Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 จนปัญญา: ความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับตัวเอง อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ใบบอน
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 20 มิ.ย.2006, 11:41 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยากรบกวนผู้รู้ทั้งหลาย ช่วยแนะแนวทางที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้หน่อยค่ะ

ตอนนี้ย้ายจากทำงานต่างจังหวัด กลับมาอยู่เป็นเพื่อนแม่ที่บ้าน ซึ่งกลายเป็นอยู่กันสองคน
ตนเองเป็นคนเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษมาตั้งแต่เด็ก ๆ
แต่ว่าปัญหาใหญ่ที่จัดการไม่ได้สักทีคือ ความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับตัวเองนี่แหละค่ะ

แม่เป็นคนถือศีล ปฏิบัติธรรมตั้งแต่สาว ๆ จนตอนนี้ห้าสิบกว่า ๆ แล้ว แต่ที่ยังเป็นอยู่คือ การเป็นคนเจ้าอารมณ์ และไม่ยอมคน แม่เป็นคนที่ภูมิใจในตัวเองและเชื่อมั่นตัวเองสูงมาก อะไรที่ไม่ถูก แม่จะไม่ยอมรับ แต่ความผิดของคนอื่น แม้เล็กน้อยก็มองเห็น หากไม่พอใจแม่จะประชดประชัดทั้งวาจาและกิริยา แต่พอพยายามพูดด้วยเหตุผล ว่าทำไมต้องประชดประชัน แม่จะบอกว่าไม่ได้ประชด มักพูดว่าคนอื่นนั่นแหละคิดไม่ดี

จริง ๆ ก็เจอเรื่องแบบนี้ตั้งแต่เด็ก แต่พอไปเรียนและทำงานไกลบ้านก็ทำให้ซาลง บวกกับท่านอายุมากขึ้น ก็เย็นลงมากด้วย แต่เมื่อต้องกลับมาอยู่ด้วยกันก็มีปัญหาแบบเดิมอีก

วันก่อนได้ทะเลาะกันเพราะเสียใจกับคำพูดของแม่ ก็เลยทะเลาะกันขึ้นมา ตัวเองก็ร้องไห้ แม่ก็ร้องไห้ รู้ว่าบาปกรรมมาเยือนแน่ ๆ ที่ทำให้แม่น้ำตาตก
ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว ควรจะทำอย่างไรดีคะ ไปอยู่ที่อื่นให้ห่าง ๆ ไม่กระทบกระทั่งกัน แล้วปล่อยให้ท่านอยู่คนเดียว หรือจะอยู่อย่างนี้ต่อไป
พี่ชายคนเดียวที่มีอยู่ก็ทำงานต่างจังหวัด และไม่ค่อยอยากจะกลับมาบ้าน เพราะกลับมาแล้วก็ไม่สบายใจ

ส่วนตัวเองก็ท้อแล้ว ขนาดทำบุญด้วยสร้อยคอเพื่อให้วัดนำไปทำยอดเจดีย์ (ตอนนั้นยังไม่ทำงานมีเงินเดือน และคิดว่าโอกาสที่จะได้ทำบุญสร้างเจดีย์มีไม่บ่อย) แม่ยังเคยกล่าวใส่ว่าดิฉันทำบุญเอาหน้า

คิดอะไรไม่ออกเลยค่ะ
 
ลูกแม่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 20 มิ.ย.2006, 1:17 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ปล่อยวาง วิบากกรรมที่เราได้รับอยู่ทุกวันนี้ ก็คือผลที่เรากระทำมาในอดีต อย่าสร้างกรรมใหม่ โดยเฉพาะกับพ่อแม่ ในทางพุทธศาสนา พ่อแม่คือบุคคลที่ต้องให้ความเคารพบูชา เพราะท่านมีพระคุณกับเรามากมายมหาศาล อย่างน้อยที่สุดท่านก็เป็นครูคนแรกของเรา เราต้องคิดแต่เรื่องที่ดี ๆ ที่ท่านให้เราไว้ เราเป็นลูก หน้าที่ที่ดีก็คือเอาใจใส่ดูแลท่านให้ดีที่สุด
 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 20 มิ.ย.2006, 1:23 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบสวัสดี คุณใบบอน

ยกท่านไว้ อย่างไรก็เป็นผู้ให้กำเนิด หากไม่ใช่ท่านคุณคงไม่มีพื้นฐานจิตใจที่มุ่งทางบุญทางกุศล หน้าที่ของบุตรที่ดีคือเลี้ยงดูบุพการีผู้ให้กำเนิดเมื่อยามชราภาพ อย่าปล่อยท่านอยู่คนเดียว มีประโยชน์อะไรที่จะมานั่งร้องให้และจัดอาหารใส่ถาดยามเมื่อท่านสิ้นใจ การถือศีลและปฏิบัติธรรมเป็นสิ่งที่ดี คุณลองศึกษาเรื่องการเจริญสติและแนะนำท่านเรื่องการเจริญสติด้วยตัวคุณเอง เวลาไปทำบุญก็ชวนท่านไป ท่านอายุมากแล้วหากรู้ว่าผลแห่งการโต้ตอบเป็นอย่างไร ก็ควรเงียบซะ ด้วยเป็นผู้ให้เลือดเนื้อและชีวิต

สร้างโบสถ์ สร้างเจดีย์ แต่ลืมปัจจัยเงินทองที่จะส่งเสียให้บิดามารดา ก็เท่านั้น อย่าลืมท่าน รู้ว่ามีกันอยู่แค่สองคนก็อย่าทิ้งท่าน ความกตัญญูจะเกื้อหนุนคุณเอง หยุดร้องให้ได้แล้ว

เจริญในธรรม

มณี ปัทมะ ตารา
ผีเสื้อ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
อ่าง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 20 มิ.ย.2006, 4:41 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เหมือนกันเลย แม่เราก็เป็นแบบนี้ เป็นมานานจนอายุปัจุบัน 70 ปีแล้วค่ะพอดีแม่หมดแรงเลยเพลาลง จนเราต้องหันมาปฏิบัติธรรมแก้ที่จิตของตนเองค่ะพยายามตามจิตตนเองตลอดค่ะ รู้ตัวว่าทำกรรมเยอะรีบไปขออโหสิจากท่านก่อนค่ะ หมั่นสังเกตุเสมอเวลาแม่อารมย์เสียรีบหนีปิดประตูเข้าห้องค่ะ แม่หาไม่เจอก็บ่นคนเดียว จะได้ไม่ทะเลาะกันค่ะ มีแม่ถึงได้ปฏิบัติธรรม แม่มีบุญคุณหาที่อะไรยากจะเปรียบได้ค่ะ
 
ใบบอน
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 20 มิ.ย.2006, 11:40 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาให้คำแนะนำ พออ่านแล้วก็สบายใจขึ้น
แล้ววันนี้ก็ไปขอโทษแม่ สถานการณ์ดีขึ้นแล้วค่ะ

สาธุ ขอบคุณนะคะ
 
สุรพงษ์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 21 มิ.ย.2006, 7:59 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

บุญคือ 1. ทาน 2. ศีล และ3. ภาวนา เพื่ออะไรลองพิจารณาดูนะครับ
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง