอน ครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
*** อานิสงส์ของเมตตา ***
พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ เมตตามีอานิสงส์ 11 อย่าง คือ....
ทั้งนอน(และ) ตื่นชื่นสุข นั้นทุกเมื่อ
ไม่ฝันเอื้อชั่วร้ายหายหมดสิ้น
เป็นที่รักนัก(ของ)มนุษย์สุดชีวิน
อมนุษย์ไหนถิ่นย่อมยินดี (= แม้อมนุษย์(ผี)ก็รักเมตตาผู้นั้น)
เทวดาย่อมรักษาว่าอย่างนั้น
ยาพิษกั้นไฟศัสตราล่าถอยหนี (= ไม่โดนยาพิษ,อาวุธทำร้าย)
จิตตั้งมั่นแน่มีรี่เร็วดี (= เป็นผู้มีสมาธิดี)
หน้ามีสีผ่องใสไร้หมองตา
ไม่ลุ่มหลงตอนตายหายจากร่าง
แม้นไม่ถึงนิพพานผ่านพรหมา
พรหมโลกแล่นไปในวันลา
(= เมื่อตายแล้ว ถ้ายังไม่ไปนิพพาน
ก็จะไปเกิดเสวยสุขในพรหมโลก
ซึ่งดีกว่า โลกสวรรค์และมนุษย์)
สิบเอ็ดค่าความเมตตาว่าเป็นตาม.
*** ขอให้รักษาเมตตาไว้ และทำให้มากขึ้นอีก ย่อมได้รับอานิสงส์ทั้ง 11 ข้อนี้
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอให้โชคดี และ หายเป็นคนโกรธง่ายได้อย่างเร็วที่สุด ครับ  |
|
|
|
|
 |
จ๊ะเอ๋
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
11 ต.ค.2006, 7:21 pm |
  |
อนุโมทนาสาธุ
ขอบพระคุณมากค่ะ |
|
|
|
|
 |
พระจันทร์ยิ้ม
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
12 ต.ค.2006, 11:04 am |
  |
ขออนุญาติแนะนำเสริมครับ
นั่งสมาธิให้จิตใจเริ่มสงบผ่อนคลาย...สักพักหนึ่ง
รับรู้ความรู้สึกร่างกายของเรา...รับรู้อยู่เฉยๆ
เฝ้าดูวามคิดที่ผุดขึ้นมาในขณะนั้น...เฝ้าดูอยู่เฉยๆ
ติดตามให้เท่าทันทั้งร่างกาย ความคิดและอาการที่เกิดขึ้นภายใน...ติดตามอยู่เฉยๆ
รับรู้ เฝ้ดู ติดตาม อาการของร่างกาย ความคิด สภาวะภายใน ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น อยู่เฉยๆ มิต้องปรุงแต่ง มิต้องกังวลใด เหมือนเวลาเรากำลังนั่งดูหนังดูละคร...( กรุณาปิดมือถือก่อนทุกครั้งด้วย!!!)
ปฏิบัติเป็นประจำ เมื่อเรามีอาการโกรธก็จะทำให้เราเห็นอาการโกรธของเราได้เร็ว ก็สามารถหาเหตุผลมาเพื่อระงับอารมณ์โกรธได้ทัน เมื่อระงับได้บ่อยๆมันจะกลายเป็นระบบอัตโนมัติได้ คืออารมณ์โกรธจะเกิดและดับลงเองโดยที่ไม่ต้องหาเหตุผลมาระงับมัน
มีคาถาบทหนึ่ง ขออภัยไม่ทราบที่มา ผมจะท่องไว้เตือนสติเป็นระยะเหมือนกันครับ
...โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ทั้งโกรธ และโมโห ก็เป็นไอ้โง่ทำอะไรบ้าๆ... |
|
|
|
|
 |
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
16 ต.ค.2006, 2:46 pm |
  |
ดีค่ะที่ไม่โกรธติดค้างอยู่นาน การปฏิบัติธรรมตามแนว กาย เวทนา จิต ธรรม ช่วยได้ค่ะ ต้องไปหาครูอาจารย์ที่สามารถสอนท่านได้ กำหนดไปตามอารมณ์ เช่น โกรธก็กำหนดโกรธหนอ เป็นต้น  |
|
|
|
|
 |
เด็กเมื่อวานซืน
บัวใต้ดิน

เข้าร่วม: 22 ต.ค. 2006
ตอบ: 31
ที่อยู่ (จังหวัด): นนทบรี
|
ตอบเมื่อ:
22 ต.ค.2006, 1:49 pm |
  |
อารมณ์โกรธ ต้องใช้ อาณาปานสติ ลองปฏิบัติแบบนี้ คือ หายใจเข้าออก กำหนด พุทโธ ระยะสูดลมหายใจเข้าออกรวมกันแล้วให้มากกว่า 15 วินาที ขึ้นไป ค่อยๆเข้า ค่อยๆผ่อน โดยนั่งตอนเช้า 40 นาที ก่อนนอน 40 นาที เพียรปฏิบัติทุกวันให้เป็นกิจนิสัย ใจจะทันความโกรธเอง
( ยิ้มยิงฟัน จนเห็นเศษพริกสีแดง ) |
|
_________________ กินเหมือนสุกร อยู่เหมือนสุนัข ฝักใฝ่เสพกิเลสร่ำไป |
|
  |
 |
|
|
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่ คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ คุณไม่สามารถลงคะแนน คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้ คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
|
| | |